ช่วยด้วยคะสับสน
#1
โพสต์เมื่อ 08 January 2007 - 05:32 PM
ขอบุญ คุ้มครอง ผู้อยู่ในบุญ สา...ธุ
#2
โพสต์เมื่อ 08 January 2007 - 06:37 PM
คุณเป็นมนุษย์ เป็นผู้หญิง คุณมีศักศรีในตัวคุณ ภูมิใจไว้เถิดครับว่าตลอดเวลาที่คุณกับเขาคบกัน คุณก็ได้ทำหน้าที่ที่ดีที่สุดแล้ว ก็ในเมื่อเขา ไม่รักดีในสิ่งที่เราหยิบยื่นให้ แล้วเราจะไปซีเรียสทำไม เรามีศักศรี เราเป็นมนุษย์ มีหัวใจ ไม่ใช่สิ่งของ ที่ใครจะหยิบขึ้นมาแล้วก็วางลงแล้วไม่หันมาแยแส จงหยิ่งในศักศรีของความเป็นหญิงครับ ใครที่มันไม่รักดีก็ช่างหัวมัน เมื่อเราคิดจะรัก เราก็ต้องเป็น1 ที่ไม่มี2 จะให้ใครหน้าใหนมาทำกับเราไม่ได้ และอย่าหวั่นไหวกับอารมนี้ครับ
ตอนนี้คุณกำลังเผชิญกับสภาพอารมนี้ คุณยังคิดอะไรไม่โล่งหรอกครับ แต่พออีกสักระยะพอผ่านช่วงนี้ไปแล้ว คุณลองหันกลับมามองนึกถึงตอนที่คุณประสบความทุขนี้อยู่ คุณจะพบว่า อารมนี้ มันไร้สาระสิ้นดี เหมือนตอนเราเห็นเพื่อนร้องไห้อกหัก แล้วเราก็เข้าไปปลอบพูดจาถึงเหตุและผลต่างๆให้เพื่อนใด้คลายโศก ก็เหมือนกับผมตอนนี้ ที่คิดอะไรๆออก แล้วกำลังบอกคุณอยู่ให้รู้ว่า สิ่งที่คุณกำลังเผชิญอยู่แท้จริงมันเป็นอย่างนั้น
คนเราเกิดก็เกิดคนเดียว ตายก็ตายคนเดียว ไม่มีใครรักเราเท่าตัวเรา พอเราตายก็ไม่มีใครช่วยเราได้ สามีภรรยานอนเตียงเดียวกันก็ช่วยกันไม่ได้
ไฟล์แนบ
#3
โพสต์เมื่อ 08 January 2007 - 06:58 PM
พอเวลา่ผ่านไปเราจะเห็นว่าเรื่องนี่มันเล็กน้อย และไร้สาระมากค่ะ
จงมีศักดิ์ศรีไว้นะคะ่
อย่าไปสร้างวิบากกรรมกับเขาเลย จงหนีออกห่างๆ มาแุถอะ แล้วคุณจะมีความสุขตลอดไป
[email protected]
#4
โพสต์เมื่อ 08 January 2007 - 07:59 PM
เรื่องนี้เป็นเรื่อง ธรรมดา ของ คู่รัก ครับ ...
เมื่อ ... เราได้ร่วมกรรม กันมา ย่อม มารับกรรมร่วมกันครับ
ก็คิดง่ายๆ ครับ เราเคยทำแบบนี้มาก่อน ก็ย่อมได้รับแบบนั้น ถ้าเราไม่อยากได้รับกรรม นั้นอีก ก็ให้หักดิบไปเลยครับ
เมื่อเค้ามีใจให้คนอื่น ย่อมไปเป็นของคนอื่น ถ้าเรายังคบกับเขา ก็คือเราไปแย้งของรักของคนอื่น ย่อมจะได้รับ กรรมแบบนี้ไปเรื่อย ๆ
จนกว่าเราจะหักดิบ และอโหสิกรรม ให้กับเจ้ากรรมนายเวรไปครับ และสั่งสมบุญให้มาก ๆ ให้ไปตัดรอนกรรมเก่า ครับ ...
หันมารัก ในสิ่งที่รอคอยเรา และรักในสิ่งนั้นมาก ๆ ดีกว่าครับ
เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ยากจะตัดใจครับ แต่ถ้าเราไม่อยากให้เกิดกับเราอีก ก็ต้องหักดิบ ครับ ...
^^~ *** ... สาธุ คราบ
เ มื่ อ เ ร า ส ว่ า ง * * * โ ล ก * * * ก็ ส ว่ า ง ด้ ว ย ^^~*
ส า ธุ . . . ค รั บ ^^~*
#5
โพสต์เมื่อ 08 January 2007 - 08:07 PM
#6
โพสต์เมื่อ 08 January 2007 - 08:44 PM
มีวาสนาต่อกันแค่นี้ก็เท่านั้นเอง
เดี๋ยวทุกอย่างก็ดีขึ้นครับ
ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์..........ไร้รักไร้ทุกข์
#7
โพสต์เมื่อ 08 January 2007 - 10:21 PM
#8
โพสต์เมื่อ 09 January 2007 - 12:55 AM
ในหนังสือ มีอะไรดี ๆ มากกว่าเรื่องที่คุณกำลังประสบปัญหาอยู่นะครับ ลองดูนะครับ เอาใจช่วยนะครับ
หาหนังสือนี้ได้จาก ชมรมนักคิดนักเขียนเพื่อสันติภาพโลก เสา M6 สภาธรรมกายสากล วัดพระธรรมกาย ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ครับ (เล่มละ 130 บาท ครับ)
หนังสือเล่มนี้ ใช้อ่านเพื่อสำหรับสอบตอบปัญหาธรรมะ ทางก้าวหน้า ประเภทประชาชน ครั้งที่ 1 ของโลก (ระดับในประเทศไทย) ได้อีกนะครับ
#9
โพสต์เมื่อ 09 January 2007 - 02:13 AM
สิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณตอนนี้ ข้าพเจ้าเคยเผชิญมาแล้วเหมือนกันคะ ข้าพเจ้าไม่อยากบอกว่าเข้าใจคุณทั้งหมด แต่ อยากบอกว่า เข้าใจในระดับหนึ่งคะ เพราะ แต่ละคนก็จะมีความคิดที่แตกต่างกันออกไปค่ะ
สิ่งที่ข้าพเจ้าได้เรียนรู้มาจากประสบการณ์ตัวเอง และ ในที่สุดก็คิดออกคะ ลองดูนะคะเผื่อช่วยคุณได้บ้าง
ข้อแรกและข้อเดียวเลยนะคะ สำหรับตอนนี้คะ สำคัญมากๆ คือ รักตัวเองให้มากๆก่อนคะ
อยากขยายความนิดนึงนะคะ การรักตัวเองไม่ใช่การเป็นผู้เห็นแก่ตัวนะคะ เพียงแต่ รักตัวเองเพื่อที่จะ
1.เป็นห่วงตนเอง ไม่ทำร้ายตนเอง ความเครียดนั้นก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำร้ายตนเองคะ
2.ไม่สร้างกรรมให้กับตนเองคะ การสร้างกรรมให้กับตนเอง แสดงว่าคุณไม่รักตนเองคะ
3.ถ้าตัดสินใจอะไรแล้ว คิดดีแล้ว ถูกต้องแล้ว เมื่อคิดได้แล้ว ก็ขอให้เด็ดเดี่ยวนะคะ อย่าวกกลับไปทำในสิ่งที่ตนต้องเป็นทุกข์อีก
ลองดูตรงนี้นิดนึงนะคะ ลองดูสิว่า การที่เค้ากล้าทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นนั้น เป็นเพราะเขารู้หรือเปล่า ว่าเค้าทำกับเราแบบนั้นได้ หรือเป็น เพราะตัวเราเองยอมให้เค้าทำ เพราะ ห่วงที่ผูกพันธ์กันอยู่ โดยมีความหวังเล็กๆ น้อยๆ ว่า เค้าจะกลับมาหาเราอีก ตรงนี้ต้องใช้ความซื่อสัตย์กับตนเองพอสมควรนะคะ อย่าเข้าข้างตนเองคะ คิดพิจารณาอย่างเป็นกลางคะ ถ้าดูแล้ว เป็นอย่างที่ว่าจริงๆ ก็ให้จัดการตัดห่วงตรงนั้นทิ้งให้ได้ แล้วคุณกับเขา ทั้งคู่ก็จะได้เป็นอิสระต่อกันคะ และ ถ้าเขาบอกว่า ขอคบกันแบบเพื่อนได้ไม๊ ก็บอกไปเลยคะว่า ตอนนี้ยังไม่ได้ รอให้ตัวคุณเข้มแข็งก่อน แล้วถ้าคุณรู้ใจตนเองดี ว่าคุณเข้มแข็งพอแล้ว จะเป็นเพื่อนกันก็ได้ แต่นั่น มันเป็นเรื่องของอนาคตไม่ใช่ตอนนี้คะ
เลิกคบกัน ไม่จำเป็นต้องเกลียดกัน แล้วอย่าเกลียดกันนะคะ จะได้ไม่ต้องผูกเวร และ กรรม ต่อกันอีก อย่างที่บอกไงคะ ว่า รักตนเองให้มากๆ อาจต้องมีการปลอบใจตนเองแบบง่ายๆก่อน ว่า จากเป็นนั้น ดีกว่าจากตาย จะได้ไม่เป็นทุกข์
ลองดูนะคะ อาจช่วยคุณได้นะคะ เป็นกำลังใจให้คะ และ ถ้าต้องการหาคนปรับทุกข์ ก็ e-mail หาข้าพเจ้าได้นะคะ
อย่างน้อยการคุยกันอาจทำให้คุณดีขึ้นก็ได้คะ
My e-mail address is [email protected] .
#10
โพสต์เมื่อ 09 January 2007 - 03:15 AM
อยากทราบว่าใช่เล่มนี้ที่รูปด้านล่างละเปล่าคะ?
ต้อง log in ก่อนมั๊งคะ ถึงจะเห็นรูปได้
ถ้าใช่ ที่ www.kalyanamitra.org
ในหัวข้อ สื่อธรรมะ ก็อ่านได้คะ
ไฟล์แนบ
#11
โพสต์เมื่อ 09 January 2007 - 08:55 AM
น่าจะเป็นหนังสือ มงคลชีวิต 38 ประการ เวอร์ชั่น ครอบครัวอบอุ่น ฉบับที่จะใช้สอบธรรมะทางก้าวหน้าช่วงนี้มั้งครับ ว่าจะสมัครอยู่แต่ยังหาเพื่อนสมาชิกอีกสองคนไม่ได้ครับ ต้องสมัครประเภททีม 3 คน และจะได้หนังสือ(หรือร่วมบุญต่างหาก ไม่แน่ใจนะครับ)
#12
โพสต์เมื่อ 09 January 2007 - 10:25 AM
อืม ผมไม่แน่ใจในประเด็นคำถามของคุณนะครับ ว่าคุณจะถามว่าคุณผิดไหมที่ยังคบกับเขาอยู่หรือเปล่า หรือจะเป็นประเด็นว่าเลิกกันแล้วแต่ยังคบกันอยู่จะบาปหรือไม่ ผมก็ขอเสนอแนะความคิดตามที่ผมเข้าใจแล้วกันนะครับ
ถึงคุณจะบอกเลิกกับเขาไปแล้วแต่ยังคบกันอยู่ อาจจะเป็นในฐานะเพื่อนก็ตามแต่ ผมขอตอบว่าไม่ผิดครับและก็ไม่บาปด้วย แต่ว่า แต่นะครับแต่ ก็ไม่สมควร เพราะอะไรผมถึงว่าไม่สมควรน่ะหรือ คุณเคยได้ยินคำว่า ถ่านไฟเก่าไหมครับ ระวังคำนี้ไว้ให้ดี เพราะมันจะติดไฟขึ้นมาอีกเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ และเมื่อมันติดลุกโชนขึ้นมาอีก มันจะร้อนยิ่งกว่าเดิมหลายเท่านัก ดังนั้น อยากให้คุณเตือนสติของตัวเองและลองพิจารณาดูสักนิดนะครับ ว่าหากคุณกลับไปคบกับเขา หรือยังคบกับเขาอีก คุณจะห้ามใจไม่ให้ถ่านไฟเก่าลุกขึ้นมาอีกได้ไหม ถ้าคิดว่าทำไม่ได้ ผมว่าคุณอยู่คนเดียวไปเถอะครับ ใช้เวลาที่คุณอยู่คนเดียว พิจารณาทุกข์ที่คุณได้รับจากความรัก พิจารณาดูว่าเมื่อตอนที่คุณมีความรักมีทุกข์เช่นไร และเมื่อคุณได้อยู่คนเดียวคุณสบายกว่าตอนมีคู่แค่ไหน เรียกว่า หนามหยอกก็ต้องเอาหนามบ่งน่ะครับ ในเมื่อเราทุกข์กับเรื่องความรักไปแล้วแล้วเรายังทำใจกับความทุกข์ที่ได้รับจากความรักไม่ได้ เราก็เอาความทุกข์จากความรักนั้นมาบ่งทุกข์ในใจออก ด้วยการไตร่ตรองซําแล้วซําอีก ว่าเพราะเรารัก เราจึงโดนอย่างนี้ๆนะ เราถึงต้องทุกใจอย่างนี้ๆนะ เราต้องมาว้าวุ่นใจอย่างนี้ๆนะ แล้วใจมันจะคลายไปเองครับ เชื่อผมเต๊อะ
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#13
โพสต์เมื่อ 09 January 2007 - 10:48 AM
ชีวิตคู่ สุขน้อย ทุกข์มาก จริงๆ
#14
โพสต์เมื่อ 09 January 2007 - 11:23 AM
สิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายก็จะพ้นไปเอง
ธรรมะย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม
#15
โพสต์เมื่อ 09 January 2007 - 02:43 PM
บอกเลิกแล้วยังไม่ยอมไป แถมยังคบกับอีกคนด้วย
แนะนำให้ จัดการเลยค่ะ บอกให้เขาออกไปจากชีวิตแบบจริงจัง
"บอกเขาเลยว่า นายไม่ต้องเลือกหรอก ชีวิตนี้ฉันจะเลือกเอง แม่ฉันเลี้ยงมาไม่ใช่เพื่อจะเป็นของเผื่อเลือกของ
ผู้ชายนะ "
จากนั้นก็หันกลับมาใส่ใจกับชีวิตของตัวเองให้ยิ่งกว่าที่เคยเป็น
วิธีการที่จะทำข้อนี้ได้สำเร็จ ต้องมีกุศโลบายค่ะ
คือ ต้องรู้ว่า เราเป็นคนมีค่า และค้นหากิจกรรมที่ทำให้ไม่ต้องจมอยู่กับความคิดทำร้ายตัวเอง
เช่น ทำงานและสนุกสนานกับความสำเร็จของงานนั้น บางคนชอบอ่านหนังสือ ก็จะอ่านๆๆๆๆๆทั้งวัน
เล่นกีฬา ออกกำลังกาย รักษาสุขภาพให้แข็งแรง
หรือชอบปลูกต้นไม้ก็หาต้นไม้มาปลูก เลี้ยงหลาน สร้างสรรค์ผลงานอะไรก็ได้ที่เราถนัดและมีความสามารถ
คนที่จะพ้นจากอารมณ์และความรู้สึกทรมานจากความรักได้ ต้องมีอะไรสักอย่างมาทดแทนและกู้ความรู้สึกต่ำต้อยของตนเองขึ้นมา
ที่สำคัญ...อย่าปล่อยรูปลักษณ์ให้ทรุดโทรม(เหมือนถูกสาป)นะคะ ต้องดูแลตัวเองให้สดชื่นแจ่มใสอยู่เสมอ
และเมื่อตัดสินใจที่จะเดินออกมาจากวังวนอันน่าปวดหัวแล้ว ต้องเข้มแข็ง อย่าหันกลับไปเดินทางเดิมอีก
ขอให้พบทางออกและเดินไปสู่ความสว่างได้โดยเร็วนะคะ สู้สู้สู้....(โว้ยยยยยยย)
ปล. ถ้าเขาไม่ยอมไปก็ต้องบอกว่า ฉันเลิกจริงๆนะ ไม่ใช่แกล้งเลิก ถ้าจำเป็นต้องเปลี่ยนเบอร์โทร หรือย้ายที่อยู่ (ถ้าไม่ลำบากมากนัก) ก็ต้องทำนะคะ หรือถ้าเขาโทรมาก็อย่ารับสาย ต้องให้เขาตระหนักว่า เราเอาจริงนะ ฮึ่ม
เรื่องดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน
#16
โพสต์เมื่อ 09 January 2007 - 08:04 PM
ไม่เห็นคุณค่าเรา ก็ต้องเป็นเราแหละที่ต้องรักตัวเองให้มาก คิดแค่นี้ ความคิดเข้าข้างตัวเองก็จะหายไป ตัดใจง่ายขึ้นเยอะ ตัดใจได้ทันที
ผ่านพ้นเวลานั้นมาได้ ก็รู้สึกว่า เออแฮะทำไมเราตาบอดอยู่ได้ตั้งนาน ตอนนั้นเอาธรรมะหมวดไหนมาใช้ก็ฉุดไม่อยู่
เอาใจเกาะกับธรรมะไว้นะคะ ทุกๆคำแนะนำของพี้น้องชาวเว็ปล้วนแล้วดีๆทั้งนั้นเลยค่ะ
ขอให้ผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไปให้ได้โดยเร็วนะคะ ขอให้เด็ดขาดกับการตัดใจนะคะ เอาใจช่วยค่ะ
#17
โพสต์เมื่อ 09 January 2007 - 09:47 PM
ประสบการณ์ แบบนี่นะค่ะ ชีวิตก็เป็นเช่นนี้ละค่ะ
#18
โพสต์เมื่อ 11 January 2007 - 02:17 AM
ขอเป็นกำลังใจให้เช่นกันนะค๊ะ
"ถ้าหากข้าพเจ้า ผิดพลาดแต่ประการใด ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ"
ความคิดอันวิเศษ มาจากใจที่สงบ
ความอดทนอันสูงสุด มาจากใจที่หยุดนิ่ง
น้องขวัญ
...A LiTTle GuiDE...
อาสาสมัครแผนกมัคคุเทศก์
สังกัดกองปฏิสันถาร สำนักศรัทธาภิบาล