ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – ครูจูหลิงจากไปอย่างสงบหลังจากนอนเป็นเจ้าหญิงนิทรานาน 8 เดือน แพทย์ระบุยื้อชีวิตจนถึงที่สุดแล้ว ขณะที่ผู้เป็นพ่อและแม่อโหสิกรรมให้ผู้ลงมือทำร้ายลูกสาว ระบุไม่ต้องการจองเวรกับใครและต้องการให้ลูกสาวจากไปอย่างสงบที่สุด เตรียมนำศพกลับเชียงรายวันพรุ่งนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่อาการของ ครูจูหลิง ปงกันมูล ทรุดหนักลงตั้งแต่ช่วงเช้าของวันนี้ (8 ม.ค.) โดยมีภาวะปอดอักเสบอย่างรุนแรง ส่งผลให้ระดับออกซิเจนในเลือดและความดันโลหิตลดต่ำลงอย่างต่อเนื่องจนกระทั่วเวลา 16.05 น. ครูจูหลิง ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบภายใน ห้องไอซียู โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ หลังจากที่แพทย์ได้ทำการรักษาอย่างดีที่สุดเป็นเวลาร่วม 8 เดือน ท่ามกลางความอาลัยของทุกฝ่ายโดยเฉพาะ นายสูน และนางคำมี ปงกันมูล พ่อแม่ของครูจูหลิง ซึ่งนั่งกุมมือลูกสาวที่เตียงคนไข้ จนถึงวินาทีสุดท้าย
ต่อมา รศ.นพ.สุเมธ พีรวุฒ ผอ.รพ.สงขลานครินทร์ พร้อมทีมแพทย์และพยาบาล ที่ทำการรักษา ได้แถลงถึงสาเหตุการเสียชีวิตของครูจูหลิง อย่างเป็นทางการอีกครั้ง โดย รศ.นพ.สุเมธ ได้เผยว่า การเสียชีวิตของครูจูหลิง เป็นผลมาจาก อวัยวะภายในล้มเหลวเฉียบพลัน จากภาวะติดต่อของระบบต่างๆ ในร่างกายทั้งระบบสมอง และภาวะปิดอักเสบติดเชื้ออย่างรุนแรง แม้ว่าแพทย์จะให้ยาเพิ่มความดันแต่ก็ไม่เป็นผลเพราะร่างกายไม่ตอบสนองต่อการรักษา โดยอาการของครูจูหลิงเริ่มทรุดหนักลงเรื่อยๆ มาประมาณ 1 สัปดาห์จากภาวะติดเชื้อและทรุดหนักจนอยู่ในภาวะวิกฤติในช่วงเช้าของวันที่ 8 ม.ค.ก่อนที่จะจากไปอย่างสงบ
โดยตลอด 8 เดือนที่ผ่านมาหลังจากที่ครูจูหลิง ได้ถูกส่งมารักษาตัวที่ รพ.สงขลานครินทร์ เมื่อวันที่ 20 พ.ค.2549 ทางโรงพยาบาลได้จัดทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องแต่ละสาขาจำนวน 16 คนทำการรักษาครูจูหลิง แต่เนื่องจากอาการของครูจูหลิง สาหัสมากร่างกายบอบช้ำโดยเฉพาะสมองซึ่งมีเลือดคั่งจำนวนมากและขาดเลือดไปเลี้ยงสมองเป็นเวลานาน ทำให้สมองและก้านสมองไม่ตอบสนองต่อการกระตุ้น
ทั้งนี้ คณะแพทย์พอใจในผลของการรักษา เพราะคนไข้ที่มีอาการบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้ จากสถิติในทางการแพทย์จะอยู่ได้ราว 1-2 อาทิตย์ส่วนใหญ่จะเสียชีวิต และเท่าที่มีการบันทึกไว้จะมีชีวิตอยู่ได้นานที่สุดแค่ 6 เดือน แต่ ครูจูหลิง สามารถอยู่ได้กว่า 8 เดือน ซึ่งมาจากพระบารมีของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ที่ทรงห่วงใย ทำให้ครูจูหลิง สามารถมีชีวิตอยู่ได้นานขนาดนี้ และตลอดเวลากว่า 8 เดือนทางคณะแพทย์ได้ถวายรายงานให้ทรงทราบทุกๆ วัน
ขณะเดียวกันทันทีที่ครูจูหลิงเสียชีวิตทางคณะแพทย์ได้ถวายรายงานไปยังสำนักราชเลขาเพื่อให้ทรงทราบทันที
รศ.นพ.สุเมธ กล่าวว่า ในส่วนของพ่อแม่ของครูจูหลิง นั้นทางโรงพยาบาลได้ให้การดูแลอย่างดีที่สุดเช่นเดียวกันพร้อมกับจัดทีมแพทย์ด้านจิตวิทยาดูแลสภาพจิตใจอย่างต่อเนื่องทุกระยะ โดยเฉพาะในช่วงวิกฤติ แพทย์ด้านจิตวิทยาได้พยายามทำความเข้าใจและชี้แจงเกี่ยวกับอาการให้ทราบเป็นระยะ ซึ่งทั้งสองคนเริ่มทำใจและรับกับสภาพที่เกิดขึ้นได้แล้ว
สำหรับศพของครูจูหลิง นั้นในวันพรุ่งนี้จะทำพิธีรดน้ำศพที่ วัดโคกนาว อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จากนั้น ในช่วงบ่าย จะมีการเคลื่อนย้ายศพด้วยเครื่องบิน ซี 130 ของกองทัพอากาศ เดินทางจาก กองบิน 56 อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา เพื่อกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด จ.เชียงราย
ภายหลังการเสียชีวิตของครูจูหลิง ปงกันมูลหรือครูจุ้ย เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา นายสูน และนางคำมี ปงกันมูล พ่อแม่ของครูจูหลิง ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวด้วยน้ำตานองหน้า
โดยนางคำมี กล่าวว่า "พ่อกับแม่นั่งกุมมือครูจุ้ย จนลมหายใจสุดท้ายของลูกตั้งแต่ช่วงเช้าหลังจากที่แพทย์ได้บอกอาการให้ทราบ โดยครูจุ้ย เสียชีวิตลงอย่างสงบร่างกายค่อย ๆ สงบลงจนถึงวินาทีสุดท้าย แม้ว่าตนทั้งสองจะเสียใจต่อการจากไปของลูกแต่ก็ภูมิใจ ต่อการทำหน้าที่ของลูกและขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ส่งกำลังมาให้ครูจุ้ย สิ่งที่อยากขอหลังจากนี้คืออยากเห็นเหตุความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้สงบโดยเร็วและไม่ต้องการให้ใครเสียชีวิตอีก โดย อยากฝากไปถึงผู้ที่ก่อเหตุ ขอให้หยุดทำร้ายผู้บริสุทธิ์ ที่ผ่านมาตนทั้งสอง ขออโหสิให้ เพราะ ไม่ต้องการจองเวรกับใคร และ ต้องการให้ลูกสาวจากไปอย่างสงบที่สุด"
(สาธุ...สาธุ...สาธุ...อนุโมทนามิ )
ที่มาจากหนังสือพิมพ์
ที่มา คลิ๊กที่นี้ และ ข้าพเจ้า ขอขอบคุณ Manager, Mthai, และ Kom-chad-luek สำหรับ ข่าวสาร และภาพเหล่านี้ ด้วยนะครับ
ความเสียใจกะญาติๆ คุณเอกชัย เรืองพุ่ม
ข้าพเจ้าปราถนาขอให้ ดวงวิญญาณ ของ ท่านคุณครูจูหลิน จงไปสู่สุขคติ และ ประสบพบแต่สิ่งที่ดีๆ กับตัวของ ท่านคุณครูจูหลิน ต่อๆไป ด้วยเทอญ
[wmv=true]http://www.siam2.com/jukebox/wmasong/may480026.wma[/wmv]