ไม่ทราบว่าพอจะมีลิ๊งค์หนังสือ "ไม่มีเวลา ไม่มีในโลก"
ของคุณพัชรี เบญจวิลาศ บ้างมั้ยคะ
- ธรรมะสร้างกำลังใจ ทำให้คุณเป็นสุขใจได้ตลอดเวลา
- → ดูโปรไฟล์: โพสต์: ลูกตาล
สถิติเว็บบอร์ด
- กลุ่ม Members
- โพสต์ 7
- ดูโปรไฟล์ 4372
- อายุ ไม่เปิดเผย
- วันเกิด ไม่เปิดเผย
-
Gender
ไม่เปิดเผย
0
Neutral
เครื่องมือผู้ใช้งาน
เพื่อน
ลูกตาล ยังไม่มีเพื่อนในตอนนี้
ผู้เยี่ยมชมล่าสุด
โพสต์ที่ฉันโพสต์
ในกระทู้: จากแม่สู่ลูก.....และ สู่ลูกพระของธัม>>>>>>>
10 August 2009 - 08:37 AM
ในกระทู้: จากแม่สู่ลูก.....และ สู่ลูกพระของธัม>>>>>>>
09 August 2009 - 09:16 PM
ขอบคุณ คุณ "ตะกร้าอีกใบ@ในวันใหม่" นะคะ
ทำให้เจอหนังสือที่ยังไม่ได้อ่านอีกหลายเล่ม ^ ^
ทำให้เจอหนังสือที่ยังไม่ได้อ่านอีกหลายเล่ม ^ ^
ในกระทู้: ขอเบอร์โทรศัพท์ติดต่อผู้นำบุญ จ.พะเยา และ จ.น่าน
29 July 2009 - 09:41 PM
แล้วถ้าสมมติว่าผู้นำบุญไม่ได้จัดรถมาต้นเดือน
ให้เพื่อนนั่งรถ บขส มาก็ได้นะคะ
เดี๋ยวจะรับบุญไปช่วยรับที่หมอชิตแล้วพามาวัดด้วยกันก็ได้ค่ะ
ไม่ต้องเกรงใจนะคะ คนจังหวัดเดียวกัน
และเต็มใจช่วยจริง ๆ
084-644-8744
ให้เพื่อนนั่งรถ บขส มาก็ได้นะคะ
เดี๋ยวจะรับบุญไปช่วยรับที่หมอชิตแล้วพามาวัดด้วยกันก็ได้ค่ะ
ไม่ต้องเกรงใจนะคะ คนจังหวัดเดียวกัน
และเต็มใจช่วยจริง ๆ
084-644-8744
ในกระทู้: ขอเบอร์โทรศัพท์ติดต่อผู้นำบุญ จ.พะเยา และ จ.น่าน
29 July 2009 - 09:34 PM
มีเบอร์น้องหยก อยู่ที่ จ.น่านค่ะ
089-898-4404
น้องหยกอยู่ที่ อ.สา นะคะ
แต่น้องหยกจะมีเบอร์ผู้นำบุญที่ จ.น่าน หลายคนค่ะ
089-898-4404
น้องหยกอยู่ที่ อ.สา นะคะ
แต่น้องหยกจะมีเบอร์ผู้นำบุญที่ จ.น่าน หลายคนค่ะ
ในกระทู้: ปาฏิหารย์มีจริงหรือ มีใครเคยเจอ
05 July 2009 - 11:58 PM
เรื่องของเราไม่รู้จะเป็นกำลังใจให้ จขกท ได้บ้างรึเปล่านะคะ
ปีที่แล้ว ในช่วงที่มีบุญหล่อหลวงปู่ทองคำ เราก็มีปัญหาค่อนข้างเยอะ
ทั้งเรื่องการเงิน การงานสารพัดอย่าง แบบว่าร้องไห้คนเดียวได้แทบทุกวันเลยล่ะ
แต่เราก็อยากหล่อหลวงปู่ด้วยทองคำมาก ๆ อยากมีชื่ออยู่ในแกนกลางมาก ๆ
เพราะมันมีความรู้สึกลึก ๆ ว่า ถ้าบุญนี้ผ่านไป อาจจะไม่มีอีกแล้ว
แต่มานั่งบวกลบคูณหารดูแล้วก็คิดว่าเราคงทำได้อย่างมากแค่ 1 บาททอง
(ไม่มั่นใจด้วยว่า 1 บาททองจะเต็มรึป่าว T T)
คิดไปคิดมาก็เครียด เครียดรวมกันทั้งเรื่องงาน เงิน และบุญ
โดยเฉพาะเรื่องงาน เรามีปัญหากับหัวหน้าชนิดที่ว่าไม่มองหน้า ไม่พูดคุยกันเลย
แต่งานของเราต้องเดิน ก็ต้องทำตามลำพัง แล้วยังต้องหนักใจกับลูกน้องที่
ไม่เต็มที่กับงานอีก แบบว่าเศร้ามาก ๆ เลยล่ะ
พอเครียดและเศร้าจนได้ที่ สุดท้ายก็เลยบอกกับตัวเองว่า "ช่างมันเถอะ"
แต่เราจะทำให้เต็มที่ แล้วมานั่งพิจารณาว่าคำว่า "เต็มที่" ของเราคืออะไรในทุก ๆ ด้าน
เราเริ่มต้นที่เรื่องแรก คือ เรื่องบุญ ปกติเราจะนั่งเฉพาะวันที่ไปวัด
หกวันที่เหลือก็มีแค่รักษาศีลกับหยอดกระปุกทำบุญเล็ก ๆ น้อย ๆ
เราก็เปลี่ยน... เริ่มนั่งสมาธิตอนเช้า ตอนแรกก็นั่งได้แค่ 15-20 นาที
แต่พอนั่งไปก็ค่อย ๆ มีความสุข ก็เพิ่มเวลานั่งขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยความสมัครใจ
เป็นประมาณเช้าละ 45 นาที ถึง 90 นาที บางวันมีความสุขจนไม่อยากไปทำงานเลย
พอตอนเที่ยงก็รีบทานข้าวแล้วเสียบหูฟัง ฟังเสียงหลวงพ่อ ตรึกไปเรื่อย ๆ ฟุ้งก็ช่าง
พอตอนเย็นก็รีบเคลียร์งาน กลับมานั่งหลับตาได้ประมาณ 1 ชม. แล้วค่อยไปทำธุระส่วนตัว
ส่วนก่อนนอน แหะ แหะ นั่งได้นิดเดียวค่ะ มันพาลจะหลับเอาให้ได้ ก็ช่วงนั้นนั่งประมาณวันละ 3 ชม.
คือเราก็ไม่รู้ว่าเราจะมีเงินทำรึเปล่า อย่างน้อยก็ขอปฏิบัติบูชาอย่างคุณคำน้อย
นั่ง ๆ ไปก็ค่อย ๆ มีความสุขทั้งที่มืด ๆ นั่นแหละ แล้วเริ่มตรึกนึกถึงหลวงปู่อยู่บ่อย ๆ
ก่อนเลิกนั่งทุกครั้งก็อธิษฐานจิตในเรื่องที่เรามีปัญหา โดยที่ไม่ได้คาดหวัง
แล้วก็หยอดกระปุกทำบุญก่อนออกไปทำงานทุกวัน
ช่วงระหว่างวันที่ทำงาน เราก็ตรึกไปเรื่อย ๆ จนบางช่วงรู้สึกว่าการเอาใจมาไว้ที่ศูนย์กลางกาย
เป็นเหมือนจุดเย็นกลางเตาหลอมจริง ๆ เพราะความเครียดเรื่องคนเรื่องงานไม่สามารถทำให้เราคิดมาก
ได้เหมือนเมื่อก่อน เรานิ่ง ๆ และพยายามทบทวนบทบาทของตัวเองอยู่ตลอดเวลา
เพราะในตำแหน่งที่อยู่ เราเป็นทั้งหัวหน้าและลูกน้อง พยายามแก้ไขตัวเองให้ดีที่สุด
โดยไม่โทษตัวเองและคนอื่น แต่พยายามหาทางปรับปรุงแก้ไข ทั้งคำพูดและวิธีการทำงาน
สุดท้ายโปรเจ็คส์ที่เรารับผิดชอบ ประสบผลสำเร็จมาก ๆ ได้รับคำชมจากที่ประชุมใหญ่
ทำให้หัวหน้าปลื้ม ลูกน้องก็ดีใจ สุดท้ายก็กลับมาพูดคุยกันเหมือนเดิม และเราก็ได้งานมากขึ้น T T
แล้วในช่วงที่เรานั่งสมาธิ ตรึกบ่อย ๆ อ่านหนังสือธรรมะ ฟังธรรมะเพื่อประชาชน และไปวัดทุกอาทิตย์นี้เอง
เราก็เริ่มหางานเสริมทำซึ่งเราไม่คาดหวังเลยว่าจะทำเงินให้เราได้ แต่คิดว่าถ้าเราไม่ทำก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
แต่ถ้าเราลงมือทำ เราก็มีสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลง เราก็เลยลงมือทำ ค่อย ๆ ทำ ค้นคว้าข้อมูลและพยายามอย่างเต็มที่
ควบคู่ไปกับงานประจำ อยู่ ๆ งานเสริมที่เราทำก็มีออเดอร์เข้ามาจากน้อย ๆ ก็ค่อย ๆ เยอะขึ้น จนรายได้มากกว่างานหลัก
เราก็จะหักลบต้นทุนเหลือกำไรเท่าไหร่ก็ตัดใจเอาไปทำบุญหล่อหลวงปู่ จากที่ทำได้อาทิตย์ละไม่กี่ร้อย
ก็มาเป็นอาทิตย์ละพัน สองพัน สามพัน .... จนถึงวันหล่อหลวงปู่เราทำได้ถึง 10 บาททอง ได้จารึกชื่อในแกนกลาง
แล้วก็ยังได้ทำแผ่นฌานหลวงปู่อีก 3 แผ่น มานั่งนึกทุกวันนี้ก็ยังปลื้มยิ้มอยู่กับตัวเองคนเดียวเสมอ
ว่าคนอย่างเราก็ทำได้เหรอเนี่ย ยิ่งทำสำเร็จยิ่งรักและเคารพพระเดชพระคุณหลวงปู่มากยิ่งขึ้น
ต้องขออภัยที่เขียนยาวไปนิดนึงนะคะ จริง ๆ ก็สรุปตามโอวาทของพระเดชพระคุณหลวงพ่อแหละค่ะ
ว่าการนั่งธรรมะ เป็นการเชื่อมบุญเก่าและบุญใหม่เข้าด้วยกัน บุญอยู่เบื้องหลังความสุขความสำเร็จของชีวิต
ถ้าเรื่องนี้ยังไม่พอที่จะเป็นกำลังใจให้ ลองอ่านเรื่องคุณคำน้อยหรือ
เรื่องของ Doctor K ดูนะคะ ท่านเหล่านั้นเคยอยู่ในภาวะที่แย่กว่าเราอีก
สู้ สู้ นะคะ ในวิกฤตมีโอกาสเสมอ
ปีที่แล้ว ในช่วงที่มีบุญหล่อหลวงปู่ทองคำ เราก็มีปัญหาค่อนข้างเยอะ
ทั้งเรื่องการเงิน การงานสารพัดอย่าง แบบว่าร้องไห้คนเดียวได้แทบทุกวันเลยล่ะ
แต่เราก็อยากหล่อหลวงปู่ด้วยทองคำมาก ๆ อยากมีชื่ออยู่ในแกนกลางมาก ๆ
เพราะมันมีความรู้สึกลึก ๆ ว่า ถ้าบุญนี้ผ่านไป อาจจะไม่มีอีกแล้ว
แต่มานั่งบวกลบคูณหารดูแล้วก็คิดว่าเราคงทำได้อย่างมากแค่ 1 บาททอง
(ไม่มั่นใจด้วยว่า 1 บาททองจะเต็มรึป่าว T T)
คิดไปคิดมาก็เครียด เครียดรวมกันทั้งเรื่องงาน เงิน และบุญ
โดยเฉพาะเรื่องงาน เรามีปัญหากับหัวหน้าชนิดที่ว่าไม่มองหน้า ไม่พูดคุยกันเลย
แต่งานของเราต้องเดิน ก็ต้องทำตามลำพัง แล้วยังต้องหนักใจกับลูกน้องที่
ไม่เต็มที่กับงานอีก แบบว่าเศร้ามาก ๆ เลยล่ะ
พอเครียดและเศร้าจนได้ที่ สุดท้ายก็เลยบอกกับตัวเองว่า "ช่างมันเถอะ"
แต่เราจะทำให้เต็มที่ แล้วมานั่งพิจารณาว่าคำว่า "เต็มที่" ของเราคืออะไรในทุก ๆ ด้าน
เราเริ่มต้นที่เรื่องแรก คือ เรื่องบุญ ปกติเราจะนั่งเฉพาะวันที่ไปวัด
หกวันที่เหลือก็มีแค่รักษาศีลกับหยอดกระปุกทำบุญเล็ก ๆ น้อย ๆ
เราก็เปลี่ยน... เริ่มนั่งสมาธิตอนเช้า ตอนแรกก็นั่งได้แค่ 15-20 นาที
แต่พอนั่งไปก็ค่อย ๆ มีความสุข ก็เพิ่มเวลานั่งขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยความสมัครใจ
เป็นประมาณเช้าละ 45 นาที ถึง 90 นาที บางวันมีความสุขจนไม่อยากไปทำงานเลย
พอตอนเที่ยงก็รีบทานข้าวแล้วเสียบหูฟัง ฟังเสียงหลวงพ่อ ตรึกไปเรื่อย ๆ ฟุ้งก็ช่าง
พอตอนเย็นก็รีบเคลียร์งาน กลับมานั่งหลับตาได้ประมาณ 1 ชม. แล้วค่อยไปทำธุระส่วนตัว
ส่วนก่อนนอน แหะ แหะ นั่งได้นิดเดียวค่ะ มันพาลจะหลับเอาให้ได้ ก็ช่วงนั้นนั่งประมาณวันละ 3 ชม.
คือเราก็ไม่รู้ว่าเราจะมีเงินทำรึเปล่า อย่างน้อยก็ขอปฏิบัติบูชาอย่างคุณคำน้อย
นั่ง ๆ ไปก็ค่อย ๆ มีความสุขทั้งที่มืด ๆ นั่นแหละ แล้วเริ่มตรึกนึกถึงหลวงปู่อยู่บ่อย ๆ
ก่อนเลิกนั่งทุกครั้งก็อธิษฐานจิตในเรื่องที่เรามีปัญหา โดยที่ไม่ได้คาดหวัง
แล้วก็หยอดกระปุกทำบุญก่อนออกไปทำงานทุกวัน
ช่วงระหว่างวันที่ทำงาน เราก็ตรึกไปเรื่อย ๆ จนบางช่วงรู้สึกว่าการเอาใจมาไว้ที่ศูนย์กลางกาย
เป็นเหมือนจุดเย็นกลางเตาหลอมจริง ๆ เพราะความเครียดเรื่องคนเรื่องงานไม่สามารถทำให้เราคิดมาก
ได้เหมือนเมื่อก่อน เรานิ่ง ๆ และพยายามทบทวนบทบาทของตัวเองอยู่ตลอดเวลา
เพราะในตำแหน่งที่อยู่ เราเป็นทั้งหัวหน้าและลูกน้อง พยายามแก้ไขตัวเองให้ดีที่สุด
โดยไม่โทษตัวเองและคนอื่น แต่พยายามหาทางปรับปรุงแก้ไข ทั้งคำพูดและวิธีการทำงาน
สุดท้ายโปรเจ็คส์ที่เรารับผิดชอบ ประสบผลสำเร็จมาก ๆ ได้รับคำชมจากที่ประชุมใหญ่
ทำให้หัวหน้าปลื้ม ลูกน้องก็ดีใจ สุดท้ายก็กลับมาพูดคุยกันเหมือนเดิม และเราก็ได้งานมากขึ้น T T
แล้วในช่วงที่เรานั่งสมาธิ ตรึกบ่อย ๆ อ่านหนังสือธรรมะ ฟังธรรมะเพื่อประชาชน และไปวัดทุกอาทิตย์นี้เอง
เราก็เริ่มหางานเสริมทำซึ่งเราไม่คาดหวังเลยว่าจะทำเงินให้เราได้ แต่คิดว่าถ้าเราไม่ทำก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
แต่ถ้าเราลงมือทำ เราก็มีสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลง เราก็เลยลงมือทำ ค่อย ๆ ทำ ค้นคว้าข้อมูลและพยายามอย่างเต็มที่
ควบคู่ไปกับงานประจำ อยู่ ๆ งานเสริมที่เราทำก็มีออเดอร์เข้ามาจากน้อย ๆ ก็ค่อย ๆ เยอะขึ้น จนรายได้มากกว่างานหลัก
เราก็จะหักลบต้นทุนเหลือกำไรเท่าไหร่ก็ตัดใจเอาไปทำบุญหล่อหลวงปู่ จากที่ทำได้อาทิตย์ละไม่กี่ร้อย
ก็มาเป็นอาทิตย์ละพัน สองพัน สามพัน .... จนถึงวันหล่อหลวงปู่เราทำได้ถึง 10 บาททอง ได้จารึกชื่อในแกนกลาง
แล้วก็ยังได้ทำแผ่นฌานหลวงปู่อีก 3 แผ่น มานั่งนึกทุกวันนี้ก็ยังปลื้มยิ้มอยู่กับตัวเองคนเดียวเสมอ
ว่าคนอย่างเราก็ทำได้เหรอเนี่ย ยิ่งทำสำเร็จยิ่งรักและเคารพพระเดชพระคุณหลวงปู่มากยิ่งขึ้น
ต้องขออภัยที่เขียนยาวไปนิดนึงนะคะ จริง ๆ ก็สรุปตามโอวาทของพระเดชพระคุณหลวงพ่อแหละค่ะ
ว่าการนั่งธรรมะ เป็นการเชื่อมบุญเก่าและบุญใหม่เข้าด้วยกัน บุญอยู่เบื้องหลังความสุขความสำเร็จของชีวิต
ถ้าเรื่องนี้ยังไม่พอที่จะเป็นกำลังใจให้ ลองอ่านเรื่องคุณคำน้อยหรือ
เรื่องของ Doctor K ดูนะคะ ท่านเหล่านั้นเคยอยู่ในภาวะที่แย่กว่าเราอีก
สู้ สู้ นะคะ ในวิกฤตมีโอกาสเสมอ
- ธรรมะสร้างกำลังใจ ทำให้คุณเป็นสุขใจได้ตลอดเวลา
- → ดูโปรไฟล์: โพสต์: ลูกตาล
- Privacy Policy
- เงื่อนไข ข้อตกลง และกฏระเบียบของเว็บไซต์ DMC ·