เป็นคุณ จะทำเช่นไร?
#1
โพสต์เมื่อ 16 January 2007 - 10:47 PM
#2
โพสต์เมื่อ 17 January 2007 - 01:20 AM
อื่มมๆ... ไม่ทราบว่าเป็นเหตุการณ์จริง หรือ สมมุติ กันนะครับ (^_^)
แต่อย่างไรก็ตามถ้ารู้สึกว่าจำเป็นมากๆจริงๆ ตอนคืนท่านเจ้าของเงินแล้ว ก็อย่าลืมลอง ขอหยิบยืม ท่านเจ้าของเงินผู้นั้นดูบ้างก็ได้ หรือ ท่านอื่นๆ ดูนะครับ
อื่มมๆ...อยากแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมอีกนะครับ แต่ดูแล้ว ถ้าจะยาวแน่ๆ ถ้าไม่รังเกียจ ก็ PM me! แล้วกันนะครับ
และถ้าเป็นเหตุการณ์จริง ข้าพเจ้าก็ ขอให้เกิดสิ่งที่ดีที่สุด เหมาะสมที่สุด และ ไม่ผิดศีลธรรม ได้ยิ่ง(โคตร)ดีเลยครับ
สาธุ...สาธุ...สาธุ...ครับ
ขอเชิญร่วม อนุโมทนาบุญ งานบุญกฐินพระราชทาน ที่ วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก คลิ๊กที่นี้
Who am I?__>>> CLick Here <<< to see my answer Post # 7
.
รวมภาพองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า: คลิ๊กที่นี้คลิ๊กที่นี้ เพื่อ D/L 58 files, 120.99 MB, for easy listening dharmas.
คลิ๊กที่นี้ เพื่อ D/L 121 really-good-to-read e-books, 295.67 MB.
คลิ๊กที่นี้ เพื่อ Download โปรแกรม Free Download Manager ช่วย Download ไฟล์ใหญ่ๆ ต่างๆ ฟรีครับฟรี
คลิ๊กที่นี้ เพื่อ Download โปรแกรม Acrobat Reader V.5
.
The basic knowledge of Buddhism to become a better buddhist Edition 2 คลิ๊กที่นี้
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------
-= Hillary Clinton =-.... >>>>>>> CLicK HeRe <<<<<< To Be wisher, To Be smarter, and To Know Better !!!
#3
โพสต์เมื่อ 17 January 2007 - 08:32 AM
ถ้าเก็บเงินหรือสิ่งของใด้
1 มีหลักฐาน ระบุว่าเป็นของใคร ก็จะคืนทันทีไม่ว่าจะทางใดก็ตาม
2 ถ้าไมมีหลักฐาน ก็ต้องดูสภาพแวดล้อมว่า มี หรือ ไม่มีใครเป็นเจ้าของจริงๆหรือไม่เพียงไร
3 ถ้าไม่มีหลักฐาน แล้วใครมาอ้างว่าเป็นของตน ก็ต้องใช้วิจารณญาน เป็นรายๆไป
4 ถ้าไม่มีหลักฐาน และไม่มีใครมารับ ก็คงต้องเก็บทรัพย์สินนั้นไว้เอง แล้วก็เอามาต่อบุญด้วยครับ
มีครั้งหนึ่ง ผมเก็บแบ้งค์1000ได้ ไม่มีกระเป๋า ไม่มีเอกสารอะไรเลย มองดูรอบๆก็ไม่มีใคร ก็เลยเก็บใส่กระเป๋า พอขับรถออกมาได้นิดนึง มองกระจกหลังไปเห็นผู้ชายคนหนึ่งมายืนหาอะไรแถวๆนั้น ผมรู้ทันทีว่า ต้องมาหาแบ้งค์ใบนี้แน่ๆ จะจอดรถก็ไม่ได้ สภาพการจราจรใน กทม มันบังคับ จึงคิดมาทุกวันนี้ว่าวันนั้นผมบาปหรือป่าว เพราะการเก็บของได้และรู้ว่าของนั้นมีเจ้าของที่ชัดเจน ก็ไม่ต่างอะไรกับการขโมยเลยแม้แต่น้อย
การเก็บโทรศัพได้ก็เช่นกันครับ ผู้ที่เก็บโทรศัพได้ ไม่ควรรีบปิดเครื่องหนีเจ้าของนะครับเพราะนั่นคือ พฤติกรรมของการขโมย เมื่อเก็บโทรศัพได้ควรรอให้เจ้าของเขาโทรเข้ามา แล้วก็นัดให้เขามารับ หรือถ้ายังไม่มีใครโทรมา ก็กดดูเบอร์ในเครื่องหาเบอร์โทรล่าสุดและสืบหาตัวเจ้าของให้ได้ครับ ทำด้วยตัวเองเลย ยังไม่ต้องพึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ การเก็บของได้เดี๋ยวนี้ ถ้านำส่งเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ถ้าเป็นของเล็กๆ เราไม่สามารถแน่ใจได้หรอกครับว่าจะไปถึงมือเจ้าของจริงหรือป่าว
#4
โพสต์เมื่อ 17 January 2007 - 11:41 AM
ว่ามีเจตนา ศีลข้อ อทินนาทาน ก็ขาดทันที ไม่ว่าจะเอาไปใช้
อะไร แบบนี้ไม่น่าใช่บุญเก่าทีเดียวนัก น่าจะบททดสอบใจก่อน (สัจจะบารมี)
บุญจะตามมาทีหลัง
#5
โพสต์เมื่อ 17 January 2007 - 02:16 PM
#6
โพสต์เมื่อ 17 January 2007 - 05:20 PM
"ถ้าหากข้าพเจ้า ผิดพลาดแต่ประการใด ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ"
ความคิดอันวิเศษ มาจากใจที่สงบ
ความอดทนอันสูงสุด มาจากใจที่หยุดนิ่ง
น้องขวัญ
...A LiTTle GuiDE...
อาสาสมัครแผนกมัคคุเทศก์
สังกัดกองปฏิสันถาร สำนักศรัทธาภิบาล
#7
โพสต์เมื่อ 17 January 2007 - 09:47 PM
ทำให้เจ้าของเงินไม่ต้องกังวล(ใจหมอง)เรื่องเงินหายด้วย (ได้บุญไปอีกแบบ)
เราก็อธิษฐานว่าขอให้ผู้มีบุญ หรือให้บุญช่วยส่งผลได้เงินมารักษาคุณแม่
และอาจจะอธิษฐานอีกนิดก็ได้นะค่ะว่า
ถ้ารักษาคุณแม่หายแล้ว จะทำบุญด้วย เช่น ใส่บาตรก็ได้ ปล่อยสัตว์ปล่อยปลา ให้ชีวิตเป็นทานก็ได้ เป็นต้นค่ะ
ยังได้บุญอีกหลายต่อ ต้องมีวิธีที่ดีที่สุดแหละค่ะ
แต่ไม่อยากแนะนำให้เอาเงินตรงนั้นมาใช้นะค่ะ
เอาใจช่วยค่ะ
หยุดนั่นเองเป็นตัวสำเร็จ
ทั้งทางโลกและทางธรรม สำเร็จหมด
#8
โพสต์เมื่อ 17 January 2007 - 10:50 PM
ถ้ามีหลักฐานก็จะลองหาทางติดต่อกับเจ้าของเงินก้อนนั้น เพื่อจะลองขอยืมเงินก้อนนั้นโดยที่ทิ้งที่อยู่และอื่นๆที่เขาสามารถใช้ติดต่อเราได้ และให้ชื่อสถานที่ทำงานหรือสถานที่ศึกษาในกรณีฉุกเฉิน ว่าเขาทำนามบัตรเราหายหรือไม่สามารถติดต่อเราได้
ถ้าเขาไม่ให้ ก็จะคืนโดยดีและขอให้เขาช่วยติดต่อกับผู้ที่จะสามารถช่วยเหลือเราได้
#9
โพสต์เมื่อ 18 January 2007 - 07:25 AM
แต่ในยุคนี้ คนเสื่อมศีลธรรมขณาดนี้ ก็คงจะเกิดขึ้นได้
ยากเต็มที หากไม่สร้างบุญใหญ่ขณาดเอาชีวิต เป็น
เดิมพันจริงๆ เหมือนพี่ใหญ่ อนันต์ อศวโภคิน นึกทีไรก็
ปลื้มแทนท่านทุกทีเลย
ถ้าตอบเจ้าของกระทู้ ดิชั้นก็คงตอบเหมือนเพื่อน
นักเรียนอนุบาล ทุกท่าน เพราะเจ้าของทรัพย์นั้นคงทุกข์ใจ
เป็นที่สุดกว่าจะหาเงินมาได้ขณาดนี้ในความรู้สึกของ
ดิชั้น อาจจะหาทั้งชีวิตนี้ก็ไม่ทราบว่าจะหาได้หรือเปล่า.
#10
โพสต์เมื่อ 18 January 2007 - 04:24 PM
แต่อย่าลืมบอกด้วยนะคะ ว่าเราอธิฐานให้ได้เงินมารักษาแม่
และเป็นการบังเอิญมากๆๆ ที่ได้มาเจอ และเป็นเราที่เจอ
เจ้าขอเค้าจะได้ปลื้ม ว่าคนดีๆๆ เก็บได้แล้วนำมาืคืน เพื่อเจ้าของใจดีร่ำรวย
อาจจะอยากทำบุญกับคนดีๆๆ รับเป็นเจ้าของคนไข้ก้อได้ค่ะ
เรื่องอยากนี้ น่าจะไม่ธรรมดา เสียแล้ว เพราะว่ามันมีเหตุและปัจจัย กำกับอยู่
ไม่เชื่อรองดูซิ
รักบุญ เชื่อในบุญ
mata072 windowslive.com
#11
โพสต์เมื่อ 22 January 2007 - 05:44 PM
ทางที่จะไม่ให้มือพองเพราะไฟเผามีอยู่ทางเดียว คืออย่าจับไฟอย่าเล่นกับไฟ
ทางที่จะปลอดภัยจากรักก็ฉันนั้น มีอยู่ทางเดียวคือ...อย่ารัก...