โพสต์เมื่อ 29 November 2006 - 12:11 PM
บอกยากนะครับ แต่เท่าที่ผมดูน่าจะเป็นเทคนิคของเขามากกว่า ถ้าสังเกตุดูดีๆ บางคนในคริปที่คุณเจ้าของกระทู้เอามาให้ดูนี้ เมื่อเริ่มลอยตัวจะมีลักษณะเหมือนกับถูกกระฉากขึ้นไปอย่างแรง อย่างคริปแรก สังเกตุได้เลยว่าถูกกระฉากจนคนที่แสดงออกอาการตกใจอย่างเห็นได้ชัด และอีกคริปนึงที่เห็นได้ชัดคือคนที่ลอยตัวขึ้นไปเหยียบขอบกระถางต้นไม้ ซึ่งทั้ง2คริปนี้จะมีอาการตกใจของคนแสดงอยู่ไม่น้อย บางคริปแม้การลอยตัวจะขึ้นแบบนิ่มๆแต่จะมีลักษณะแขว่งไปมา เหมือนไม่คงที่เนื่องจากนําหนักตัวถ่ายเทไม่สมําเสมอ เท่าที่ผมเคยทราบมาคนเหล่านี้จะอาศัยหลักการของสนามแม่เหล็กไฟฟ้า โดยมีเครื่องกำเนิดสนามแม่เหล็กซ่อนไว้อยู่ใต้พื้น ซึ่งหามาได้ไม่อยาก ใช้พวกเครื่องปั่นไฟหรือไดนาโมก็ได้ครับ ส่วนที่ตัวผู้แสดงจะมีแท่งแม่เหล็กหรือเครื่องกำเนิดสนามแม่เหล็กขนาดเล็กพันรอบตัวไว้ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วเครื่องกำเนิดสนามพลังแม่เหล็กนั้น จะสร้างสนามแม่เหล็กในทิศทางเดียวกัน ดังนั้นจึงทำให้เกิดแรงยกวัตถุให้ลอยขึ้นได้ แต่การจะทำให้ลอยขึ้นมาได้แบบนิ่มๆนั้นต้องมีข้อแม้คือ เครื่องกำเนิดสนามแม่เหล็กนั้นต้องทำงานพร้อมกัน และต้องมีเครื่องทอนไฟเพื่อให้เครื่องปล่อยคลื่นกระแสทีละน้อย หากทำงานไม่พร้อมกัน จะเกิดแรงพลักอย่างแรงขึ้นมาทันที เหมือนอย่างคริปแรกน่ะครับ
ที่ผมทราบไม่ใช่อะไรหรอกครับ เพราะเมื่อตอนเรียนอยู่มหาลัย อาจารย์ที่สอนที่นั่นเคยแสดงให้ผมดู แต่ไม่ใช่ทำให้ตัวลอยแบบในคริปหรอกนะครับ แต่ทำให้วัตถุลอยต่อหน้านักเรียนให้ดูน่ะครับ ในตอนที่สอนเรื่องสนามแม่เหล็กไฟฟ้า
1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย