http://tnews.teenee.com/etc/8649.html
วันนี้ (13 ก.พ.) ที่รัฐสภา
ตัวแทนองค์กรเครือข่ายชาวพุทธทั่วประเทศทั้งพระสงฆ์ และประชาชนชาวพุทธ ประมาณ 100 คน นำโดย พระมหาโชว์ ทัสสนีโย ผู้อำนวยการส่วนธรรมนิเทศ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พร้อม พล.อ.วสุ ชนะรัตน์ ตัวแทนภาคีเครือข่ายเสริมสร้างจิตสำนึกที่ถูกต้อง มีคุณธรรมอันมั่นคงสำหรับสังคมไทย (สจส.)
ได้นำ
โดย พระมหาโชว์ กล่าวว่า
จากพฤติกรรมที่แสดงออกของนายธงทอง ที่ผ่านมา แสดงออกถึง เจตนาลำเอียง และการกระทำหน้าที่ไม่ถูกต้อง เช่น การปิดกั้นการมีส่วนร่วมของประชาชนในการร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ไม่มีการสอบถามชาวพุทธ-พระสงฆ์ และฆราวาส ซึ่งเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย อีกทั้งยังมีการชี้นำประชาชน
ถือเป็นทำเกินหน้าที่ของ ส.ส.ร.รวมทั้งยังเป็นคนไม่มีความรู้จริง
เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ความเป็นมาของพระพุทธศาสนาในประเทศไทย สถาบันพระมหากษัตริย์ และการปกครองของไทยและยังอธิบายคลาดเคลื่อน ทำให้พุทธศาสนาถูกลดบทบาทในการร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งการออกมาพูดก่อนที่จะเปิดเวทีสาธารณะเป็นการตีกันชาวพุทธอย่างหน้าเกลียดที่รับไม่ได้พระมหาโชว์ กล่าวอีกว่า
ดังนั้น ภาคีองค์กรเครือข่ายชาวพุทธทั่วประเทศ ขอประณามพฤติกรรมดังกล่าวของนายธงทองพร้อมเรียกร้องให้ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ประธาน กมธ.ยกร่างฯ ได้ตักเตือน นายธงทอง ให้ทำงานเฉพาะในกรอบหน้าที่ อย่าล้ำเส้นของ ส.ส.ร.ควรเปิดโอกาสให้ประชาชน มีส่วนร่วมกับรัฐธรรมนูญอย่างทั่วถึง พร้อมให้ปลดนายธงทองออกจากตำแหน่งโฆษกคณะกรรมาธิการแล้ว ตั้งคนอื่นมาทำหน้าที่แทน
ทั้งนี้ ในส่วนของเดิมที่อยู่ในรัฐธรรมนูญ
แต่ถ้าเห็นว่าสิ่งนั้นเป็นประโยชน์ก็ควรจะบรรจุไว้ในรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่พูดส่งเดชอย่างที่เป็น ถ้าเช่นนั้น ไม่ควรเขียนอะไรไว้ทุกอย่าง เสียเวลาการ#####การเมือง เพราะรัฐธรรมทุกฉบับก็ไม่เคยมีเขียนไว้เลยแม้แต่ฉบับเดียว แม้แต่รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวยังตัดคำที่สำคัญว่า “พระมหากษัตริย์ทรงเป็นพุทธมามกะ” ออกไปจากรัฐธรรมนูญ แสดงว่า มีเจตนาจะไม่ใส่ประโยคเหล่านี้ไปด้วยหรือไม่
พระมหาโชว์ ย้ำทิ้งท้าย
“ถ้า ส.ส.ร. สนช.และ คมช.ไม่เห็นความสำคัญของพระพุทธศาสนาในประเทศไทย ปล่อยปละละเลย เพิกเฉย ไม่บัญญัติเอาไว้ในรัฐธรรมนูญ ชาวพุทธ 59 ล้านคนทั่วประเทศ ก็พร้อมที่จะคว่ำรัฐธรรมนูญฉบับนี้ต่อไป
จากนั้นได้ส่งตัวแทนเข้ายื่นหนังสือถึงประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ
และประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อเรียกร้องให้พิจารณาบัญญัติพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ และ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ประธาน กมธ.ยกร่างฯ ตักเตือนและปลด นายธงทอง ออกจากตำแหน่งโฆษก ทั้งนี้ ระหว่างเดินทางเข้ายื่นหนังสือได้สวดมนต์อิติปิโส มาตลอดทาง
นอกจากนี้ พระมหาโชว์ กล่าวอีกว่า
ขณะนี้มีกลุ่มชาวพุทธ รวบรวมรายชื่อจำนวนกว่าสามแสนคน และเชื่อว่า อาจได้รายชื่อนับล้าน ซึ่งจะรวบรวมนำมาให้คณะ กมธ.ยกร่างฯ และฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องในโอกาสต่างๆ ต่อไป เพื่อเป็นการยืนยันเจตนารมณ์ของพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ และหลังเดือนกรกฎาคม ซึ่งการยกร่างรัฐธรรมนูญเสร็จสิ้น หากไม่มีการบัญญัติให้พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ ก็เชื่อว่า จะมีการเคลื่อนไหวใหญ่ของชาวพุทธเกิดขึ้น
การออกมาเคลื่อนไหวของคณะสงฆ์จะมีความเหมาะสมหรือไม่
พระมหาโชว์กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความเหมาะสม เพราะถือว่าเป็นการปลูกฝังรากฐานที่ถูกต้องให้เกิดขึ้นในทางการเมืองและกฎหมาย และไม่เชื่อว่า การบัญญัติให้พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ จะทำให้ศาสนาอื่นๆ มีความรู้สึกเหมือนเป็นชนกลุ่มน้อยตามที่บางฝ่ายออกมาตั้งข้อสังเกต