ไปที่เนื้อหา


usr20683

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 13 Nov 2007
ออฟไลน์ ใช้งานล่าสุด Dec 09 2007 09:03 AM
-----

กระทู้ที่ฉันเริ่ม

ก่อนที่จะสาย

13 November 2007 - 01:07 AM

เรื่องราวต่อจากนี้ไปคือเรื่องที่ทุกคนต้องเจอแต่จะเจอช้าหรือเร็วเท่านั้นเอง หลายๆคนคงเคยไปงานศพมาแล้วแน่นอนเราไปเคารพศพและไปแสดงความเสียใจกับคนที่เรารู้จักด้วยโดยเราไม่สามารถรับรู้ถึงความรู้สึกลึกๆของคนที่สูญเสียว่ามันเจ็บปวดเพียงใดเรื่องราวต่อจากนี้ไปคือส่วนหนึ่งและคือส่วนที่สำคัญที่สุดของชีวิตผมซึ่งได้ถูกเรียกว่า ลูกจากปากของพ่อและแม่ เคยไหมเวลาเรามีความสุขกับอะไรก็ตามเราจะรู้สึกว่าเวลานั้นผ่านไปเร็วมากแต่เวลาที่เราต้องเจอกับปัญหาและเรื่องที่เราเสียใจเรารู้สึกว่าเวลามันเดินช้าเหลือเกิน ตั้งแต่เราเกิดมาบนโลกนี้สิ่งแรกที่เราได้รับโดยที่เรายังไม่รู้จักความหมายของมันเลยด้วยซ้ำคือความรักที่พ่อและแม่มีให้กับเราเวลาที่ผ่านไปในแต่ละวันเราอาจจะไม่เคยรู้เลยว่าพ่อและแม่ของเราต้องเหนื่อยหรือเจอกับอะไรมาบ้างแน่นอนไม่มีทางที่พ่อและแม่จะมาเล่าหรือระบายให้เราฟัง ตั้งแต่เด็กจนโต เราแทบจะทำเป็นกิจวัตร ตื่น ขอเงินไปเรียน กลับบ้าน นอน ตอนเด็กๆ ผมเคยขอซื้อเกมส์ อยู่ครั้งหนึ่งแต่พ่อไม่ซื้อให้ตอนนั้นผมจำได้ว่าผมร้องไห้ แล้วพ่อก็ตีพ่อบอกว่าให้ตั้งใจเรียนอย่าห่วงแต่เกมส์ จนผ่านไป 1ปี ผ่านไปวันนั้นไปเที่ยวงานฤดูหนาว อยู่ดีๆพ่อก็ซื้อเกมส์ที่ผมอยากได้มาให้ แต่ตอนนั้นผมก็ไม่ได้เล่นมันเท่าไรเพราะเพื่อนเลิกเล่นกันหมดแล้ว แต่พอโตเราก็คิดได้ว่า ไม่ว่าอะไรก็ตามที่เราขอจากพ่อ และ แม่ ไม่ว่าของชิ้นนั้นจะเป็นอะไรไร้สาระแค่ไหนพ่อแม่ทุกคนอยากซื้อให้ลูกทุกอย่างแต่ในตอนนั้นภาระของท่านทั้ง 2 คน คงสำคัญจริงท่านต้องดูแลหลายๆอย่างในครอบครัว จำไว้รายได้เงินเดือนของพ่อและแม่ของเราไม่ได้ขิ้นทุกปีและตรงกันข้าม ค่าใช้ของลูกมัน ต้องขึ้นทุกปียิ่งเราโตเท่าไร เราก็ต้องใช้เงินเยอะคนหาก็คือ พ่อแม่ของเรา สังเกตไหมเราเรียนจบทำงานหลายๆคนยังขอเงินพ่อแม่ใช้อยู่เลย สิ่งเดียวที่พ่อแม่ทุกคนต้องการและจะพูดอยู่เสมอว่าไม่ต้องมาเลี้ยงพ่อแม่ ขอให้เราเลี้ยงตัวเองให้ได้ก็พอ หลายๆครั้งที่พ่อแม่เราป่วยแต่เราก็คิดแค่ว่าท่านคงไม่เป็นอะไรมากหรอก และส่วนมากท่านก็จะบอกว่าไม่ต้องห่วงท่านไม่เป็นอะไรหรอกในใจท่านคงไม่อยากให้เปนกังวล วินาทีสุดท้าย ที่ตัวผมเจอมันเป็นความรู้สึกที่บอกได้ว่าทุกคนถ้าไม่เจอกับตัวเองจะไม่รู้เลยว่ามันรู้สึกอย่างไร ผมยืนตัวสั่นทำอะไรไม่ถูกมือชาตัวชาสิ่งที่เห็นคือพ่อนอนแน่นิ่งไม่มีลมหายใจ มีสายดูดเลือดออกจากลำคอ ผมได้แต่ก้มลงไปกราบที่เท้าท่านโดยที่หน้าผมอยู่ที่เท้าท่านนานจนแม่ต้องมาดึงตัวออกไป ในใจมันบอกว่าไม่จริงภาพทุกอย่างมันผ่านเข้ามามีคำถามในหัวสมองตัวเองมากมาย มันเจ็บปวดที่สุดในชีวิตแทบไม่อยากอยู่ต่อไป คุณเคยไหมรู้ว่าตัวเองร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตานั่นแหละคือความเจ็บปวดที่สุด คำถามมากมายทุกวันนี้ผมยังตอบตัวเองไม่หมดเลยผมเขียนเรื่องนี้ออกมาจากใจความจริงผมเขียนไว้ ทั้งหมด 30 กว่าหน้าผมไม่ใช่นักเขียนที่ดีแต่ผมอยากให้ทุกคนที่ยังมีคุณพ่อคุณแม่อยู่กลับทำอะไรก็ตามที่เรายังไม่ได้ทำและไม่คิดจะทำ ความตายคือสิ่งที่ทุกคนต้องเจอ แต่ถ้าความตายจะพรากคนที่เรารักไปอย่างน้อยเราก็จะได้เก็บสิ่งที่เราได้ทำกับท่านไว้ให้เยอะที่สุด ในชีวิตผมไม่เคยกราบเท้าพ่อเลย ไม่นึกว่าจะได้มากราบตอนท่านสิ้นใจ หลายๆอย่างที่ผมยังไม่ได้ทำการแสดงออกในความรักมีอยู่หลายวิธี แต่ผมไม่เคยเลย ผมตั้งใจจะรวบรวมหนังสือเล่มนี้แจกตามห้องสมุดและวัดความจริงผมผมเขียนไว้เป็นบทๆ มีอะไรอีกมากมายที่ผมอยากให้เด็กหลายๆคนได้อ่าน ได้คิด รักพ่อและแม่ให้มากๆนะครับ ถ้าหนังสือเล่มนี้พิมพ์เสร็จแล้ว ผมจะเอามาลงให้หมดนะครับ การทำความดีทำบุญคือสิ่งเดียวที่เราทำแล้วเราจะได้รับผลบุญนั้นและยังไปถึงคนที่จากเราไปแล้วพระรูปหนึ่งเคยบอกผมไว้ (.ใครมีโรงพิมพ์ถูกๆแนะนำด้วยนะครับ) [email protected]