ไปที่เนื้อหา


DiamondZ

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 03 Jan 2006
ออฟไลน์ ใช้งานล่าสุด Aug 27 2009 05:37 PM
-----

โพสต์ที่ฉันโพสต์

ในกระทู้: เพื่อนๆกัลยาณมิตรเว็บนี้มีคัยปราถนาพุทธภูมิบ้างหรอคับ

03 January 2006 - 09:33 PM

QUOTE
สงสัยจังเลยว่า
1. พระพุทธเจ้าภาคปราบเป็นอย่างไร มีหน้าที่อย่างไร อยู่แดนนิพพานแล้วยังต้องตามปราบมารอีกหรือ และปราบอย่างไร
2. พระพุทธเจ้าภาคปราบมีองค์ใดบ้าง ยกตัวอย่างได้ไหม
3. กายมหาบุรุษมีประโยชน์อะไรในการเข้าถึงนิพพาน ไม่ใช่จิตที่เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานหรอกหรือ ที่ทำให้ถึงซึ่งนิพพาน


ขอแสดงความคิดเห็นบ้างครับ :)
ตอบ 1. พระพุทธเจ้าเป็นทั้งภาคปราบ และ ภาคโปรด

ที่เป็น ภาคปราบ คือ ทรงปราบกิเลส (กิเลสมาร) ของพระองค์ให้หมดสิ้นไป เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าก่อน

ที่เป็น ภาคโปรด คือ แสดงธรรมสั่งสอนสัตว์ ชี้ทางให้สรรพสัตว์ ได้รู้ได้เข้าใจ ให้เป็นสัมมาทิฏฐิ (ความเห็นชอบ) คือ ทำให้หมู่สัตว์ทั้งหลาย รู้จักบุญ รู้จักบาป รู้จักคุณ รู้จักโทษ รู้จักประโยชน์ และรู้จักสิ่งที่ไม่ใช่ประโยชน์
ตลอดจนรู้จัก ทุกข์ (อันมาจาก ความเกิด แก่ เจ็บ ตาย ความพลัดพราก ความผิดหวัง)
รู้จัก สาเหตุแห่งทุกข์ (ตัณหา ความทะยานอยาก)
รู้จัก ทางดับทุกข์ (นิโรธ)
รู้จัก ทางที่ปฏิบัติไปสู่ความพ้นทุกข์ (มรรคมีองค์ 8 หรือ ศีล สมาธิ ปัญญา)

เมื่อพระพุทธเจ้าทรงโปรดหมู่สัตว์ให้เป็นสัมมาทิฏฐิ (ความเห็นชอบ) แล้ว ก็เท่ากับว่า พระองค์ทรงปราบมาร คือ กิเลสของหมู่สัตว์ให้เบาบางลงไปตามลำดับ เมื่อสรรพสัตว์เหล่านั้นมีความเห็นถูกตรง กิเลสเบาบางลง ก็เท่ากับได้ทรงเปลี่ยนมารทั้งหลาย ให้เป็นเทพ เป็นพรหม เป็นพระอริยเจ้าตามลำดับ

ถ้าชนเหล่านั้นสามารถตัดกิเลส (กิเลสมาร) ของตนได้หมด ก็เป็นพระอรหันต์ พ้นทุกข์ได้ในที่สุด

เมื่อพระพุทธเจ้าทรงปรินิพพาน เข้าสู่แดนพระนิพพานแล้ว พระธรรม จะเป็นตัวแทนของพระองค์ในการปราบมารของสรรพสัตว์ ให้พ้นทุกข์จากวัฏฏะสงสาร ให้พ้นทุกข์จากบ่วงของมารทั้งหลาย

พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ว่า "ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเราพระตถาคต"
และก่อนพระองค์จะปรินิพพานทรงตรัสไว้ว่า "ธรรมและวินัยอันใด เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้วแก่พวกเธอ ธรรมและวินัยอันนั้น จักเป็น ศาสดาของพวกเธอ"
(พระสุตตันตปิฎก เล่ม ๒ ทีฆนิกาย มหาวรรค - หน้าที่ 123)

ตอบ 2. พระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ ล้วนทั้งปราบมาร (ขันธมาร กิเลสมาร อภิสังขารมาร มัจจุมาร เทวบุตรมาร ) เพราะทรงมุ่งหวัง สั่งสอนให้สรรพสัตว์พ้นจากทุกข์ พ้นจากวัฏฏะ พ้นจากบ่วงของมาร

บุคคลผู้ปรารถนาพุทธภูมิ ยอมเสียสละตนบำเพ็ญบารมีอย่างยิ่งยวด ก็เพราะต้องการขนถ่ายสัตว์ รื้อขนสัตว์ออกจากวัฏฏะสงสาร ให้ไปถึงพระนิพพาน
เมื่อบารมีเต็ม ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้ว ก็ทรงปราบมาร ด้วยกันทั้งหมดทุกๆ พระองค์

QUOTE
ดังนั้นคำว่าพระพุทธเจ้าภาคปราบ ก็คือพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ในอดีตนั่นเองครับ
จะปราบได้มากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับกำลังบารมีของแต่ละพระองค์ครับ

เพราะการที่จะเป็นพระพุทธเจ้าภาคปราบโดยสมบูรณ์นั้นทุกพระองค์ก็ต้องผ่านการเป็นภาคโปรดไปในตัวด้วยอยู่แล้วครับ


ตอบ 3. ใช่อยู่ที่ว่า "จิตที่เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน เป็นจิตที่ถึงซึ่งพระนิพพาน"
แต่ กายมหาบุรุษ เป็นผลมาจากการบำเพ็ญบารมีอันยิ่งใหญ่ ต้องเคยผ่านการบำเพ็ญบารมีจนถึงขั้นปรมัตถบารมี คือ สละชีวิตได้โดยไม่เสียดายมาแล้ว

กายมหาบุรุษ มีประโยชน์มาก ทำให้มีโอกาสในการบำเพ็ญบารมีให้ยิ่งๆ ขึ้นไป เพราะเปรียบเหมือน บุคคลที่แข็งแรง สุขภาพดี มีปัญญาเฉลียวฉลาด แคล่วคล่องว่องไว ย่อมสามารถทำการงานได้มากกว่า ดีกว่า มีประสิทธิภาพกว่า บุคคลผู้พิกลพิการ หรือบุคคลผู้ไม่แข็งแรง อ่อนแอเจ็บป่วย
นอกจากนี้ กายมหาบุรุษ ทำให้บุคคลเลื่อมใสได้ง่ายกว่า สามารถชักนำ ชักจูงบุคคลให้ศรัทธา ให้ประพฤติปฏิบัติตามได้ง่ายกว่า บุคคลผู้มีกายทราม คือ รูปร่างน่ารังเกียจ พิกลพิการ

ดังเช่น พระพุทธเจ้าของเรา เพราะแค่อาศัย รูป กายของท่าน ที่มีความงดงาม น่าเลื่อมใส แค่บุคคลผู้อาศัยรูปของพระองค์ ติดอยู่ในรูปของพระองค์ ถ้าตายลงในขณะนั้นสามารถไปจุติบนสวรรค์
หรือไม่ว่าจะเป็น เสียง อันไพเราะของพระองค์ บุคคลผู้อาศัยเสียงของพระองค์ ติดอยู่ในเสียงของพระองค์ ถ้าตายลงในขณะนั้น ก็สามารถไปจุติบนสวรรค์ได้เช่นกัน
เพราะอาศัยที่พระองค์เป็นบุคคลอัปมาโณ คือ คุณอันยิ่งใหญ่ มีบารมีอันบำเพ็ญมามากแล้ว

กายมหาบุรุษ ล้วนเป็นเหตุให้คนที่เลื่อมใสศรัทธาในพระองค์เข้าถึงซึ่งพระธรรมได้ง่าย เป็นเหตุให้คนเราบำเพ็ญบารมีตามที่พระองค์สั่งสอนได้ง่ายขึ้น
นั้นก็ได้ชื่อว่า กายมหาบุรุษเป็นประโยชน์ในการเข้าถึงพระนิพพาน ทั้งตนและสรรพสัตว์ทั้งหลาย โดยแท้จริง