ไปที่เนื้อหา


Kanhot

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 22 Jun 2008
ออฟไลน์ ใช้งานล่าสุด Sep 03 2010 10:04 PM
-----

โพสต์ที่ฉันโพสต์

ในกระทู้: ฟังหลวงพ่อแล้วกลุ้ม

03 September 2010 - 02:31 AM

เอาประสบการณ์ส่วนตัวมาเล่าให้ฟังคับ

หลวงพ่อเคยบอกว่า ศรัทธาจะเต็ม100 ต่อเมื่อเข้าถึงธรรม

ผมฟังหลวงพ่อ ตรองตาม แล้วพิสูจน์ทุกครั้งตามหลัก กาลามสูตร โดยทำ2อย่างคับคือ

1ทำให้ถูกวิธี 2มีความเพียรถึง

หลวงพ่อแนะ และนำคือทำให้ดู ท่านไม่ได้บอกให้ผมเชื่ออย่างไม่ลืมหูลืมตาคับ เพราะหลักพุทธศาสนาคือหลักเหตุและผล สิ่งที่ท่านสอนเป็นหลัก

ธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ดังนั้นหากทำถูกวิธี และมีความเพียรถึง ย่อมได้รับผลเสมอไม่จำกัดกาลเวลา เหมือนบทพระธรรมคุณ อกาลิโก

และ เอหิปัสสิโก คับ

ผมพบอานุภาพ(1ในปาฏฺิหารย์3 อนุสาสนีปาฏิหาริย์) ของท่านดังนี้คับ

คำสอนท่านในการนั่งสมาธิ เป็นจริง คือ ความสุขภายในมีจริง และเข้าถึงได้จริง อันนี้เป็นศรัทธาอันดับแรกของผมเลยคับ ทำให้เริ่มเชื่อในพระไตร

ปิฏกที่พระพุทธเจ้าสอนว่า สุขอื่นยิ่งกว่าหยุดนิ่งไม่มี

เมื่อมีศรัทธาภายในใจด้วยตนเอง ไม่ได้ศรัทธาเพียงเพราะครูบาอาจารย์ แล้วต่อยอดด้วยการอ่าน และฟังธรรมจากหลวงพ่อทัตตะมาเรื่อยๆ จะ

ค่อยๆเข้าใจเองคับ ตัวอย่างคือ แม้อ่านมงคลชีวิตจบหลายรอบ แต่ถ้ากลับมาอ่านอีกรอบหลังจากพบความสุขภายในแล้ว จะเข้าใจลุ่มลึกได้มาก

ขึ้น ที่คิดว่ารู้แล้วกลับมาทราบภายหลังว่าเรายังไม่รู้ หรือรู้แต่ยังไม่กระจ่างคับ



การทำทานเช่นกฐิน ผมคิดว่า เป็นการสร้างบารมีคือนิสัยที่ดีๆคับ เป็นการสละความตระหนี่ออกจากใจ การทำเต็มที่ของผมคือสละความตระหนี่ให้
เต็มที่ ตั้งเป็าหมายคืออธิษฐานบารมีเอาไว้ เมื่อทำเต็มที่จะถึงเป็าหรือไม่อีกเรื่องคับ
เหมือนสุเมธดาบสสอนตนเองว่า เราจักทำทานบารมีเหมือนตุ่มที่เทน้ำจนหมด ท่านอธิษฐานเป็นพระพุทธเจ้า แต่ท่านก็ไม่ได้เป็นในชาติที่ท่านสละชีวิตเป็นทาน ขนาดยอมตายนอนเป็นสะพานให้พระทีปังกรสัมมาสัมพุทธเจ้ากับพระอรหันต์เป็นแสนๆ ท่านก็ไม่ได้ท้อใจ แต่ท่านเชื่อและรู้ว่า หากเราตั้งใจสร้างบารมีอย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพัน เราจักต้องเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งได้อย่างแน่นอน สุดท่ายท่านก็ได้เป็นจริงๆ

หรือเหมือนพระมหาชนก ว่ายน้ำในมหาสมุทร มองไม่เห็นฝั่งแต่ท่านเชื่อมั่น มุ่งมั่น ไม่ท้อถอย สุดท้ายก็สำเร็จคับ

ผมคิดเองนะคับว่า พระโพธิสัตว์ท่านเชื่อมั่นในตนเองคับว่า หากทำถูกต้องตามหลักธรรมคือถูกวิธี และมีความเพียรถึงแล้ว เราจักต้องสำเร็จในสิ่งที่เราปรารถนาอย่างแน่นอน ท่านไม่ได้แค่เอาคำพยากรณ์ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นที่ตั้งอย่างเดียวคับ สรุปคือ เอาธรรมเป็นที่ตั้งคับ

ผมว่าความอัศจรรย์ที่สุดในชีวิตที่ได้รับคือ ได้รู้ความจริงของชีวิต ทางออกจากทุกข์ ความสุขที่แท้จริง ความเข้าใจชีวิตและสรรพสิ่ง แค่นี้ผมว่าผมโชคดีแล้วคับ ไม่มีอะไรยิ่งใหญ่กว่าความรู้นี้ เพราะบารมีผมยังไม่มากพอที่จะสอนตัวเอง ค้นเองได้หมด ดังนั้นเมื่อมีผู้รู้มาให้ความรู้ ผมคว้าคับ

ผมอธิษฐาน+ประกอบเหตุ โดยใช้วิธีปลูกกล้วยแบบหลวงพ่อทัตตะคับ ปลูกวันนี้ยังไม่ได้กินแน่ๆ แต่ถ้าเรารดน้ำ พรวนดินไปเรื่อยๆ เวลาถึงได้กินแน่นอน วันนี้ปลูกได้1ต้น พรุ่งนี้อีกต้น ปลูกไปหลายๆเดือนก็เป็นสวนใหญ่ๆได้นะคับ

ตุ่มที่ยังไม่ได้ใส่น้ำ กว่าจะเต็มต้องค่อยๆเติมน้ำและใช้เวลาคับ แต่สำหรับตุ่มของบางคน ในอดีตเค้าทำเต็มที่มาก่อน น้ำในตุ่มเลยมีเยอะกว่าเรา เติมอีกไม่ก็หยดก็เต็ม
ดังนั้นหากเราประกอบเหตุเติมน้ำไปเรื่อยๆ เต็มแน่นอนคับแถมได้วิริยะบารมีไปด้วย

ทำทาน ได้บุญเสมอทุกครั้งครับแม้ว่าจะเข้าเป้าไม่เข้าเป้า และได้บารมีเพิ่มขึ้น
หากทำใจใสๆ+รักษาศีลอุดรูรั่วของใจ จะได้บุญมากไม่หกหล่นคับ

ลองดูดีๆนะคับ ผมว่าคุณโชคดีกว่า เพื่อนมนุษย์อีกหลายพันล้านคนเลยทีเดียว













ในกระทู้: เรื่องชายเก็บดอกไม้ ใครทราบบ้าง?

28 October 2009 - 07:09 PM

มีในธรรมบทแปลคับ สุมนมาลาการ vcdไม่แน่ใจ เคยแต่อ่านคับ
th.wikisource.org/.../ธัมมปทัฏฐกถา_พาลวรรควรรณนา๙._เรื่องนายสุมนมาลาการ