ไปที่เนื้อหา


ดงบัง...โดรายากิ

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 08 Jan 2010
ออฟไลน์ ใช้งานล่าสุด Sep 01 2010 10:34 PM
-----

กระทู้ที่ฉันเริ่ม

"แม่โกหกผม 8 ครั้งในชีวิต"

28 July 2010 - 09:12 AM

> >>ก็ใกล้วันแม่แล้วนะครับ อยากหาอะไรซึ้งๆมาให้อ่านกัน
> >>จะได้รักแม่กันมากๆงัยแม่โกหก
> >ผม 8 ครั้งในชีวิต
> >>
> >>1. เรื่องเริ่มขึ้นตอนเมื่อผมเป็นเด็กๆ ผมเกิดในครอบครัวยากจน ครอบครัวของเรา
> >จนมากจนต้องอดข้าวบ่อยๆ เมื่อไหร่ก็ตามเมื่อถึงเวลากินข้าว
> >>แม่จะแบ่งข้าวมาให้ผมเพิ่มขึ้นอีก พร้อมทั้งพูดว่า "ลูกต้องกินข้าวเพิ่มขึ้น
> >นะ ส่วนแม่ไม่ค่อยหิว" นี้เป็นครั้งแรกที่แม่โกหกผม
> >>
> >>2. เมื่อผมเติบโตขึ้น คุณแม่เพียรพยายามหาเวลาว่างไปตกปลาในแม่น้ำ เพื่อว่าผม
> >จะได้กินอาหารที่มีประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของผม แม่ต้มปลาที่ตกมาได้ทำเป็น
> >ซุปให้ผมกิน ในขณะที่ผมกินแกงต้มปลา..แม่จะนั่งข้างๆ ผม
> >>แทะกิน เศษเนื้อปลาที่ติดอยู่ตามก้างปลาหลังจากที่ผมไ ด้กินเนื้อปลาไปแล้ว ผม
> >รู้สึกตื้นตันใจมาก..ผมพยายามแบ่งเนื้อปลาให้แม่ แต่แม่ปฎิเสธทันควันพร้อมกับ
> >กล่าวว่า
> >>"ลูกกินเถอะ...แม่ไม่ค่อยชอบกินเนื้อปลา" นี่เป็นครั้งที่ 2 ที่แม่โกหกผม
> >>
> >>3. เมื่อผมเรียนอยู่ชั้นมัธยม เราต้องใช้เงินเพิ่มมากขึ้น แม่ต้องหารายได้
> >พิเศษด้วยการรับงานเล็กๆ น้อยจากโรงงานมาทำที่บ้าน บางครั้งผมตื่นขึ้นมาตอน
> >ตี 1 หรือตี 2...ผมยังเห็นแม่กำลังทำงาน " แม่ครับ...นอนเถอะครับมันดึกมากแล้ว
> >พรุ่งนี้แม่ต้องไปทำงานอีก" แม่ยิ้มกับผมพูดว่า "ลูกนอนต่อก่อนนะ...แม่ยังไม่
> >เหนื่อย...นอนไม่หลับ" ครั้งที่ 3 แล้วที่แม่โกหกผม
> >>
> >>4. ตอนเมื่อใกล้จบชั้นมัธยมผมต้องไปสอบเป็นวันสุดท้าย แม่อุตส่าห์หยุดงานไป
> >เป็นเพื่อนและเพื่อเป็นกำลังใจให้ผม มันเป็นวันที่แดดร้อนมากๆ...แม่ต้องรอผม
> >อยู่หลายชม. เมื่อผมทำข้อสอบเสร็จ...รีบออกมาหาแม่ เห็นแม่ผมมีเหงื่อออกท่วม
> >ตัว.. แต่ท่านกลับรินน้ำเย็นที่เตรียมมาให้ผมดื่ม ผมเห็นแม่รู้สึกเหนื่อยและ
> >ร้อนจึงขอให้แม่ดื่มน้ำก่อน แม่พูดขึ้นว่า "ลูกดื่มเถอะ....แม่ยังไม่กระหาย
> >น้ำ" นั่นเป็นครั้งที่ 4 ที่แม่โกหกผม
> >>
> >>5. หลังจากที่พ่อผมล้มป่วยและเสียชีวิต คุณแม่ที่น่าสงสารต้องทำงานหนักขึ้น
> >เพื่อหารายได้มาจุนเจือครอบครัว
> >แต่ก็ยังไม่ค่อยเพียงพอไม่ว่าคุณแม่จะพยายามมาก
> >ขึ้นเพียงไร คุณลุงที่อยู่ข้างๆ บ้านท่านเป็นคนดี
> >พยายามมาช่วยเหลือครอบครัวเรา
> >เสมอ....เช่นซ่อมแซมบ้านที่ผุพัง..ฯลฯ เพื่อนบ้านเห็นครอบครัวลำบากมากก็แนะนำ
> >ให้แม่แต่งงานใหม่ แต่แม่ยืนกรานไม่เห็นด้วย แม่พูดกับผมว่า "แม่มีลูกอยู่ทั้ง
> >คน...แม่ไม่ต้องการความรักอีก" แม่โกหกผมเป็นครั้งที่ 5 แล้ว
> >>
> >>6.ในทื่สุดผมก็เรียนจบและมีงานทำ ผมอยากให้แม่ซึ่งตรากตรำทำงานหนักมาตลอดได้
> >พักผ่อนบ้าง แต่แม่ไม่ยอม.....กลับไปตลาดทุกเช้า ขายผักที่หามาได้เพื่อเลี้ยง
> >ชีพทั้งๆ ที่ผมพยายามส่งเงินมาให้แม่ (ผมต้องไปทำงานในเมืองที่ห่างไกล) แม่ผม
> >ไม่ค่อยยอมรับเงินผม..บางครั้งยังส่งเงินกลับคืนให้ผมอีก แม่พูดกับผมว่า
> >"แม่มี
> >เงินพอใช้แล้ว...ลูกควรเก็บเงินไว้สร้างฐานะ" แม่โกหกผมเป็นครั้งที่ 6
> >>
> >>7.เพื่ออนาคตที่ก้าวหน้า.. ผมตัดสินใจเรียนต่อปริญญาโทด้วยทุนของมหาวิทยาลัย
> >ที่มีชื่อเสียงในอเมริกา
> >>เมื่อผมเรียนจบก็ได้งานทำที่นั่นและมีเงินเดือนค่อนข้างสูง
> >>เมื่อทำงานไปได้สัก
> >พัก...ผมอยากให้แม่ผมมาอยู่กับผมที่อเมริกา เพื่อว่าแม่จะได้หยุดทำงาน...พัก
> >ผ่อนให้สบายในบั้นปลายของชีวิต แต่แม่ผมไม่อยากรบกวนผม...บอกผมว่า "แม่ไม่คุ้น
> >เคยกับชีวิตต่างแดน" ครั้งที่ 7 แล้วซินะที่แม่โกหกผม
> >>
> >>8. เมื่อแม่แก่ตัวลงไปเรื่อยๆ.. ในที่สุดแม่ก็เป็นมะเร็งและต้องเข้ารับการผ่า
> >ตัดที่โรงพยาบาล ผมลางานแล้วรีบบินกลับมาหาแม่สุดที่รักทันที แม่ผมนอนพักฟื้น
> >อยู่บนเตียงเมื่อผมไปถึง น้ำตาผมไหลอาบแก้มเมื่อเห็นแม่ซึ่งผ่ายผอมและดูทรุด
> >โทรมลงอย่างมาก แม่รู้สึกดีใจมากที่เห็นผม....พยายามยิ้มอย่างสดชื่น ด้วยความ
> >ลำบาก ผมรู้ดีว่าแม่ได้ฝืนความเจ็บปวดรวดร้าวอย่างสุดฝืน จากโรคมะเร็งร้ายที่
> >ลามไปทั่วทั้งตัว ผมโอบกอดแม่พร้อมกับร้องไห้ด้วยความสงสาร หัวใจผมในขณะนั้น
> >เศร้าหมองและเจ็บปวดอย่างที่สุด แม่พยายามปลอบผมด้วยเสียงที่แหบพร่าและสั่น
> >เครือ "ลูกรักของแม่...เห็นหน้าลูกแม่ไม่รู้สึกเจ็บแล้ว" นี่เป็นครั้งที่ 8
> >ที่
> >แม่โกหก และเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตของแม่ที่โกหกผม
> >>แม่ที่ผมรักและบูชามาตลอดชีวิตได้ปิดตาลงและจากผมไปอย่างไม่มีวันกลับ
> >>หลังจากที่เธอกล่าวคำโกหกครั้งที่ 8 จบลง
................................................................................................................
อย่าลืมรักแม่ให้มากๆ นะครับ

ขอบคุณลิงค์จาก www.boarddev.com สำหรับบทความดีๆ

วันนี้คุณคิดถึงผู้หญิงคนนี้หรือยัง

22 July 2010 - 08:32 AM

แปลกไหม...ที่คนที่คุณบอกว่ารัก
แต่...เค้ากลับทิ้งคุณไป

แปลกไหม...ที่เราต้องส่งอีเมล์ให้คนที่ทำงานอยู่โต๊ะติดกัน
แต่...เราบอกว่าไม่มีเวลาโทรไปหาพ่อแม่

แปลกไหม...ที่วันเกิดเรา พ่อแม่เราดีใจที่สุด
แต่...เราไปทานข้าวกับคนอื่น

แปลกไหม...ที่คุณเลี้ยงข้าวเพื่อนตอนรับปริญญา
แต่...คุณไม่ได้เลี้ยงข้าวคนที่ส่งคุณเรียนจนจบปริญญา

แปลกไหม...ที่เรารักเพื่อนที่เคยเลี้ยงข้าวเราเพียง 1 มื้อ
แต่...เรากลับไม่เคยส่งเงินให้กับคนที่เลี้ยงข้าวเรามา 25 ปี

แปลกไหม...ที่เรารักใครบางคน ที่ไม่กล้าแม้แต่จะจับกางในของเรา
แต่...เรากลับเบื่อเสียงเตือนของคน ที่ล้างก้นให้เราได้มากกว่า 3 ปี

แปลกไหม...ที่เพื่อนโทรมาชวนเราเวลาไหนเราก็ออกไป
แต่...พ่อแม่จะมาหา เรากลับบอกว่าไม่ว่าง

แปลกไหม...ที่คุณทำอะไรได้ทุกๆ อย่าง เพื่อใครบางคน
แต่...คุณไม่เคยทำสิ่งที่พ่อแม่คุณแอบดีใจ

แปลกไหม...ที่คุณต้องพูดจาเพราะๆ เพื่อให้เขายอมรับ
แต่...คุณไม่เคยพูดเพราะกับพ่อแม่คุณเอง

แปลกไหม....ที่คุณยังรอที่จะทำบุญกับท่าน ในวันที่ท่านไม่อยู่

วันนี้คุณคิดถึงผู้หญิงคนนี้หรือยัง?





เหลืออีกประมาณ 21 วันนับจากวันที่ผมโพสต์ กระทู้ นั่นคือวันแม่ที่จะถึง

อยากเชิญชวนให้พี่ๆทุกท่าน ทำดีเพื่อแม่ อะไรก็ได้ ที่เป็นความดีครับ


ลืมไปครับ ขอบคุณ www.kapook.com ที่มีบทความดีๆครับ biggrin.gif

เกือบลืม แหะๆ

อยากเรียนเก่ง

16 July 2010 - 06:18 PM

คือว่า ผมเป็นคนเรียนไม่เก่ง หัวช้า คิดอะไรต้องนั่งคิดนานๆกว่าจะออก ไหวพริบไม่ค่อยมี

เทอมนี้ผมอยากเรียนได้เกรดสูงๆอ่ะครับ

อยากจะขอคำแนะนำจากพี่ๆทุกคน ครับ

ไม่ว่าจะเป็น เทคนิคการอ่านหนังสือ เทคนิคการเรียน ทำบุญอะไรแล้วจึงฉลาด

แล้วพี่ท่านใดมีวิธี ที่หลวงพ่อเคยแนะนำบ้าง(เคยฟังจากหลวงพ่อ) ในการที่จะทำให้ประสบความสำเร็จทางด้านการเรียน

บอกผมหน่อยนะครับ



อนุโมทนาบุญกับพี่ๆ ทุกคนครับ

อ่านแล้วอยากร้องไห้(เพื่อนส่งมาให้)

25 January 2010 - 02:27 PM

อยากให้ทุกคนได้อ่านและตระหนักถึงความสำคัญของ “ เธอ ”


อ่านแล้วอย่าร้องเหมือนเรานะ...

ความรู้สึกของน้องคนหนึ่งที่บรรยายออกมาจากใจ

ในขณะที่.... ผมก็เป็นเช่นเด็กวัยรุ่นทั่วๆ ไป เรียน เที่ยว นอน กิน
ดึกๆ ผมก็โทรคุยกับแฟนของผม
ซึ่งทั้งหมดเหล่านี้มันก็เป็นกิจวัตรประจำวันของผม
และผมก็เชื่อว่าใครๆ เค้าก็ทำแบบนี้กัน
' จ้า ตัวเอง วันนี้กินข้าวรื้อยาง '
' กินกับอะไรบ้าง แล้วตอนกินตัวเองคิดถึงเค้ามั้ยเนี่ย '
' รู้มั้ยตัวเอง ถ้าเค้าเป็นผีเนี่ย เค้าอยากเป็นกระสือที่รักจะได้เห็นใจไง '
' ตัวเองวางก่อนดิ ก่อนดิ '

ประโยคต่างๆ ที่ผมได้คิดและคัดสรรเตรียมพร้อมมาต่างๆ ก่อนโทร
ผมยังคงใช้เวลาส่วนใหญ่ตอนดึกไปกับการคุยโทรศัพท์
ระยะเวลาอันผมได้ใช้ไปในแต่ละครั้งนั้น
พอรู้สึกอีกทีก็ผ่านไปหลายชั่วโมงแล้ว
แต่ผมก็ไม่ชอบนะ หากใครจะมาว่าผมไร้สาระ
ก็ไม่เห็นหรอคนส่วนใหญ่เค้าก็ทำกัน
' เอ้อ เกือบลืมไปอีกอย่าง กิจวัตรอีกอย่างนึงของผมก็คือ
แม่ของผมมักชอบโทรหาผมทุกวัน ' ' ตอนนี้ลูกอยู่หอรึยัง '
' เย็นนี้กินข้าวอิ่มมั้ย ' ' วันนี้เรียนเป็นยังไงบ้าง ' ' อย่าไปเที่ยวที่ไหนไกลนะ '
โธ่!คำถามเดิมๆ ผมก็ตอบไปแบบเดิมๆ
แม่ผมก็ไม่เบื่อซักที ยังคงโทรหาผมเป็นประจำ
โชคดีที่ผมพยายามตัดบทคุย
ผมกับแม่น่ะคุยกันไม่กี่นาทีก็วางแล้ว
ก็มันไม่มีอะไรจะคุยจะให้ผมทำยังไง
จนกระทั่งวันนั้น ' ตัวเองตอบเค้าได้รึยังว่ารักเค้ามั้ย '
' เร็วๆสิ เค้ายังอุฒส่าห์บอกรักตัวเองไปแล้วนะ '
' แล้วยังจะใจร้ายไม่บอกรักเค้าอีกหรอ '
ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ เสียงจากโทรศัพท์บอกผมว่ามีสายซ้อน
ผมมองไปที่หน้าจอมันขึ้นชื่อว่า 'Home'
' โธ่ แม่โทรมาทำไมตอนนี้เนี่ย กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มเลย '
ผมไม่สลับสายผม ผมยังคงคุยกับสุดที่รักของผมต่อไป
เพราะผมรู้ว่าสิ่งที่แม่จะคุยกับผมก็คงเป็นประโยคเดิมๆ
' และนั่นก็เป็นโอกาสสุดท้าย ที่ผมจะมีโอกาสฟังเสียงของแม่ '
หลังจากนั้นไม่นานทางญาติของผมโทรมาแจ้งผมว่า
เมื่อคืนนี้บ้านของผมถูกขโมยเข้า และแม่ของผมขัดขืน
และได้ต่อสู้กับโจร จึงถูกโจรใช้มีดแทงเข้าที่ท้อง
แม่เสียชีวิตเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว
ญาติของผมเล่าอีกว่าตอนไปพบศพแม่นั้น
ในมือของแม่กำโทรศัพท์ไว้แน่น
และเบอร์โทรออกล่าสุดของเธอไม่ใช่โทรแจ้งตำรวจ
หรือเรียกรถพยาบาล แต่แม่เลือกที่จะโทรหา ' ผม '
สิ่งสุดท้ายในชีวิตที่แม่ผมเลือกที่จะทำคือ โทรศัพท์หาผมเพื่อฟังเสียงของผม
วินาทีนั้นน้ำตาของผมไหลอาบแก้ม ผมพูดอะไรไม่ออก มือและตัวของผมสั่น
วันนั้นผมเลือกที่จะคุยกับแฟนผม ดีกว่าที่จะคุยกับแม่ของผม
ผู้หญิงคนเดียวในโลก ที่คุยกับผมเป็นคนแรกในชีวิต
ผู้หญิงคนเดียวที่ผม สามารถที่จะคุยกับเธอได้ทุกเวลา
โดยที่ผมไม่ต้องเตรียมบทพูดใดๆ ไม่ต้องกังวลว่าเธอจะประทับใจหรือไม่
ไม่ต้องมีมุข ไม่ต้องมีคำหวานใดๆ
คนเดียวในโลก ที่โทรมาหาผมเพียงแค่ฟังผมพูดประโยคเดิมๆ
คนเดียวในโลก ที่ไม่ว่าโทรศัพท์เธอจะโปรโมชั่นแพงแค่ไหนก็ยังโทรหาผม
' และ คนเดียวในโลก ที่เลือกคุยกับผมในวินาทีสุดท้ายในชีวิต '
ในบางครั้งประโยคที่ว่า ' ไม่มีคำว่าสาย หากเราคิดที่จะแก้ตัว '
มันก็ไม่เป็นความจริง ' เพราะบางปรากฏการณ์ในโลก เกิดขึ้นได้แค่ครั้งเดียว '
อาจเป็นเพราะเวรกรรมของผม
หลังจากนั้นไม่นานแฟนผมที่ผมใช้เวลาคุยกับเธอวันหลายๆ ชั่วโมงก็ทิ้งผมไป
วันนี้ผมเริ่มเข้าใจชีวิตมากขึ้น
หลายๆ อย่างที่คนส่วนใหญ่ทำ มิได้หมายถึงสิ่งที่ถูกต้องเสมอไป
เพราะตัวเราเท่านั้นที่เป็นผู้ต้องรับผลการกระทำของเราเอง
' เราจะรู้ว่าสิ่งใดสำคัญ ก็ต่อเมื่อเราต้องเสียมันไป '
ทุกวันนี้ผมนั่งมองโทรศัพท์
รอที่จะตอบคำถามเดิมๆ ให้ผู้หญิงคนหนึ่งฟัง
แต่ผู้หญิงคนนั้นคงไม่มีอีกแล้ว
' ในเมื่อเรามีความรักอันเต็มเปี่ยมจากครอบครัว
แล้วทำไมต้องไปขอเศษเสี้ยวจากใคร '

ทุกๆท่านอ่านแล้ว เป็นอย่างไรบ้างครับ เหมือนผมไหม"อยากร้องไห้" และอยากบอกเเม่ว่า "รักเเม่"
งั้นออกบวช ทดแทนพระคุณแม่กันเถอะ

เท่าไหร่แล้วหนอ?????

23 January 2010 - 01:39 PM

ขอทราบยอดรวมทั้งหมดทั่วโลก ของโครงการบวชพระ100,000รูปว่าเท่าไหร่แล้วคับ เพื่อที่จะให้ทุกๆท่านอนุโมทนาบุญคับ

กรุณาใส่วันที่ และ เวลา และถ้าหากยอดเปลี่ยนแปลง กรุณาลงวันที่ เวลาใหม่ ด้วยนะคับ


สาธุ คับ