จึงขอเอาบุญทุกบุญที่ได้ทำมาทั้งหมดนี้ มาฝากพี่ๆน้องๆเพื่อนๆชาว Board DMC ทุกๆท่านเลยนะค๊ะ ขอให้ทุกท่านได้รับบุญนี้เท่าๆกันเลยนะค๊ะ บางคนอยู่ไกล ไม่สามารถสะดวกมาได้ ก็ขอให้ได้รับกันถ้วนหน้าเลยน๊าทุกๆคนค่ะ... สาธุ!! สาธุ!! สาธุ!!
บุญ บุญ บุญ รีบมารับกันค่ะ
#1
โพสต์เมื่อ 22 December 2006 - 09:19 AM
จึงขอเอาบุญทุกบุญที่ได้ทำมาทั้งหมดนี้ มาฝากพี่ๆน้องๆเพื่อนๆชาว Board DMC ทุกๆท่านเลยนะค๊ะ ขอให้ทุกท่านได้รับบุญนี้เท่าๆกันเลยนะค๊ะ บางคนอยู่ไกล ไม่สามารถสะดวกมาได้ ก็ขอให้ได้รับกันถ้วนหน้าเลยน๊าทุกๆคนค่ะ... สาธุ!! สาธุ!! สาธุ!!
"ถ้าหากข้าพเจ้า ผิดพลาดแต่ประการใด ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ"
ความคิดอันวิเศษ มาจากใจที่สงบ
ความอดทนอันสูงสุด มาจากใจที่หยุดนิ่ง
น้องขวัญ
...A LiTTle GuiDE...
อาสาสมัครแผนกมัคคุเทศก์
สังกัดกองปฏิสันถาร สำนักศรัทธาภิบาล
#2
โพสต์เมื่อ 22 December 2006 - 09:23 AM
ผู้ที่ทำนิพพานให้แจ้งแล้ว ก็ย่อมมีจิตตั้งมั่น
ไม่หวั่นไหวในโลกธรรมทั้งหลายฉันนั้น
(พุทธพจน์)
#3
โพสต์เมื่อ 22 December 2006 - 10:06 AM
#4
โพสต์เมื่อ 22 December 2006 - 11:07 AM
#5
โพสต์เมื่อ 22 December 2006 - 11:21 AM
#6
โพสต์เมื่อ 22 December 2006 - 11:27 AM
#7
โพสต์เมื่อ 22 December 2006 - 12:27 PM
#8
โพสต์เมื่อ 22 December 2006 - 02:29 PM
#9
โพสต์เมื่อ 22 December 2006 - 02:36 PM
#10
โพสต์เมื่อ 22 December 2006 - 03:11 PM
ก็ขออนุโมทนาบุญ ซึ่งกันและกันกับทุกท่านด้วยนะครับ สาธุ สาธุ สาธุ
เนื่องจากอากาศเย็นสบาย จึงไปนั่งสมาธิที่อุโบสถ
นึกว่าเราเข้าเฝ้าพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า
จะได้ตั้งใจนั่งสมาธิ รอบนี้ก็ได้ความสงบพอประมาณ ครับ
แต่นั่งได้ไม่นานเพราะเมื่อเช้าตื่นมาเป็นหวัด ( จึงต้องเลื่อนการบริจาคโลหิตไปสัปดาห์หน้า )
นั่งไปต้องซึดๆน้ำมูกใสเป็นระยะ จึงออกมาเดินชมบรรยากาศบริเวณเขตพุทธาวาส ที่สงบร่มรื่น
นานทีจะได้ยินสำเนียงไพร เสียงนกเสียงแมลง แม้เสียงลมพัดผ่านหู ก็เพลินใจดีครับ
อืม เห็นสองสตรีแม่ลูก ชาวต่างประเทศ เคยคุ้นใน DMC ว่ามาจากสวิสเซอร์แลนด์
สวมชุดขาวของอุบาสิกาขาวสะอาด นั่งสมาธิอย่างสงบในอุโบสถ
จึงนึกถึง สุภาพบุรุษ ชาวฮอลันดา ไว้หนวดเข้มแต่ไม่ไว้ผม ที่แนะนำตนเองว่าชื่อ Bob
เมื่อราว 7 - 8 ปีก่อนผมเจอ Bob ที่ศาลาจาตุมหาราชิกา
สมัยนั้นเปิดโล่ง ยังไม่สร้างผนังเป็นห้องปรับอากาศเหมือนเดี๋ยวนี้
ได้สนทนากันนิดหน่อย แต่เป็นการสนทนาที่เป็นประโยชน์แก่ผมมาก
ผมถาม Bob ว่า
ถ้าชอบนั่งสมาธิ ที่ห้องปัญญาก็สะดวกสบายดีนะ เป็นห้องปรับอากาศเย็นสบาย
Bob ตอบว่า
ชอบนั่งใกล้ชิดกับธรรมชาติมากกว่า ทั้งที่อุโบสถและศาลาจาตุมหาราชิกา
ได้ยินเสียงนกและแมลง ร้องเพลง ลมเย็นจากธรรมชาติ อากาศสดชื่นสบายกว่าลมเย็นจากเครื่องปรับอากาศ
อีกอย่างช่วงนั้นในห้องปัญญาจะเปิดเสียงการสอนนั่งสมาธิของพระเดชพระคุณหลวงปู่ วัดปากน้ำฯ
สลับกับเสียงของพระเดชพระคุณของหลวงพ่อธมฺมชโย
ซึ่ง Bob ฟังไม่ออก + ชอบเงียบๆมากกว่า
ก็คงเหมือนสองสตรีแม่ลูกคู่นี้ รวมถึงชาวตะวันตกทั่วไปที่มีอัธยาศัย Close-up nature ใกล้ชิดธรรมชาติ
แบบนี้ Retreat Meditation Program ที่ สวนเพชรแก้ว อยู่ท่ามกลางขุนเขาลำเนาไพรสน
น่าจะเป็นที่ชื่นชอบของชาวต่างประเทศมากนะครับ
ผมถาม Bob ว่า นั่งสมาธิเป็นอย่างไร มีประสบการณ์น่าสนใจอะไรไหม
Bob ตอบว่า
ใจสงบดีมาก และได้เห็นความสว่างภายใน รวมถึง Crystal ball inner & Crystal Buddha inner
มีความสุขมากอย่างที่ไม่เคยได้รับมาก่อน
ผมอึ้งทึ่งมาก รู้สึกตื่นเต้นและยินดีด้วย จึงรีบถาม Bob ต่อว่า
ทำอย่างไรจึงมีประสบการณ์ที่ดีแบบนั้น
Bob ตอบว่า
ก็นั่งตามที่เคยได้ยินพระสอนมา + นั่งท่ามกลางธรรมชาติใจจึงสงบ นิ่งได้ไว
( ผมไม่แน่ใจว่า เป็น พระอาจรย์ Nicolas ฐานิสฺสโร หรือเปล่า )
ถาม Bob ต่อว่า
How about your’s Crystal Buddha inner ?
Bob ตอบว่า
Crystal Buddha inner ของเขาขยายได้ด้วยนะ ตอนนี้ขยายโตสูงถึงฟ้าเลย
ผมจึงขออนุโมทนาบุญกับ Bob ด้วยความยินดีอย่างจริงใจ
ที่มีมนุษย์เข้าถึงสภาวะธรรมอันประณีตที่มีอยู่ภายใน
และยังเป็นชาวต่างประเทศที่นับถือความเชื่ออื่น
ยิ่งเป็นความอัศจรรย์ของธรรมะว่าเป็น อกาลิโก และปัจจัตตัง อย่างแท้จริง
อีกเรื่องที่น่าสนใจคือ Bob ถามผมกลับบ้างว่า
คุณสังเกตไหม ว่าใบหน้าของพระในรูปนั้น มี 2 ลักษณะ
( ชี้ไปที่รูปถ่ายขาวดำ ใบหน้าของพระเดชพระคุณหลวงปู่ วัดปากน้ำฯ ที่ผนังศาลาจาตุฯ )
ซึ่งผมเคยเห็นภาพนี้มานานตั้งแต่ก่อนรู้จักวัดพระธรรมกาย แต่ไม่เคยสังเกตมาก่อน
จึงไม่รู้จะตอบอะไร เลยถาม Bob ว่าเป็นอย่างไรล่ะ
Bob ตอบว่า
ถ้าคุณเอาฝ่ามือปิดใบหน้าครึ่งซีก จะเห็นและรู้สึกว่า
( Bob ยกฝ่ามือขึ้นแล้วเล็งสายตาไปที่รูปนั้น )
ซีกซ้ายของท่าน ( ขวามือของเรา ) ท่านดูยิ้มๆ แววตาอ่อนโยน ใจดี แต่
ซีกขวาของท่าน ( ซ้ายมือของเรา ) จะเห็นแววตาที่เด็ดเดี่ยว และมุมปากดูเคร่งขรึม
ผมลองยกมือทำตาม ก็เห็นจริงตามนั้น รู้สึกตื่นเต้นและสดชื่นที่ได้สนทนากับ Bob + ได้ความรู้ใหม่ๆ
ผมเห็นสายตาที่ให้ความรู้สึกว่า เป็นแววตาของคนที่มีความสงบใจ ของ Bob แล้ว
ตอนนั้นบางแว๊บก็นึกละอายตนเอง ที่เราเหมือน ทัพพีไม่รู้รสแกง
คือ เป็นคนไทย ชาวพุทธ สนใจศึกษาความรู้ในพระพุทธศาสนาและ
ได้พบครูดี ได้ปฏิบัติธรรมด้วย แต่ไม่ได้ลิ้มรสแห่งธรรม เหมือน Bob ชาวฮอลันดา ท่านนี้เลย
ผมเหมือนทัพพีไม่รู้รสแกง อย่างนั้นแหละ
นี่คือ งานค้างข้อใหญ่ในชีวิตของผม รวมถึงมนุษย์ทุกเชื้อชาติ ทุกศาสนาด้วยว่า
ความสุขอันประณีตที่ยิ่งใหญ่กว่าความสุขใดๆในโลก นั้น มีอยู่ภายในตัวของมนุษย์ทุกคน
ความรู้แจ้ง ไปตามความเป็นจริงของโลกและชีวิตมีอยู่
แต่มนุษย์ค้นหาไม่พบกันเอง
ดังเคยได้ยินเรื่องเล่าขานกันว่า
มนุษย์มีสมบัติวิิเศษ แต่ มาร/ซาตาน นำเอาไปซ่อนไว้ ในที่ๆมนุษย์คิดไม่ถึง
ว่าสมบัติวิเศษจะอยู่ตรงนั้น คือ ซ่อนไว้ในตัวมนุษย์นั่นเอง
เพราะมนุษย์ชอบมองออกนอกตัว คือ ชอบมองคนอื่น
โดยเฉพาะชอบมอง สิ่งที่อยู่นอกตัว เช่น คน สัตว์ สิ่งของ
ไม่ชอบมองสิ่งดีๆที่อยู่ในสิ่งนั้นๆ
และมักติติงข้อเสีย ว่าไม่ดีอย่างนั้น อย่างนี้
โดยลืมไปว่า ตนเองก็มีข้อเสีย นิสัยไม่ดีเหมือนกัน
ดังนั้น มารจึงซ่อนสมบัติวิเศษ คือ ความรู้แจ้ง ความสุขแท้จริง
คือ พระนิพพานไว้ในตัวมนุษย์ ซะเลย
#11
โพสต์เมื่อ 25 December 2006 - 12:16 PM
#12
โพสต์เมื่อ 25 December 2006 - 12:41 PM
สาธุ...
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทวารัตตะเยนะ กะตัง
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต้ อุกาสะ ขะมามิ ภันเตฯ
หากข้าพระพุทธเจ้า ได้เคยประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินต่อพระรัตนตรัย อันมีพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ในชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ด้วยกายก็ดี วาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี ด้วยเจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี
ขอองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย และผู้มีพระคุณทุกท่าน ได้โปรดยกโทษให้แก่ข้าพระพุทธเจ้า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ