ไปที่เนื้อหา


usr29758

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 11 Jun 2009
ออฟไลน์ ใช้งานล่าสุด Jan 19 2010 11:22 AM
-----

กระทู้ที่ฉันเริ่ม

วันนี้วันเกิดใครเนี่ย?

19 January 2010 - 11:22 AM

ปัจจัย ไม่ค่อยมีถวาย แต่จะ นึกเอาคุณยายไว้ในกลางท้อง ปฏิบัติบูชาถวายในวาระวันเกิด ของยาย แทนก็แล้วกันครับ

เจ้าของเว็ปดัง?

18 January 2010 - 02:48 PM

เข้าไปที่เว็ป mthai com เห็นมีโฆษณาชวนบวช100000รูปอย่างใหญ่โตด้วย (ถ้าไม่เห็นให้กด F5ไปเรื่อยๆเพราะมีหลายโฆษณา)
ถ้าเป็นเจ้าของเว็ปหรือเจ้าภาพก็ขอ สาธุการอย่างแรง เพราะน่าจะมีคนเห็นไม่ต่ำกว่าแสนคน อาจมีคนตัดสินใจมาบวชหลายคนก็เป็นได้

และขอสาธุการกับ เจ้าของบริษัท ดรีมทีม สำหรับโฆษณา ทางหนังสือพิมพ์ ตั้งหลายวัน

เวลาไปชวนคนบวช มันรู้สึกยิ่งใหญ่จริงๆ งานนี้


เรื่องชายเก็บดอกไม้ ใครทราบบ้าง?

28 October 2009 - 03:35 PM

ต้องการหา vcd ครับจำเรื่องไม่ได้
เรื่องเป็นดังนี้ครับ
ในสมัยพุทธกาล มีชายผู้หนึ่งทำงานอยู่ในวัง หน้าที่ของเขาต้องคอยมาเก็บดอกไม้ในป่าเอาไปประดับในวังถวายให้พระราชาทุกวัน
มีีอยู่1วันชายผู้นั้นพาภรรยาไปเก็บดอกไม้ด้วยหลังจากเก็บดอกไม้เสร็จแล้วก็เห็น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเดินบิณทบาตรผ่านมา ด้วยพระรัศมี และพระวรกายอันงดงามของพระองค์ ชายเก็บดอกไม้จึงเกิดความเลื่อมใสอย่างแรง จึงเอาดอกไม้ที่เก็บไว้ถวายพระราชานำไปโปรยบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยความเลื่อมใส ดอกไม้นั้นก็ลอยไปอยู่เหนือพระเศรียรแล้วหมุนแตกออกเป็นดอกไม้ทิพย์หลากสีสวยงามอย่างมาก ส่งกลิ่นหอมไปทั่วเมืองไปถึงในวังจนพระราชาทรงแปลกพระทัยอย่างมากว่ากลิ่นหอมอะไรเช่นนี้
แต่ภรรยากลับไม่ปลิ้ม เพราะกลัวโดนพระราชา ตัดคอ เพราะวันนี้ไม่มีดอกไม้ไปถวายพระองค์ ซึ่งต้องมีโทษร้ายแรง ด้วยความกังวลจึงขอตัวกลับวังไปก่อน โดยนางรีบไปเข้าเฝ้าพระราชาแล้วกราบถูลขอหย่ากับสามีของนาง ไม่ขอรับผิดชอบการกระทำใดๆของสามีนางอีก พระราชาก็ทรงอนุญาติด้วยความแปลกใจ แล้วนางก็รีบเก็บของตนออกจากวัง ไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อชายเก็บดอกไม้กลับมาก็ไปเข้าเฝ้าถวายรายงานตัวว่าวันนี้ ข้าพระองค์ไม่มีดอกไม้มาถวาย พระราชาก็ทรงแปลกใจ แล้วทรงถามถึงเหตุผลด้วยความสงสัยอย่างมาก ชายเก็บดอกไม้จึงเล่าเรื่องการถวายดอกไม้แด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้พระองค์ฟัง
พระราชาจึงปลื้มใจอย่างมาก จึงทูลขอให้ชายเก็บดอกไม้แบ่งบุญให้พระราชา ครึ่งหนึ่ง โดยการแลกกับทรัพย์ หลาย โกฏิ นางสนม หลาย คน ส่วยในเมือง หลาย หมู่บ้าน(ไม่รู้ว่าใช่รึเปล่า แต่เดาๆเอา) พร้อมกับสร้างที่อยู่ใหม่ให้ ปรับตำแหน่งให้เป็นอมาตย์ของพระราชา โดยภายหลัง
ภรรยาของชายเก็บดอกไม้ ได้เที่ยวไปประกาศว่าตนไม่ได้เป็นภรรยาของชายเก็ยดอกไม้นั้นแล้ว
พอได้มาทราบเรื่อง ว่าพระราชาได้ประทานลาภยศสรรญเสริญสุขให้แก่ชายเก็บดอกไม้ ถึงกับช็อคอย่างแรงเป็นลมล้มไปในที่สุด(ไม่รู้ว่าช็อคตายไปรึเปล่า?)

ใครทราบบ้างว่า อยู่ในสื่อเรื่องอะไร ช่วยชี้นำด้วย

สาธุด้วยครับ

#####แนะนำธรรมมะที่ควรรู้######

11 June 2009 - 11:50 PM

ในช่วงแรกๆได้เข้ามาในเว็ปบอร์ด dmc เมื่อหลายปีก่อน โดยไม่เคยได้เป็นสมาชิกเลย
ได้อ่านธรรมมะ แล้วรู้สึกประทับใจมาก ในบางกระทู้ เช่น
กระทู้เกี่ยวกับเรื่อง ที่ไม่เคยได้ยินเช่น กระทู้ เรื่องธรรมมะลึกลับไม่เคยได้ยินมาก่อนในชีวิต ที่หมู่คณะเอามาแสดงให้รู้
อ่านๆแล้วก็น่าสนใจมาก ทำให้อยากนั่งสมาธิไปรู้เห็นด้วยตนเอง ก็หลบๆไปนั่งสมาธิ ไปศึกษาค้นคว้าทางสื่อต่างๆของวัดด้วยตนเองแบบรวดเดียวโดย ซื้อเหมามาศึกษาทั้งหมด ทั้ง หนังสือ CD ทุกอย่าง ทั้งติดจานดาวธรรม หมดไปเป็นหมื่นๆบาทกับสื่อธรรมมะ ฟัง ดู อ่าน จนลืม ฟังเพลงที่ชอบ ดูหนังที่ชอบ ไปนาน เป็นปีๆ เช่นฟัง มงคล38 mp3 7แผ่น ของหลวงพ่อทัตตะ เกือบ4 เดือน อย่างต่อเนื่อง แล้ว ได้ความรู้อย่างมหาศาลแบบที่ไม่เคยรู้มาก่อน และรู้สึกไปตาม หน้าปกcd mp3 หมกหมุ่นอยู่กับสื่อต่างๆของวัดพระธรรมกาย จนสุดท้ายทนไม่ไหวต้อง ทิ้งการงานแล้ว มาบวช 3 ถึงเดือน แบบสวนกระแสพายุทอร์นาโดที่บ้าน เพราะทางบ้านนั้นไม่ชอบวัดพระธรรมกายอย่างรุนแรง ต่อต้านกันทุกรูปแบบ โดยเฉพาะคุณพ่อ ที่ท่านมีทัศนคติความรู้เกี่ยวกับธรรมมะที่ท่านเข้าใจ แบบ นิพพาน บุญ ไม่มี ตายแล้วสูญเท่านั้น ฯลฯ เป็นต้น
ช่วงหลังๆไม่ค่อยได้เข้ามาอ่านกระทู้ของ เว็ป dmc เพราะการงานเริ่มมากขึ้น และไม่มีเวลาเข้าเว็ปDMC จนเว็ปเปลี่ยนแปลงไป ดีมาก สวย น่าศึกษาอย่างมาก ก็ได้แนะนำเพื่อนฝูงให้เข้ามาเยี่ยมชมอย่างมากมาย

แต่บางทีก็อยากจะขอแนะนำผู้คนที่เข้ามาเยี่ยมชมเป็นคนใหม่ๆ ยังไม่รู้รายละเอียดเกี่ยวกับ ธรรมมะ ที่หมู่คณะแนะนำ มากนัก

เพราะบางทีพบว่า บางกระทู้เท่านั้น!!! happy.gif ธรรมมะ กำลังกลายเป็นอย่างที่ครูไม่ใหญ่ เคยกล่าวใน โรงเรียนอนุบาล ตอนหนึ่งว่า

โดยขอสรุปมาดังนี้ว่า (ถ้าผิดพลาดยังไงก็ต้องกราบขออภัยอย่างสูงมา ณ.โอกาสนี้ด้วยนะครับ)

ธรรมมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแบบต้นฉบับ เริ่มเลือนหาย และผิดเพี้ยนไปเรื่อยๆ หลังพุทธกาลประมาณ 500 ปี เพราะผู้คนเริ่ม จะศึกษาธรรมะด้วยวิธีการ อ่าน ฟัง พูดคุยกัน ไม่ค่อยเน้น ปฏิษัติธรรม นั่งสมาธิ ฝึกใจให้หยุด หรือ ไม่ก็ศึกษาด้วยการเห็นแจ้งเท่านั้น จึงไม่รู้แจ้ง ธรรมมะที่เกิดจากการเห็นแจ้ง จึงเป็นเรื่องที่ผู้คนไม่ค่อยสนใจเพราะ พิสูจน์ได้ยาก แต่สนใจที่ศึกษาแบบ จินตมยปัญญา หรือ ใช้ความรู้สึกเหตุและผลส่วนตัว การพูดคุย ถกเถียงกัน การอ่าน การฟัง คัดลอกมาบอกต่อ เป็นตัวตัดสิน ความรู้ทางธรรม คำว่า “ธรรมกาย”, “หยุดใจ” “ศูนย์กลางกายฐานที่7” จึงค่อยๆหายไป เหลือ อยู่เพียงบางส่วนน้อย จน ไม่เข้าใจว่า
“ธรรมกาย”คืออะไร วิธีการเข้าถึงเป็นยังไง

เพราะการที่ผู้คนไม่สนใจปฏิบัติ ธรรม ฝึกนั่งสมาธิฝึกใจหยุดนิ่ง ที่ศูนย์กลางกายฐานที่7 เป็น ต้นเหตุ ธรรมมะ ต้นฉบับจึง เริ่มผิดเพี้ยน เพราะการแนะนำบอกเล่าธรรมมะต่อด้วยการ อ่าน คุย ถกเถียง หรือ เอามาเป็นข้อสันนิฐาน ตามความรู้สึก ความคิดเห็นส่วนตัว ด้วย จินตมยปัญญา ของผู้บอกเล่า แด่ ผู้อยากรู้ธรรมมะ โดย ไม่ยึดหลักการฝึกสมาธิ การเห็นแจ้ง ด้วยธรรมจักขุ หรือจากคำแนะนำของครูผู้รู้แจ้งเห็นแจ้งเข้าถึงธรรมแล้วโดยตรง

และด้วยเหตุนี้ ก็เคยได้ยินเรื่องราว ของบุคคล ผู้เป็น นัก คิดนักอ่าน นักศึกษา ธรรมมะด้วยจินตมยปัญญา จนกระทั้งนำเรื่องธรรมมะ มาแนะนำแก่ ผู้อยากรู้ แบบถูกบ้างผิดบ้าง เพราะตนไม่ชอบนั่งสมาธิ แต่ชอบศึกษา แล้วใช้ ความทรงจำ คัดลอกมา แนะนำผู้อื่น จนกระทั้ง เป็นที่กล่าวขานกันอย่างมาก สำหรับผู้ที่อยากรู้เรื่องธรรมมะ สุดท้ายธรรมมะก็เริ่มเพี้ยนๆ จนคุณครูไม่ใหญ่ของเรา ต้องขอเรียกเข้าพบ แล้วสอบถามบุคคลผู้นั้น ด้วยตัวท่านเอง เพื่อให้ผู้นั้นได้พิจารณาว่า ตนรู้จริงแล้วหรือ? ท่านก็เรียกมาถามว่า “ไหนลูกลองอธิบายมาสิจ๊ะ ว่า ธาตุน้ำเป็นยังไง?”

สุดท้ายบุคคลผู้นั้น ก็ต้องออกจากหมู่คณะไป เพราะความที่ “เจตนาดี แต่รู้เท่าไม่ถึงการณ์” อยากให้ธรรมทาน
จนลืมตัว กลายเป็น ผู้อยากเด่น อยากดัง มากกว่า เพราะทุกครั้งที่เล่าธรรมมะ จะได้รับการสรรเสริญจากผู้ฟังแล้วถูกใจตน ซึ่งเป็นต้นเหตุของการทำให้ ธรรมมะผิดเพี้ยนไปเรื่อยๆ ไม่สนใจในการนั่งสมาธิ หรือไม่แนะนำให้บุคคลผู้อยากรู้ธรรมมะไปปฏิบัติธรรมเพื่อให้ใจหยุดนิ่งเป็นหลักหรือ ศึกษาจากครูโดยตรงแทน ผ่านสื่อต่างๆที่หมู่คณะได้จัดทำขึ้นมา เพื่อให้เหมาะแก่ระดับ ผู้คนทั่วไปได้ศึกษากัน โดยเน้น การฝึกสมาธิทำใจหยุดนิ่งเป็นหลัก

สุดท้ายนี้ จึงขออนุโมทนาบุญแด่ ยอดนักสร้างบารมี ผู้ที่มีจิตใจ อยากจะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ด้วยการให้ธรรมทาน เป็นแสงสว่างให้แด่ผู้ไม่รู้ แต่ธรรมมะ ก็มีทั้ง ควร รู้ และไม่ควรรู้ เช่นธรรมมะที่ควรรู้เป็น ธรรมมะที่ศึกษาแล้ว อ่านแล้วรู้สึกมีกำลังใจอยากไปนั่งสมาธิ เพื่อทำใจให้หยุดนิ่ง ธรรมมะเหล่านี้จะอยู่ ในสื่อต่างๆที่ทางหมู่คณะจัดทำและออกเผยแพร่ ให้บุคคลทั่วไปได้ศึกษากัน

ส่วนนอกเหนือจากนี้ ลองถามใจตนดูว่า ศึกษาแล้ว ทำให้ตนอยากไปนั่งสมาธิ จิตใจเริ่มสงบลง หรือ ไม่

ส่วนกระทู้ที่เกี่ยวข้องกับ ข่าวบุญของหมู่คณะ,สมาธิ ความรู้ทั่วๆไปที่เกี่ยวข้อง กับคำสอนของ มหาปูชนียาจารย์ และ ผู้เมตตาคอยให้ธรรมทานโดยการชี้นำไปที่linkสื่อการแนะนำคำสอนของครูอาจารย์และหมู่คณะโดยตรง

ก็ขออนุโมนทาบุญอย่างสูงมา ณ.โอกาสนี้ด้วยครับ

สาธุ...................

แล้วอย่าลืมมาสร้างบารมีร่วมกันในโครงการบวชพระ 7000 รูปนะครับ ผู้มีบุญทั้งหลาย

ขอแสดงความคิดเห็นเพียงเท่านี้จ้า happy.gif บายๆ