ค้นหาเนื้อหา
ไม่เปิดเผย
:04: สงสัย สงสัย ไปทำไม๊ ทำไมถ้าอยากจะเป็นพุทธบริษัทสี่ น่ะต้องไม่สงสัย แล้วแต่วิธีใครทำใครได้ว่าเขาอิเหนาเป็นเอง ดังพุทธภาษิต ท่านว่าเขาตัวเราได้ยินก่อน จิงมั้ยเอ่ย เอ้า แค่นี้ แต่ศีล 5 ยังไม่ครบเลย ไปว่าคนอื่นทำม้ายๆๆๆไม่ชอบ ..ชอบ ก็เก็บเอาไว้สิจ๊ะ อยากเป็นพุทธต้องมีปัญญาแยกแยะ การพูดเป็นสิ่งที่สำคัญ ๆๆๆๆมากๆๆๆเพราะมีวจีกรรมเป็นอาวุธ ทำร้ายและ ทำลายตัวเองก่อนใคร ๆ ๆๆ คนที่เขาแยกแยะเป็นเขาต้องไปศึกษาก่อนแล้วพิจารณา ถ้าหากไม่ดี เขาก็ไม่สงสัยเขาก็เปลี่ยนวิธีไม่ต้องเสียเวลาไปนั่งคิดหาวิธีทำลายความคิดความสงสัยของตัวเอง เขาเรียกหลง ยึดติด กับอดีตของความคิดนะครับ อย่าไปมัวสงสัยให้มันมากเล้ย มีเวลาหายใจก็ไม่กี่วัน รีบ ๆ พิจารณาตัวเองดีกว่าอย่าไปพิจารณา ให้มากกว่านั้นอีกเลย กลายเป็นพิจารณา+วิพาก + วิจารณ์ ไปว่ามั้ยล่ะ จ๊ะ[SIZE=12]
จากข้อสังเกต ของตัวข้อย น้อย ๆ นี้เองก็พบว่ามีหลายตัวหลายตน ที่ยังไม่พึงพอใจ ใจของของตัวเอง ต้องตินั่น ชมนี่ ที่ตัวเองตนเองช๊อบ ชอบ ไม่ชอบ นั่นละ คิดแค่ว่ากรรมเป็นของตน ใครทำใครได้ ทำดี คิดดี ก็ได้กรรมดี เท่านั้นหละ โยมทั้งหลาย เอ๋ย อย่าไปมัวงม เต่า ในมหาสมุทรเลย เดี๋ยวนี้เต่าอยู่บนบกแล้ว ใครมาอ่านตรงนี้อย่าเพิ่งท้อถอย นะ สู้เพื่อคิดดี ปฏิบัติดี เฉพาะตนไม่เบียนเบียนตนเอง และ แผ่ เผื่อไปให้คนรอบข้าง ทั่วไปทั้งโลกนี้ด้วยแหละ ดีเอ๋ย รู้มั้ยพวกที่วิจารณ์เกี่ยวกับรัตนตรัย มี 3 ประการ คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ได้รับอานิสงษ์อะไร อย่าไปเกี่ยวข้องกับการคิดมั่วซั่วทั้งหลายเลย จะไม่คุ้มค่ากับชีวิตดอก จงอย่าเปิดช่องให้ใจ กาย วาจา ได้ลงมือทีเดียว แล้ว เว็บทั้งหลายก็พึงอย่าให้สิ่งที่คนขี้สงสัย ทั้งหลาย เป็นแหล่งวิพากษ์ เลย ขออนุโมทนา แต่อันนี้แค่คุยกันน้อไม่ได้เสนอแนะแต่อยากมาจอย กัน มาจอยกัน ไว้เท่านี้ล่ะ ขอบพระคุณหลาย ๆ เด้อ
