ไปที่เนื้อหา


เศฐียร

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 12 Aug 2009
ออฟไลน์ ใช้งานล่าสุด Mar 18 2010 01:35 AM
-----

กระทู้ที่ฉันเริ่ม

ความรักที่ไม่สมหวัง

13 August 2009 - 03:22 AM

ก่อนอื่นผมขอเล่าเรื่องของผมก่อนนะครับ ผมรู้ว่าบางอย่างสิ่งที่ผมเลือกรักที่จะทำมันไม่สมฐานะของพ่อแม่ ผม ท่านถึงได้ไม่พอใจ เช่นการไปเล่นดนตรีร้องเพลงตามร้านเนื้อย่าง การทำตัวเซอร์ซกมก ผมเองในสายตาคนอื่นเป็นลูกคุณหนู แต่ผมทำตัวนอกกรอบ วาดรูปไม่เท่าไหรหรอกแต่วันๆ ชอบไปขลุกอยู่กับพวกเด็กศิลป์ที่วาดรูปขายเปิดบู๊ธตามงานและตลาดนัด เล่นดนตรีเปิดหมวก น้ำไม่ค่อยอาบแต่งตัวมอซอ ทรงผมเหมือนไม่ค่อยหวีและรุงรัง รองเท้าสกปรก นี่แหละที่พ่อแม่ผมไม่พอใจอย่างมากเพราะที่ก็งี้แหละ ทำตัวไม่เหมาะสมกับฐานะทางสังคมของท่าน กลับมาบ้านก็ไปอยู่แต่โรงปั้นร้านวาดรูปของรุ่นพี่สมัยมัธยม ไปเล่นกีตาร์ร้องเพลงแต่งแต่เพลง ทำตัวเหมือนพวกเพื่อชีวิตโฟล์คซอง พ่อแม่มีหน้าตาในสังคมเป็นข้าราชการ แต่พผมกลับทำตัวเป็นนักดนตรีข้างถนนไร้ระดับ พ่อแม่ขับรถแวนราคาเป็นล้าน (MU7)แต่ผมกลับนั่งรถบัสพัดลม นังรถไฟ บ้านหลังใหญ่ดีๆ มีให้อยู่กลับไปนอนข้างถนนและป้ายรถกับเพื่อนๆ และเซอร์ซกมก ดูสิผมทำตัวแบบนี้เหมือนไม่ไว้หน้าพ่อแม่ใช่ไหม เหมือนไม่เห็นท่านในสายตาใช่ไหม พ่อแม่ฐานะค่อนข้างดีแต่ผมชอบทำตัวโลโซมาก คบแต่พวกนักดนตรีและเด็กศิลป์เป็นเพื่อน แต่ดีอีกอย่าง ผมไม่กินเหล้าไม่สูบบุหรี่นะ นี่แหละเรื่องราวของผมที่เปิดใจให้เห็น
ผมก็งี้แหละ ใครๆ ต่างก็มองว่าเป็นลูกผู้ดีมีชาติตระกุลแต่ ไม่มีใครรู้เลยว่าอาภัพรักแค่ไหน มีอะไรที่เพรียบพร้อมแต่อาภัพรักยิ่งนัก เป็นคนชอบศิลปะและดนตรี ซึ่งคนในแนวนี้อารมณ์อ่อนไหวอยู่แล้ว ผมยิ่งร้องไห้ง่ายด้วย เรื่องความรักนี่ยิ่งร้องไห้นานมาก ก็คนเล่นดนตรีร้องเพลงแบบผมอารมณ์อ่อนไหวอยู่แล้วน่ะ ความรักที่ไม่เคยสมหวัง รักใครก็ถูกชายอื่นตัดหน้าเอาไปหมด ไม่รู้ว่าบาปกรรมตัวไหนเล่นงานผมนะ เพราะผู้หญิงคนที่ผมรักนั่นแหละ ที่ตอนมัธยมเธอเป็นเพื่อนผมน่ะ เธอโทรมาอีก เธอบอกว่าจะกลับมาเป็นครูอยู่ที่บ้านน่ะ แต่เอาเข้าจริงๆ เค้าไม่ได้มา เธอบอกว่ายังคบกับแฟนเธออยู่ แฟนเธออยู่กรุงเทพ เธอเลยไม่กลับมา ดูสิ ตอนก่อนหน้านั้นผมรู้สึกคั่งแค้นผู้ชายคนนั้นมากเพราะมาเปลี่ยนเธอให้เป็นคนละคน ผมไม่รู้จะรอต่อไปดีไหม สำหรับผมนะ เธอคนนี้ คนที่ผมรัก ต่อไปถึงแม้เธอจะเป็นยังไงผมก็ยังรับเธอได้เสมอ ถ้าเธอไม่มีวันกลับมาก็แล้วไป ถึงผมจะมีใครหรือแต่งงานกับใครในอนาคต แต่เธอจะอยู่ในใจผมเหมือนเดิมแหละ ผมไม่รู้ว่าต้องเหนื่อยกับการรอคอยให้เธอกลับนานแค่ไหน แต่ผมรู้สึกว่าไม่ควรรอต่อไป ไม่ควรรักต่อไปเพราะเดี๋ยวจะยิ่งจมลงกองทุกข์มากไปกว่านี้ ควรจะยินดีกับเธอถ้าวันหนึ่งเวลาตายจะได้ตายอย่างสงบสุข ถ้าผมยังเศร้า ถ้าตายไปด้วยจิตใจเศร้า ผมคงตกนรกหมกไหม้แน่ อันนี้พระอาจารย์ท่านบอกมา ว่า ถ้ารักแบบครอบครองเป็นคู่รักไม่ได้ ก็รักแบบเมตตาได้ไหม ที่จริงเธอเป็นเพื่อนสนิทของผมตั้งแต่มัธยม ที่ผมรักเธอแต่สำหรับเธอ ผมเป็นเพื่อนที่เธอพึ่งได้มากที่สุดคนนึงเวลาเธอมีปัญหา ผมเล่าต่อล่ะนะ ผมอยากจะบอกจริงๆ ว่าความรู้สึกของผมทีมีต่อเธอ คนที่ผมรักมันดำเนินมานาน ถึง 7 ปีแล้ว ผมอยู่กับความรู้สึกนี้มานาน 7 ปี จนฝังอยู่ในใจ ผมเคยลืมไปหลายครั้งแต่มันหวนกลับมาเสียดแทงหัวใจหลายครั้งเมื่อ หลังจากที่รู้ว่าเธอเริ่มมีผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาเกี่ยวพันเมื่อซัก 5 ปีก่อน ทั้งๆ ที่ผมตามรักมานานมาก แต่เค้ามาตัดหน้าผมไปซะท่านผู่อ่านคงเข้าใจล่ะนะว่าเรารักมานานแต่คนมาทีหลังมาหักหน้าเอาแบบนี้มันรู้สึกยังไง ตอนนั้นผมและเธอต่างก็เป็นนักศึกษา แต่ผมโดนไทร์มาอยู่ราชภัฏที่บุรีรัมย์ซึ่งต้องเริ่มเรียนใหม่ เธอก็คบกับชายคนนี้ซึ่งมีงานทำ มีฐานะอันจะกิน ผมรู้สึกยินดีบ้างแต่ความรู้สึกบางอย่างมันเสียดแทงหัวใจเหมือนมีเข็มปักฝังอยู่ภายใน แต่ยังไงก็คงฝังเธอไว้ในสุสานหัวใจเพราะรู้สึกว่าคงไม่มีใครแทนที่เธอได้ อีกอย่างในสมัยเรียนมัธยมเธอเป็นเพื่อนสนิทที่ผมสนิทสนมที่สุด โชคชะตาความรักที่ผิดหวังมาตลอดทำให้ผมต้องเปลี่ยนจากคนเรียบร้อยทุกกระเบียดนิ้วมาเป็นหนุ่มมาดเซอร์ซกมก บ้านและหอรกรุงรังอยู่อย่างนี้ จะเล่าให้ฟังเอาไหม ว่าคืนนั้นแหละผมโทรหาเค้า นึกว่าเธอจะกลับมาเป็นครูที่บ้านแล้ว แต่เค้ากลับไปอยู่กรุงเทพเหมือนเดิมเพราะแฟนเธอไห้กลับ ผมเลยแค้นสุดๆ ไม่รู้จะทำไง เป็นเวลา 5 ปีแล้วนะครับที่ผมจมอยู่กับรักมา 5 ปีเต็มๆ ทำให้ผมเปลี่ยนจากคนที่บุคคลิกภาพแบบเรียบร้อยสุภาพ มาเป็นพวกติสต์แตก แนวอาร์ตๆ ปล่อยตัวปล่อยใจตามอารมณ์สุดๆ นี่แหละสาเหตุที่ผมมาเป็นคนแบบนี้ เพราะโชคดีที่ผมมีกีตาร์ตั้ง 2 ตัวเป็นเพื่อนในยามเหงา เป็นเพื่อนเดินทางเวลาไปไหนพาไปด้วย เพื่อนผมคนนั้น ขนาดผ่านมา 5 ปีแล้วยังลืมเธอไม่ได้ ต้องคอยโทรถามข่าวเธอว่าเป็นยังไง ทั้งๆ ที่โทรไปแล้วเรื่องที่รับรู้มันเสียดแทงหัวใจขนาดไหน ทั้งๆ ที่รู้ว่าหัวใจจะต้องช้ำเลือดช้ำหนอง รุ่มร้อน เร่าร้อนในห้วใจขนาดไหน น้ำตาต้องตกกี่ครั้งก็ไม่รู้ พ่อแม่ผมเป็นข้าราชการระดับมหาวิทยาลัย แต่อยู่คนละมหาลัยกับที่ผมเรียน ลูกของเพื่อนพ่อแม่ผมที่เป็นข้าราชกรด้วยกันเค้าเป็นหมอ ตำรวจ ทหาร ข้าราชการฐานะใหญ่โตทั้งนั้นเค้ามีแต่แต่งตัวภูมิฐานสุภาพมีฐานะแต่ผมทำตัวแตกต่างมากชอบทำตัวติสต์แตกตลอดขลุกอยู่กับพวกนักดนตรีโฟล์คซอง และพวกวาดรูป แต่งตัวแบบคนเซอร์ไม่เหมือนลูกขาราชการคนอื่นๆ เลย ที่เค้าเป็นได้แบบพ่อแม่เค้า แต่ผมชอบเป็นศิลปินข้างถนนที่ไม่ได้เด่นดังอะไร เล่นดนตรีร้องเพลงไปวันๆ คุณคิดว่า เป็นยังไงล่ะ ขนาดผมแต่งตัวเซอร์ขนาดไหน ทำตัวมอมแมขนาดไหน คนเค้ายังมองออกว่าต้องเป็นลูกข้าราชการมีฐานะ ทำไมเค้าดูออกอ่ะ ขนาดนุ่งการเกงยีนส์ขาดๆ เสื้อผ้าฝ้ายเก่าๆ ดำๆน่ะ แถมทรงผมเซอร์ๆ ด้วย ผมรักเธอมานานตั้งแต่มัธยมแล้วน่ะ แต่พอพวกเราเรียนจบม.6 นะ เ ธอไปเรียนที่สารคาม ส่วนผมมาเรียนที่โคราช ตอนปี 2 ผมได้บอกรักเธอ พร้อมกันนั้น ทางโน้นได้มีผู้ชายคนหนึ่งมาจีบเธอและเป็น แฟนกัน ผมแค้นมากที่เค้ามาตัดหน้าผม ผมเป็นทุกข์มานานถึง 5 ปีเต็มๆ นะ จนผมต้องกินเหล้าเมาขาดเรียนบ่อยจนโดนรีไทร์จากโคราช อยากจะดึงรั้งเธอไว้ แต่ปัจจุบันเธอได้อยู่กินกับผู้ชายคนนั้นแล้ว และเธอคงไม่มีวันกลับมาหาผมแล้วหละ ความเสียใจมันได้ย้อนกลับมาเสียดแทงหัวใจผมครั้งที่สามแล้วนะ เล่าเรื่องมายาวแล้ว ผมขอแนะนำตัวผมชื่อแจ๊ค เชาวริณครับ เรียนคณะครุศาสตร์ด้านเทคโนโลยี แต่กลับชอบงานศิลป์และเล่นดนตรี ทำตัวอาร์ตๆ เป็นพวกติสต์แตกทั้งๆที่เรียนครู ผมเองก็ไม่ใช่นักเขียน อาจจะอ่านแล้วขัดตาก็ได้ครับ