![รูปภาพ](http://www.gravatar.com/avatar/a5c11fd1dd590ac8becd62801128cce7?s=100&d=https%3A%2F%2Fwww.dmc.tv%2Fforum%2Fpublic%2Fstyle_images%2Fmaster%2Fprofile%2Fdefault_large.png)
ทำไมผู้ปฏิบัติธรรมสายอื่น ๆ จึงไม่เห็นองค์พระบ้าง?
#1
โพสต์เมื่อ 20 February 2007 - 07:37 PM
#2
โพสต์เมื่อ 20 February 2007 - 07:40 PM
ฤาษีชีไพรต่างๆ ที่เข้าฌานได้ลึกสุดลึก นั่งได้เป็นเดือนเป็นปีโดยไม่ลุกไม่ดื่มไม่กิน คุณว่าสมาธิเค้าระดับไหนถึงทำได้ขนาดนั้น แต่กระนั้นก็ยังไม่เห็นองค์พระธรรมกาย เพราะเอาใจไปหยุดที่อื่นที่ไม่ใช่ฐานที่7
ที่พูดมาผมเองก็ไม่ได้เป็นผู้บรรลุอะไร แต่หลวงปู่หลวงพ่อคุณยายท่านสอนมาอย่างนี้
#3
โพสต์เมื่อ 20 February 2007 - 09:26 PM
#4
โพสต์เมื่อ 20 February 2007 - 10:27 PM
#5
โพสต์เมื่อ 20 February 2007 - 11:22 PM
koonpatt คิดว่า ประเด็นนี้เป็นประเด็นที่ค่อนข้างจะบอบบางและค่อนข้างจะ เป็นการเปรียบเทียบที่ขาดข้อมูลอ้างอิงที่ชัดเจนอยู่สักหน่อยนะคะ เพราะ
" บางคนเห็นแต่ไม่พูด บางคนเห็นและพูด บางคนพูดทั้งที่ไม่เห็น บางคนเห็นอย่างหนึ่งแต่เข้าใจว่าเห็นอีกอย่างหนึ่ง
บางคนเห็นเสี้ยวหนึ่งแต่บอกว่าเห็นทั้งหมด บางคนเห็นหนึ่งแต่พูดว่าเห็นสิบ "
เราไม่สามารถที่จะสรุปลงไปได้ว่า " ใคร...เห็น และ ใคร...ไม่เห็น "
ถ้า เราคิดว่า เราเป็นคนหนึ่งที่อยู่ในร่มเงาของพระพุทธศาสนา ยึดมั่นใน พระรัตนตรัย ซึ่งประกอบไปด้วย
พระพุทธ ซึ่งหมายถึง องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระธรรม ซึ่งหมายถึง พระธรรม คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
พระสงฆ์ ซึ่งหมายถึง หมู่สงฆ์ทั้งหลายผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ (มิได้เจาะจงจึงจะเรียกว่า " พระสงฆ์ ")
ก็อย่าแบ่งสายกันเลยนะคะ เพราะ koonpatt มีความคิดว่า (อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะคะ)
จริงๆแล้วเนี่ย ทุกๆท่านต้องการที่จะศึกษาพระธรรม ปฏิบัติธรรม ตามคำสอนของพระพุทธองค์ เพียงแต่ เราสะดวกใจที่จะเข้าโรงเรียนไหนเท่านั้นเอง
หลักสูตรนี้มีผู้เดียวที่รู้แจ้งเห็นจริง คือ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระสงฆ์ทั้งหลายต่างคือครูที่นำหลักสูตรนั้นมาสอนให้แก่ นักเรียน นัก ศึกษาอย่างเราๆ ให้ได้ศึกษาและปฏิบัติตาม วัดทั้งหลาย คือโรงเรียน เราสะดวกที่จะเรียนที่ไหน ก็เข้าเรียนที่นั่น
ครูแต่ละท่านก็มีเทคนิคการสอน วิธีการสอนที่แตกต่างกันออกไป ตามเอกลักษณ์ของแต่ละท่าน
โรงเรียนแต่ละโรงเรียนโรงเรียนก็ต่างกันออกไปตามเจตนารมณ์ของครูใหญ่ ผู้อำนวยการ หรือ เจ้าของโรงเรียนแต่ละโรงเรียน
บางโรงเรียนครูน้อย บางโรงเรียนครูมาก บางโรงเรียนเน้นสอนปฏิบัติ บางโรงเรียนเน้นสอนทฤษฎี
แต่ต่างสอนหลักสูตรเดียวกันทั้งสิ้น คือ พระธรรม
มุ่งความสนใจไปที่พระธรรมเถอะค่ะ อย่าไปสงสัยที่วิธีการ หรือ ผลการปฏิบัติของคนอื่นเลยนะคะ
สงสัยมาก ใจก็วิ่งมาก พอใจวิ่งมากๆ ก็จะหยุดยาก จะเหนื่อยนะคะ แล้วเมื่อไหร่...ใจจะเป็นหยุด และเป็นสุขเสียที
แล้วสักวันหนึ่ง คนที่จะตอบเรื่องเหล่านี้ได้ดีทีสุดน่าจะเป็นตัวเราเอง
คนอื่นตอบเรา ถ้าเราไม่เชื่อ หรือสงสัย ก็ได้แค่ เกิดคำถามกับคำตอบ กับบทสนทนาเท่านั้นแหล่ะค่ะ
koonpatt มิได้มีเจตนาจะตำหนิ หรือ มีความคิดเห็นขัดแย้งกับใครนะคะ เพียงแต่เข้ามาแสดงความคิดเห็นเท่านั้นเอง
หาก koonpatt ทำให้ท่านใดที่ได้อ่านแล้วเกิดความเห็นที่แตกต่าง หรือ ไม่ต้องใจผู้ใด ขออภัยและขออโหสิกรรมมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
ก็เป็นแค่เพียงความคิดเห็นจาก " หางอึ่ง " เท่านั้นเอง
สา...ธุ ค่ะ
แด่
เธอ...ผู้นำแสงสว่างสู่...กลางใจ
#6
โพสต์เมื่อ 20 February 2007 - 11:33 PM
![happy.gif](style_emoticons/default/happy.gif)
(คุณKoonpatหายไปนานเลยค่ะ)
#7
โพสต์เมื่อ 21 February 2007 - 08:06 AM
#8
โพสต์เมื่อ 21 February 2007 - 08:33 AM
#9
โพสต์เมื่อ 21 February 2007 - 12:39 PM
![smile.gif](style_emoticons/default/smile.gif)
![nerd_smile.gif](style_emoticons/default/nerd_smile.gif)
#10
โพสต์เมื่อ 21 February 2007 - 01:05 PM
สาธุครับ
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทวารัตตะเยนะ กะตัง
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต้ อุกาสะ ขะมามิ ภันเตฯ
หากข้าพระพุทธเจ้า ได้เคยประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินต่อพระรัตนตรัย อันมีพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ในชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ด้วยกายก็ดี วาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี ด้วยเจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี
ขอองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย และผู้มีพระคุณทุกท่าน ได้โปรดยกโทษให้แก่ข้าพระพุทธเจ้า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ
#11
โพสต์เมื่อ 21 February 2007 - 09:26 PM
เข้าใจเข้าใจเจตนาเจ้าของกระทู้ครับ ผมต้องขอโทษเจ้าของกระทู้ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
#12
โพสต์เมื่อ 22 February 2007 - 09:44 AM
แต่ถ้าหาก ความเห็นหรือเนื้อหาใดๆที่ละเอียดลึกซึ้งเกินไปหมิ่นแหม่ที่จะถูกวิพากวิจารไปในทางที่เสียหาย ก็จะปิดหัวข้อหรือความเห็นนั้นทันทีครับ
#13
โพสต์เมื่อ 22 February 2007 - 12:02 PM
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#14
โพสต์เมื่อ 24 February 2007 - 09:59 AM
พอ. . .แล้วกับความรู้สึกที่ว่าอยากมีอยากเป็น
One word will suffice.
#15
โพสต์เมื่อ 24 February 2007 - 10:44 AM
open your mind, because every one want to be cucsesfull for meditation.
depend on what merit they have makes with there master before,and how hard
they practice. one way or another, when merit are full it will be cucessfull.
Thankf you very much, sorry if i´m miss understand and Sathu to every one.
Best regard
Whitelotus
#16
โพสต์เมื่อ 24 February 2007 - 05:11 PM
- อานาปานสติ กำหนดลมหายใจพุทโธ ให้จิตสงบในขั้นสมถะเพื่อเข้าสู่ ฌานสมาบัติแปด แล้วจึงยกขึ้นสู่วิปัสสนา (สายวัดป่าส่วนใหญ่ จะเดินตามแนวปฏิบัติ หลวงปู่มั่นอย่างเคร่งครัด)
- ธรรมกาย เป็นหนึ่ง ใน อาโลกสิณ ซึ่งมีทั้งสมถะ สุขในสมาธิและนิมิต ญานทัศนะ และ ยกระดับ ขึ้นพิจารณาในระดับวิปัสสนาผ่านดวงธรรมในกาย ภาคโปรด ภาคปราบ (หลวงพ่อสด)
- ยุบหนอ พองหนอ หรือ สายหนอ เน้นการฝึกสติให้รู้ตัวทุกขณะ ที่มุ่งไปสุ่อสุภะกรรมฐาน เพื่อ ละ คลาย ไปสู่วิปัสสนาญาน 16 (เจ้าคุณโชดก วัดมหาธาตุ หลวงพ่อจรัญ)
- มโนมยิทธิ นะมะพะธะ ฝึกจากกสิณ เพื่อมุ่งอภิญญา และ ตรวจภพภูมิ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง)
- กรรมฐาน 40 วิธี ล้วนประกอบด้วยสมถะ และวิปัสสนา
การปฏิบัติสมถะเสมือนหนึ่งก้อนหินทับหญ้า เมื่อยกหินออกหญ้าหรือกิเลสก็เติบโตได้อีก
การปฏิบัติวิปัสสนา คือรู้ตามความจริง เพื่อความเบื่อหน่าย คลาย ละ กิเลส อาสวะทั้งปวง
การพิจารณาเห็นสักแต่ว่าเห็น ได้ยินสักแต่ว่าได้ยิน ก็เพื่อ ละสังโยชน์ รูปราคะ ละสังโยชน์ อรูปราคะ พิจารณาให้อยู่ในรูปไตรลักษณ์ อนิจจังทุกขัง อนัตตา
ในวิชชาธรรมกายนั้น การเห็นนิมิตต่างๆผ่านญาณทัศนะ ก็ต้องเรียนรู้วิธีการตรวจสอบว่า ที่เห็นนั้นจริงเท็จประการใด ใช่มารแปลงมาลวงหลอกหรือไม่ มีรายละเอียดให้ค้นคว้ามากมาย สามารถศึกษาได้จากแม่ชี ครูอาจารย์ ตำรับตำราในสมัยหลวงพ่อสด มีให้ศึกษามากมาย เพื่อป้องกันตนเองมิให้หลงทาง
#17
โพสต์เมื่อ 26 February 2007 - 12:58 PM
#18
โพสต์เมื่อ 28 February 2007 - 08:49 AM
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ
เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี