ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

ทางแห่งความดี ตอน พึงละความโกรธ ๒


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 1 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 Dd2683

Dd2683
  • Members
  • 2477 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กรุงเทพ มหานคร
  • Interests:ความรู้ในพระพุทธศาสนา-วิชชาธรรมกาย<br />ผลแห่งการปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 04 December 2006 - 12:32 PM

โดย อ. วศิน อินทสระ

พระพุทธภาษิต
โกธํ ชเห วิปฺปชเหยฺย มานํ
สํโยชนํ สพฺพมติกฺกเมยฺย
ตํ นามรูปสฺมิมสชฺชมานํ
อกิญฺจนํ นานุปตนฺติ ทุกฺขา


คำแปล
บุคคลพึงละความโกรธ สละความถือตัว
ล่วงสังโยชน์ทั้งปวงเสีย ทุกข์ทั้งหลายย่อมไม่ตกถึง
บุคคลเช่นนั้น
ผู้ไม่ข้องในนามรูป ไม่มีกิเลสเครื่องกังวล



๒. พึงสละความถือตัว
ความถือตัวแปลมาจากคำว่า
"มานะ" แปลอีกอย่างหนึ่งว่า ความทะนงตน

ส่วนมานะที่คนทั่วไปใช้ เช่น "จงมานะพยายาม" นั้นไม่ใช่มานะที่กำลังพูดถึงในที่นี้ เพราะเป็นคำมีความหมายเพี้ยนไป คนไทยเข้าใจความหมายไปอีกทางหนึ่งว่า "พยายาม"

ท่านสอนไม่ให้มีมานะว่า สูงกว่าเขา เสมอเขา หรือต่ำกว่าเขา

เพราะเมื่อถือตัวว่าเราสูงกว่าก็ทำให้ดูหมิ่นเขา
เมื่อถือตัวว่าต่ำกว่าเขา ก็อาจริษยาเขา หรือแสดงอาการน้อยเนื้อต่ำใจ
เมื่อถือตัวว่าเสมอเขาก็อาจเป็นเหตุให้แข่งดีกัน แก่งแย่งกัน ชิงกันเป็นใหญ่หรือยกตนให้เด่น

ธรรมดามีอยู่ว่า ไม่มีใครที่สูงกว่าผู้อื่น หรือมีความรู้ความสามารถดีกว่าผู้อื่นโดยประการทั้งปวง อาจเป็นอย่างนั้นได้คือสูงกว่าหรือมีความรู้ความสามารถมากกว่าก็เพียงในด้านใดด้านหนึ่ง คือในบางเรื่องเท่านั้น เช่น

ก. มีความสามารถกว่า ข. ในเรื่องดนตรี แต่ข. มีความสามารถมากกว่า ก. ในด้านงานเกษตร

ดังนี้เป็นต้น แม้คนที่ทำงานอยู่ด้วยกัน เป็นนายเป็นลูกน้องของกันและกัน ก็มิได้หมายความว่า นายจะมีความสามารถเหนือลูกน้องไปทุกด้าน นายอาจมีความสามารถในด้านบริหาร แต่เมื่อต้องพิมพ์หนังสือราชการ นายอาจสู้เสมียนพิมพ์ไม่ได้ หรือเมื่อต้องกวาดสำนักงาน ล้างส้วม นายอาจทำให้ดีเท่าภารโรงไม่ได้ ดังนี้เป็นต้น

คนเรามีความรู้ความสามารถกันไปคนละอย่าง เมื่อรวมกันเข้าจึงนำภาระของสังคมไปได้ เปรียบเหมือนอวัยวะน้อยใหญ่ในตัวคน ทำให้คนเป็นคนอยู่ได้
เพราะฉะนั้น จึงไม่ควรดูหมิ่นเหยียดหยามกัน
ควรเห็นว่า ทุกคนทำหน้าที่ของตนเพื่อจรรโลงสังคมให้อยู่เย็นเป็นสุขต่อไป

โดยปกติ สัตวโลกมีอัสมิมานะ หรือมานะ ด้วยกันทุกคน โดยปริยายเบื้องสูง หมายถึงความสำคัญมั่นหมายว่าเป็นเรา ตัวเรา หรือที่ท่านเรียกตามสำนวนจิตวิทยาว่า
"ปมเขื่อง - superior complex"

พูดอย่างท่านแอดเลอร์ (นักจิตวิทยา ศิษย์ของซิกมันต์ ฟรอยด์) ก็ว่า
มีความรู้สึกที่จะทำตัวให้เด่น เมื่อใดการทำตนให้เด่นนั้น ถูกกีดขวางไม่ให้ดำเนินไป

เมื่อนั้นปมด้อยก็เกิดขึ้น อันที่จริงปมด้อยก็มิใช่อะไรอื่น
มันคือปมเขื่องที่ลดลงนั่นเอง
เหมือนความเย็นคือความร้อนที่ลดลง

คนมีปมด้อยในเรื่องใด มิได้หมายความว่า ปมเขื่องในเรื่องนั้นของเขาจะไม่มี แต่มีอยู่น้อย
เราจะเห็นได้ว่า เมื่อไปเจอคนที่มีปมด้อยในเรื่องนั้นกว่า เขากลับแสดงปมเขื่องได้ทันที
ตัวอย่างนักเรียนภาษาอังกฤษ
เมื่ออยู่ต่อหน้าครูผู้สอนภาษาอังกฤษ เขาจะรู้สึกด้อย เพราะความรู้ในภาษาอังกฤษของเขาสู้ครูไม่ได้
แต่พอลับหน้าครู ได้อยู่ในหมู่นักเรียนชั้นต่ำกว่า เขากลับมีปมเขื่องในเรื่องภาษาอังกฤษ เพราะสามารถทำตนให้เด่นได้ อธิบายให้นักเรียนชั้นต่ำกว่าฟังได้อย่างภาคภูมิ
นี่แสดงว่า ปมด้อยก็คือปมเขื่องที่ลดลงนั่นเอง

มิตรสหายที่คบกันอยู่ได้นาน และต่างถูกอกถูกใจกันนั้น ก็เพราะต่างฝ่ายต่างก็หล่อเลี้ยงอัสมิมานะ หรือปมเขื่องของกันและกันไว้ได้

ถ้ายิ่งฝ่ายใดยอมลดตนลงให้ ego ของอีกฝ่ายหนึ่งเด่นขึ้นมากเท่าใด ก็จะยิ่งเป็นที่รักที่ปรานีของฝ่ายนั้นมากขึ้นเท่านั้น

แต่ถ้าใครไปข่มอัสมิมานะ หรือปมเขื่องของเขาเข้าโดยที่เขาไม่ได้ยินยอมเอง เขาก็จะต้องเจ็บใจเห็นเป็นว่า ดูถูกันและต้องเลิกคบกัน
ท่านจะเห็นว่ามานะมีความหมายในชีวิตมนุษย์และสัตว์เพียงใด

ท่านพุทธทาส ภิกฺขุ (อินทปัญโญ) ได้กล่าวไว้ในเรื่อง
"ปมเขื่องส่วนที่เกี่ยวกับการประกอบกรรมชั่ว" ตอนหนึ่งว่า
"อัสมิมานะ หรือความรู้สึกที่เป็นตัว "ปมเขื่อง" อันนี้เอง เป็นมูลเหตุอันสำคัญชั้นรวมยอดของการทำความชั่ว การทำความดี หรือทั้งทำบุญและทำบาป แต่เป็นความตรงกันข้ามกับการเข้าถึงพุทธธรรมหรือนิพพาโดยตรง"

ด้วยเหตุนี้เอง พระพุทธเจ้าจึงทรงสอนให้สละเสีย มันเป็นกิเลสอย่างหนึ่ง สละเสียได้แล้วจะมีความสุข ดังที่พระองค์ทรงเปล่งอุทานเมื่อตรัสรู้ใหม่ๆ ว่า

"อสฺมิมานสฺส วินโย เอตํ เว ปรมํ สุขํ - สละอัสมิ มานะเสียได้นั่นแลเป็นบรมสุข"

คนที่ต้องทะเลาะวิวาทกัน ต้องรบราฆ่าฟันกัน ก็เพราะกิเลสตัวนี้เป็นมูลเดิม ถ้าละมันได้อย่างที่พระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ละได้ก็จะมีความสุขอย่างยิ่ง ไม่ต้องเดือดร้อนด้วยเรื่องของโลกใดๆ

ใจหยุดที่สุดแห่งบุญ มุ่งสู่ที่สุดแห่งธรรม

#2 ปัจเจกชน บนทางสายกลาง

ปัจเจกชน บนทางสายกลาง
  • Members
  • 4109 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:จ. สงขลา

โพสต์เมื่อ 29 March 2007 - 02:57 PM

ขอกราบอนุโมทนาบุญกับคุณแดงดีด้วยครับ สาธุ