ไปที่เนื้อหา


usr27648

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 21 Dec 2008
ออฟไลน์ ใช้งานล่าสุด Dec 21 2008 09:37 AM
-----

โพสต์ที่ฉันโพสต์

ในกระทู้: เชิญร่วมมุทิตาสักการะวันคล้ายวันเกิดหลวงพ่อทัตตชีโว

21 December 2008 - 08:34 AM

ผมเป็นคนธรรมดาคนหนึ่งยังไม่ได้อภิญญาอะไร ไม่สามารถทราบเรื่องในอดีตชาติอะไรได้นอกจากชาตินี้ แต่เชื่อเรื่องกรรมมาตั้งแต่เด็กพอเติบโตมาถึงวัยมัธยม วิธีแห่งบุญ ( ผมคิดว่างั้น ) ก็ได้นำให้ผมพบหนังสือเล่มหนึ่งในห้องสมุดที่โรงเรียนเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับวัดพระธรรมกาย เรื่องการนั่งสมาธิ ผลของการทำสมาธิ การพบดวงแก้วกลางกาย .................ประทับใจมาก สนใจ และอยากทราบเรื่องราวเพิ่มขึ้น แต่ด้วยวัยเด็กไม่สามารถทำอะไรได้มากจึงได้แต่เก็บไว้ในใจ มาอีกหลายปี ...............จนกระทั่งบุญที่ผมได้กระทำมาส่งผลอีกครั้ง ( ผมคิดว่างั้นครั้งที่ 2 ) ด้วยวัย 20 ปีบริบูรณ์ช่างประจวบเหมาะอะไรอย่างนี้เพื่อนที่เรียนมัธยมมาด้วยกันได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัย ส่วนผมเรียนสายอาชีพ โคจรมาเจอกัน ได้มาชวนผมไปอบรมธรรมทายาทที่วัดพระธรรมกาย ...........................................................ไม่มีความคิดอื่นใดเข้ามาแทรกได้ ไม่มีอะไรจะมาเป็นอุปสรรคได้ ไม่มีอะไรในโลกจะมาหยุดยั้งผมได้ ไม่มีมารตนใดที่จะมาครอบงำผมได้ และไม่มีสิ่งใดๆทั้งสิ้นในโลกนี้ที่จะมาหยุดยั้งการตัดสินใจมาอบรมของผมในครั้งนี้ได้เลย ผมได้บอกกับท่านแม่ว่าผมจะไปต่างจังหวัดสักพัก ( ผมเป็นคนแปลกๆในสายตาของที่บ้านอยู่แล้วไปไหนมาไหนที่บ้านมักไม่ค่อยรู้ ) ไม่ได้บอกกับท่านแม่ว่าจะมาบวชหรอก แล้วก็จากมาเข้าสู่การอบรมที่แสนจะแปลกประหลาดแต่สำหรับผมเป็นคนเข้าใจอะไรในเรื่องแปลกๆอย่างนี้ไม่ยากอยู่แล้วในการที่ส่งพวกเราที่จะมาบวชเข้าสู่ศูนย์ฝักการรบพิเศษแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ................สุดยอดครับ ............วัดใจกันไปเลย...........จะบวชจริงมันต้องวัดใจอย่างนี้ ไม่มีง้อไบ๊ ไม่บวชกลับไปเราต้องการคนจริง พระจริง................ยอมรับครับ ผมว่าผมเป็นเด็กลุยคนหนึ่งแล้วนะมาเจออย่างนี้บอกคำเดียวว่าเหนื่อยจริงๆไม่เคยเหนื่อยอะไรอย่างนี้มาก่อนเลย นี่ขนาดทหารเขาทำกับเราแบบเด็กๆแล้วนะ ( เดี๋ยวนี้ไม่รู้ว่าเปลี่ยนไปหรือยัง ) แต่ผมบอกตัวเองว่าการเหนื่อยไม่ตายหายเหนื่อยแล้วเจอกันหลวงพ่อ ( เหมือนกับแค้นเลย ) ........................จบจากการวัดใจก็เข้าวัดครั้งแรกในชีวิต ที่ได้มาเหยียบแผ่นดินผืนนี้ที่มีแต่ดิน ดิน และดิน แหงนหน้าขึ้นข้างบนก็ท้องฟ้าก้อนเมฆ กับสายฝน และแสงแดด อย่าหวังว่าจะได้เห็นพระรูปงามตัวขาวไม่มี พระวัดนี้ต้องลุย ลุย และลุย ครั้งแรกที่ได้พบหลวงพ่อทัตตะ บอกตัวเองได้เลยว่าเมื่อก่อนไม่เข้าใจนะว่าไอ้ที่เขาเรียกว่าลูกผู้ชายเต็มตัวมันคืออะไร คงคิดเป็นแบบในหนังพวกพระเอกทั่วๆไป แต่ได้มาพบหลวงพ่อผมบอกตัวเองได้เลยว่านี้แหละลูกผู้ชายตัวจริงอยากรู้เหตุผลมั้ย................มาดของท่านไง ( คงเรียกแบบนี้ได้มั้งไม่เสียหายอะไร ) องอาจการเดินแสดงถึงความมั่นใจในทุกย่างก้าวเหยียบลงพื้นอย่างเต็มเท้าอย่างห้าวหาญดุจพญาราชสีห์ ท่วงท่าของท่านสง่างามดุจนักรบแต่แฝงไว้ด้วยความสุภาพอ่อนน้อมไปในที ใบหน้าที่ของท่านจะปรากฎรอยยิ้มอยู่แทบตลอดเวลา และถึงแม้ขณะที่ไม่ยิ้ม ( คงไม่มีใครบ้ายิ้มตลอดทั้งวันหรอก ) ความมีเมตตาที่ท่านได้สั่งสมมามันแผ่มาให้เรารับรู้ได้เลยว่า ไม่ต้องกลัวว่าเข้าไปหาท่านแล้วท่านจะดุ ( ตามประสาของเด็กที่เข้าหาผู้ใหญ่มักจะกลัว ) รู้สึกเสมอว่าท่านพร้อมที่จะช่วยเหลือเราตลอดเวลา และแนะนำในเรื่องที่ถูกต้อง ( ไม่ใช่ถูกใจ ) อย่างแท้จริงไม่ใช่ขัดใจเราแต่เพื่อให้เราไม่ทำผิดพลาดเพิ่มขึ้นอีก เพราะมันจะส่งผมเป็นวิบากกรรมในอนาคตของเราเองไม่ใช่ของท่านนะ อันนี้แค่ท่าทางลีลาหรือเรียกว่ามาดของท่านเท่านั้นนะ ยังไม่ได้กล่าวถึงเรื่องอื่น เรื่องต่อไปที่เห็นได้ชัดเจนคงเป็นเรื่องของเสียง อันนี้แหละเสียงของชายชาตรีนี้ถ้าไม่บวช เป็นทหารก็ต้องเป็นชั้นนายพล เสียงของท่านกังวาลเหมือนระฆังในวัด มีพลังหนักแน่น ไม่สั่น พร่า ดังพอดีๆ คือฟังกันได้ทั่วไม่หนวกหูเพราะดังเกินไป............เสียงนี้เป็นเสียงของนักรบอาชาไนยที่สามารถออกคำสั้งให้ ราชสีห์ หรือ ม้าอาชาไนยหมอบได้ ( ว่าเอาเอง ) รวมทั้งผมก็หมอบด้วย ไม่เคยเจอผู้ที่มีเสียงแบบนี้มาก่อนคำพูดทุกคำของท่านน่าสนใจทั้งเรื่องราวการสอนและเสียงของท่าน......................................ธรรมทายาทอย่างผมได้พบกับพระแบบท่านรู้สึกเป็นบุญ และเป็นเกียรติที่ได้อยู่ภายใต้ร่มเงาของท่าน ก่อนหน้านี้ในขณะอบรมผมไม่ค่อยรู้จักหลวงพ่อธัมมชโยเท่าไหร่เพราะท่านจะมาให้พวกเราเห็นและฟังธรรมจากท่านก็เฉพาะวันอาทิตย์ที่ญาติโยมมากันเท่านั้นยังคิดในทางที่ไม่ดีไปกว่านั้นอีกว่าทำไมท่านเจ้ายศเจ้าอย่างจังอยู่ในวัดมาก็หลายอาทิตย์แล้วไม่เห็นมาดูพวกเราที่มาอบรมกันตั้งเยอะตั้งแยะเลย ( แต่บัดนี้ทราบแล้วครับว่าท่านมีภาระมากมาย ) ในใจจึงมีแต่ความรักในตัวของหลวงพ่อทัตตะผู้ที่อยู่ใกล้ชิดและอบรมเรามาตลอด จริงๆเรื่องของหลวงพ่อทัตตะมีมากมายมหาศาลอยากให้ผู้มีบุญมาช่วยถ่ายทอดเพื่อผู้เป็นที่รักท่าน จะได้ทราบในความดีและคณูปการที่ท่านได้ทำไว้
พ่อของผมชาตินี้ปัจจุบันอายุ 74 ปี แต่พ่อของผมเมื่อชาตืก่อนโน้นท่านอายุ 68 ปี อย่างที่บอกแต่ต้นผมยังไม่ได้อภิญญาอะไรหรอก แต่อย่างที่หลวงพ่อของพวกเราทั้งสอบรูปได้สอนเราว่ามนุษย์ทุกคนในโลกนี้ไม่มีเลยที่จะไม่เคยเป็นพี่น้องกัน เราอาจเป็นพ่อแม่ลูกกันมาเมื่อชาติไหนๆมาก่อนก็ไม่รู้ผมก็เลยคิดว่าหลวงพ่อต้องเป็นพ่อผมสักชาติในอดีตอย่างแน่นอน ลูกคนนี้ก็ไม่มีอะไรจะให้ท่านพ่อได้หรอกครับเพราะบุญบารมีในชาตินี้เมื่อเทียบกับท่านพ่อแล้วน้อยนิดเดียวมั้ง ก็คงให้แต่การแสดงความรักแก่พ่อว่า ผมรักและเคารพพ่อเสมอและเคารพอย่างยิ่งอยากให้พ่อได้อยู่กับลูกไปนานๆ ยังไงให้พ่อและผมได้เจอกันทุกชาติและได้ใกล้ชิดกันมากว่าชาตินี้ได้สร้างบุญบารมีร่วมกันอย่างเต็มที่หากพ่อได้บรรลุอรหัตถ์ผลเมื่อใดช่วยเล็งแลมาดูลูกคนนี้ด้วยลูกคนนี้ยังคงต้องหลงอยู่ในวัฎฎสงสารอีกสักพัก ( แหงๆ ) แต่คำสอนของพ่อทุกคำลูกไม่ลืม และจะพยายามปฎิบัติตามให้ได้ตามที่พ่อสอนครับ