ไปที่เนื้อหา


little horse

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 03 Aug 2006
ออฟไลน์ ใช้งานล่าสุด Sep 22 2016 11:02 PM
-----

โพสต์ที่ฉันโพสต์

ในกระทู้: ทำไมพรหมทราบความในใจพระพุทธเจ้าได้

04 August 2006 - 08:43 PM

[attachmentid=6826][attachmentid=6826] ขอบพระคุณนะคะ สำหรับข้อเสนอแนะ ในการค้นคว้าพระไตรปิฏก ซึ่งเพื่อให้ผู้อ่านหลายท่านได้รับความรู้อย่างครบถ้วน แต่เพิ่มเติมในเรืองของกาลามสูตร ม้าน้อยได้เอามาจากซอฟเวร์ พระไตรปิฏกซีดีลอมของฉบับพม่า ทีทางศรีลังกาเป็นผู้ทำ และได้เทียบเคียงกับฉบับอื่นอีก หลาย ฉบับ ไม่ว่า จะเป็นของศรีลังกา กัมพูชา ไทย ซึ่งในการหาคำตอบว่ามีพระสูตรนี้มีในฉบับอื่นหรือไม่ หากที่บ้านไม่มีพีทีเอส การใช้ซอฟแวร์ชนิดนี้เป็นประโยชน์และช่วยได้
จากเชิงอรรค ของ ซอฟแวร์อันนี้ได้บอกว่าฉบับอื่นไม่ว่าจะเป็นกัมพูชา หรือ ไทย หรือ ศรีลังกานั้น ใช้คำว่า เกสปุตตมฺ ซึ่งก็สามารถให้ตอบได้แล้วว่าในพระไตรปิฏกบาลีฉบับอื่นมี ซึ่งไม่ใช่เป็นเพราะเปลี่ยนฟอนท์ตัวอักษรได้เท่านั้น
และพีทีเอสเองก็มีคุณลักษณะประโยชน์เช่นนี้เหมือนกันคือมาเทียบเคียงจากหลายฉบับ หากดูในภาพก็จะเห็นว่า เชิงอรรถที่ ๔ ได้บอกว่า ฉบับอื่นๆนั้น ใช้คำว่า เกสปุตตมฺ แต่ฉบับพม่านั้นใช้ เกสมุ ดังภาพ
นอกจากนี้หากสังเกตดูใน ฉบับพีทีเอสนั้นไม่มีชื่อพระสูตรเกสปุตตสูตรนะคะ มีแต่หมายเลข แต่เนื้อหานั้นเหมือนกันกับกาลามสูตรของไทย
ปล. จากการศึกษาบาลีเทียบเคียงหลายฉบับ ไม่เคยเจอความผิดพลาดถึงขั้นหายไปทั้งพระสูตรนะคะ อย่างมากก็หายไปบรรทัดสองบรรทัด หรือผิดบางอักขระ เท่านั้นค่ะ

ในกระทู้: ทำไมพรหมทราบความในใจพระพุทธเจ้าได้

03 August 2006 - 11:23 AM

ขอเพิ่มเติมของคุณ Tanay007 นิดหนึ่งนะคะ จริง ๆ แล้วกาลามสูตร มีในพระไตรปิฎกเถรวาท ฉบับอื่นด้วยค่ะ ข้อความข้างล่างนี้ มาจากพระไตรปิฎกฉบับศรีลังกา กับพม่านะคะ ข้อความเดียวกับที่คุณ Nemo โพสต์มา นี่คือตัวบาลีโรมันที่กล่าวไว้ค่ะ เพียงแต่ว่า ชื่อพระสูตร เป็นชื่อ Kesamuttisutta เกสมุตติสูตร เท่านั้น แต่เนื้อหานั้นจะเหมือนกันนะคะ

"เราได้กล่าวคำใดว่า ท่านอย่าได้ถือโดยได้ฟังตามกันมา อย่าได้
ถือโดยลำดับสืบ ๆ กันมา อย่าได้ถือโดยความตื่นว่าได้ยินว่าอย่างนี้ ๆ อย่าได้
ถือโดยอ้างตำรา อย่าได้ถือโดยเหตุนึกเดาเอา อย่าได้ถือโดยนัยคือคาดคะเน
อย่าได้ถือโดยความตรึกตามอาการ อย่าได้ถือโดยชอบใจว่า ต้องกันกับลัทธิ
ของตน อย่าได้ถือโดยเชื่อว่าผู้พูดสมควรจะเชื่อได้ อย่าได้ถือโดยความนับถือ
ว่าสมณะผู้นี้เป็นครูของเรา เมื่อใดท่านรู้ด้วยตนนั่นแลว่า ธรรมเหล่านี้เป็น
อกุศล ธรรมเหล่านี้มีโทษ ธรรมเหล่านี้ท่านผู้รู้ติเตียน ธรรมเหล่านี้ ใคร
ประพฤติให้เต็มที่แล้ว เป็นไปเพื่อสิ่งไม่เป็นประโยชน์ เป็นไปเพื่อทุกข์ ดังนี้
ท่านควรละธรรมเหล่านั้นเสีย เมื่อนั้น ดังนี้ คำนั้นเราได้อาศัยความข้อนี้แล
กล่าวแล้ว."

“Iti kho, kālāmā, yaṃ taṃ avocumhā [avocumha (sī. syā. kaṃ. pī.) a. ni. 4.193]– ‘etha tumhe, kālāmā! Mā anussavena, mā paramparāya, mā itikirāya, mā piṭakasampadānena, mā takkahetu, mā nayahetu, mā ākāraparivitakkena, mā diṭṭhinijjhānakkhantiyā, mā bhabbarūpatāya, mā samaṇo no garūti. Yadā tumhe kālāmā attanāva jāneyyātha– ‘ime dhammā akusalā, ime dhammā sāvajjā, ime dhammā viññugarahitā, ime dhammā samattā samādinnā ahitāya dukkhāya saṃvattantīti, atha tumhe, kālāmā, pajaheyyāthā’ti, iti yaṃ taṃ vuttaṃ, idametaṃ paṭicca vuttaṃ.

ชื่อพระสูตรนี้คือ Kesamuttisutta เกสมุตติสูตร ค่ะ (เนื่องจากเวบนี้ไม่รองรับ ฟอนท์บาลีโรมัน จึงมีบางตัวอ่านไม่ออกนะคะ)

ดังนั้น เนื้อหาในกาลามสูตร ในพระไตรปิฎกเถรวาท ในหลาย ๆ ประเทศมีนะคะ เพียงแต่ว่า ชื่อพระสูตรไม่เหมือนกันเท่านั้นเอง