เรื่อง หลวงตา หัวดื้อ
ณ ที่เก่า เวลาเดิม หลวงตากับผมต้องมาเจอกัน
ทุกครั้งที่เจอ หลวงตาก็จะพูดแต่เรื่องเก่าๆ เรื่องเดิมๆ ( อย่างว่า ตามประสาผู้สูงอายุ )
ผมก็ทนฟังไป จนบางครั้ง หลวงตายังพูดไม่จบ ผมก็พูดต่อแทนได้โดยไม่ตกสักถ้อยคำเลย แต่พูดเบาๆในใจนะ เพราะไม่งั้นเจอ ของแข็งที่หุ้มด้วยเนื้อ และมีหัวห้าหัว.
ผมเคยถามหลวงตาว่า " หลวงตา, หลวงตาไม่เบื่อบ้างหรือ พูดแต่เรื่องเดิม ซ้ำๆซากๆ ไม่เห็นหาเรื่องอะไรใหม่ๆมาพูดกะเขาบ้าง "
หลวงตา มองผมด้วยแววตาที่เมตตา. ผมรู้ว่าท่านรักและเป็นห่วงผม เพราะท่านก็ไม่มีใคร และผมก็ไม่มีใคร.
หลวงตาบอกผมว่า " ข้าไม่เบื่อหลอก ทีเอ็ง เอ็งยังไม่เบื่อเลย. "
ทันใดนั้น ผมก็อ้าปากถามหลวงตาอย่างรวดเร็วดังสายฟ้าแลบ
" หลวงตา ถ้าผมเบื่อ หลวงตาก็เบื่อด้วยใช่ไหม "
หลวงตาแก่มากแล้ว แรงท่านก็ไม่ค่อยมี ผมรู้ว่า " วันนั้น " มันใกล้เข้ามาทุกที
หลวงตา ตอบคำถามผมทันทีว่า " เออ ถ้าเอ็งเบื่อ ข้าก็จะหยุด "
ผมบอกหลวงตาว่า " หลวงตา คิดก่อนตอบนะ ผมไม่อยากให้หลวงตามุสา "
หลวงตาพูดซ้ำคำเดิม ด้วยความมั่นใจในศักดิ์และศรีของ พุทธบุตรว่า
" ถ้าเอ็งเบื่อ ข้าก็จะหยุด "
ผมเลยบอก " หลวงตาอย่าโกรธนะ ถ้าผมบอกว่า ผมเบื่อที่จะฟังหลวงตาพูดซ้ำๆซากๆแล้ว "
ผมรู้สึกดีใจ ที่ผมกล้าหาญที่จะบอกหลวงตาอย่างนั้น และแน่ใจว่าต่อไปนี้ ผมจะเป็นอิสระจากการที่ต้องรับฟัง สิ่งซ้ำๆซากๆนั่นอีก.
หลวงตาตอบผมว่า " เรื่องนั้นน่ะ ข้ารู้มานานแล้ว แต่ที่ข้าว่า เมื่อไหร่เอ็งเบื่อ ข้าจะหยุด คือ เมื่อไหร่เอ็งเบื่อ ในทุกข์ในสังสารวัฎนี้ ข้าก็จะหยุด "
ผมแอบคิดในใจคนเดียวว่า " หลวงตานี่ดื้อเอามากๆเลย "
หลวงตาบอกผมว่า " ถ้าแกยังดื้ออยู่ในสังสารวัฏนี้ ข้าก็จะดื้อของข้าอยู่อย่างนี้แหละ "
อ้าวรู้ได้ไง หลวงตา ผมสงสัย.
ในที่สุด ผมก็ยอมแพ้ นั่งฟังเรื่องเก่าๆอีก ฟังให้มันซึมซาบ จนกลายเป็นเนื้อเดียวกันกับจิต วิญญาณ และจนกว่าจะพ้นสังสารวัฏนี้ หลวงตาจะได้หยุดพูดเสียที.
เรื่องซ้ำๆซากๆของหลวงตา ก็คือ เรื่องของไตรลักษณ์ ( อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ) และ อริยสัจจ์สี่ ( ทุกข์ เหตุทุกข์ ความดับไปของทุกข์ และ มรรค - ทางพ้นทุกข์ ). ท่านพูดของท่านอยู่เท่านี้แหละ ไม่มาก และก็ไม่น้อยไปกว่านี้เลย. ท่านไม่ตัดอะไรออก และก็ไม่แต่งอะไรเข้าไปเลย.
ต่อมาอีก 2 ปี * วันนี้ * ไม่เหมือน * วันนั้น *
ณ ที่เก่า เวลาเดิม แต่ไม่มี " หลวงตาดื้อ " มีแต่เสียงอันไพเราะจับใจของท่าน ที่ยังดังกึกก้องในห้องหัวใจของผม
วันนี้ ถ้าท่านมีชีวิตอยู่ ผมจะบอกท่านว่า " หลวงตาครับ ผมเห็นไตรลักษณ์บ้างแล้วครับ และผมก็จะขอฟังเรื่องเก่าๆของหลวงตา ไปเรื่อยๆครับ ถ้าหลวงตาไม่เบื่อที่จะพูดเรื่องเก่า ผมก็จะไม่เบื่อฟังเรื่องเก่าๆของหลวงตาครับ เมื่อไหร่ที่เราทั้งสอง พ้นจากสังสารวัฏ เมื่อนั้นผมจะหยุดฟัง และหลวงตาก็คงหยุดพูด"
ขอความเพียรในการปฏิบัติธรรมของท่านยังผลให้ วิชชา และ วิมมุติ บังเกิดแก่ท่าน
สาธุ
* หลวงตาไม่มีใครและไม่มีใครที่เป็น หลวงตา, ผมไม่มีใคร และไม่มีใครที่เป็นผม *
ไม่เบื่อบ้างหรือ.....หลวงตา
เริ่มโดย ThDk, Jan 24 2007 04:50 PM
มี 5 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 24 January 2007 - 04:50 PM
โลกอยู่ภายใต้การครอบงำของชรา ก้าวเข้าไปสู่ชรา ไม่ยั่งยืน
โลกไม่มีผู้ต้านทาน ไม่มีผู้เป็นใหญ่
โลกไม่มีอะไรเป็นของตน จำต้องละทิ้งสิ่งทั้งปวง
โลกพร่องอยู่เป็นนิจ ไม่รู้จักอิ่ม เป็นทาสแห่งตัณหา.
- สละโลกได้ ก็พ้นทุกข์ได้
#2
โพสต์เมื่อ 24 January 2007 - 08:28 PM
ชอบมากครับ ยอมรับว่า บางครั้งก็เบื่อในการฟังสิ่งเดิมๆ แต่เมื่อนึกได้ว่า เราก็ยังไม่ได้ทำตัวให้ดีขึ้น ก็สำนึกผิด
รู้สึกโดนใจตัวเอง
รู้สึกโดนใจตัวเอง
#3
โพสต์เมื่อ 25 January 2007 - 08:40 AM
สาธุค่ะ เตือนสติได้ดีมาก ๆ ค่ะ
#4
โพสต์เมื่อ 25 January 2007 - 09:07 AM
ซึ้งมากๆเลยค่ะ
...ความรักก็เหมือนการจับไฟนั่นแหละ
ทางที่จะไม่ให้มือพองเพราะไฟเผามีอยู่ทางเดียว คืออย่าจับไฟอย่าเล่นกับไฟ
ทางที่จะปลอดภัยจากรักก็ฉันนั้น มีอยู่ทางเดียวคือ...อย่ารัก...
ทางที่จะไม่ให้มือพองเพราะไฟเผามีอยู่ทางเดียว คืออย่าจับไฟอย่าเล่นกับไฟ
ทางที่จะปลอดภัยจากรักก็ฉันนั้น มีอยู่ทางเดียวคือ...อย่ารัก...
#5
โพสต์เมื่อ 25 January 2007 - 09:12 AM
น้ำตาซึมเลย กราบอนุโมทนาบุญครับ คุณ ThDk สาธุ
#6
โพสต์เมื่อ 25 January 2007 - 09:52 AM
QUOTE
" ถ้าเอ็งเบื่อ ข้าก็จะหยุด "
" ถ้าแกยังดื้ออยู่ในสังสารวัฏนี้ ข้าก็จะดื้อของข้าอยู่อย่างนี้แหละ"
" ถ้าแกยังดื้ออยู่ในสังสารวัฏนี้ ข้าก็จะดื้อของข้าอยู่อย่างนี้แหละ"
ชอบตรงนี้ที่ซู้ดเลย
หยุดนั่นแหละเป็นตัวสมถะ
หยุดนั่นเองเป็นตัวสำเร็จ
ทั้งทางโลกและทางธรรม สำเร็จหมด
หยุดนั่นเองเป็นตัวสำเร็จ
ทั้งทางโลกและทางธรรม สำเร็จหมด