ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- แม่ของ พระยอดกตัญญู
ศรีสะเกษเสียชีวิตแล้วอย่างสงบ
หลังจากที่ต้องป่วยเป็นโรคอัมพฤษ์และกระเพาะอาหารอักเสบมานานหลายปี
ขณะที่พระยอดกตัญญูอาลัยรักโยมแม่พร้อมเตรียมเข้ารับรางวัลลูกกตัญญู
จากพระองค์เจ้าโสมสวลีฯ ในวันแม่แห่งชาติ 12 ส.ค.นี้ เพื่อ
นำรางวัลมาให้โยมแม่รับรู้ก่อนทำพิธีฌาปนกิจศพต่อไป
วันนี้
( 28 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางตู๊จ ศรีสัจจา อายุ 75 ปี
แม่ของพระอภิรักษ์ อภิญญาโณ อายุ 41 ปี พระลูกวัดบ้านสังกัน
หรือเป็นที่รู้จักกันในนาม พระยอดกตัญญู ได้เสียชีวิตแล้วอย่างสงบ เมื่อเวลา
04.30 น.ที่ผ่านมา
ขณะนี้บรรดาญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านได้ร่วมตั้งบำเพ็ญกุศลศพตามพิธีทางพุทธศาสนา
ที่บ้านเลขที่ 72 ม.1 บ้านสำโรงพลัน ต.สำโรงพลัน อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ
ซึ่งเป็นบ้านของ นางตู๊จ
ทั้งนี้ พระอภิรักษ์
อภิญญาโณ อายุ 41 ปี พระลูกวัดบ้านสังกัน ซึ่งบวชมานานมีพรรษามากกว่า 23 พรรษา
ได้ยอมทิ้งตำแหน่งเจ้าอาวาสที่เป็นมานานกว่า 9 ปี ยอมลดฐานะลงมาเป็นพระลูกธรรมดา
เพื่อจะได้มีเวลาปรนนิบัติดูแลโยมแม่ที่ป่วยเป็นโรคอัมพฤษ์
ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้มานานหลายปีอย่างใกล้ชิด
จนเป็นข่าวทางสื่อมวลชนโด่งดังไปทั่วประเทศเมื่อเร็วๆ
นี้
โดยตั้งแต่ช่วงเช้าเป็นต้นมา
ญาติพี่น้องได้นิมนต์พระสงฆ์มาประกอบพิธีทางศาสนา ท่ามกลางบรรยากาศที่เศร้าสลด
ซึ่งศพของนางตู๊จ ถูกคลุมด้วยผ้าขาวนอนอยู่บนที่นอนภายในบ้านมีพระอภิรักษ์
นั่งเฝ้าศพของโยมแม่
ด้วยความรักอาลัยที่โยมแม่จากไปอย่างกะทันหัน
![](https://images.dmc.tv/www/images/news_picture/2.jpg)
พระอภิรักษ์
อภิญญาโณ พระยอดกตัญญู กล่าวว่า เมื่อวันที่ 2
ก.ค.ที่ผ่านมาโยมแม่ได้กินขนมหวานซึ่งเป็นวุ้นกะทิ
แล้วมีอาการท้องเสียถ่ายอุจจาระอย่างรุนแรง
อาตมาจึงได้นำโยมแม่ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลไพรบึง นพ.สุขเกษม เรืองนุช
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลไพรบึง ได้ทำการตรวจรักษาแล้วให้นอนพักที่โรงพยาบาล 3
วันโยมแม่ขอออกจากโรงพยาบาล กลับมาพักผ่อนที่บ้าน
แพทย์จึงให้ยามารับประทานที่บ้าน
ปรากฏว่าเมื่อมาพักรักษาอยู่บ้านโยมแม่บ่นปวดท้องตลอดเวลา
อาตมาจึงได้แจ้งให้โรงพยาบาลไพรบึงทราบ และ นพ.สุขเกษม
ได้มาช่วยดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม
โยมแม่มีอาการสดชื่นขึ้นและตื่นเต้นดีใจมาก เมื่อได้รับทราบข่าวว่า
ทางสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
ได้คัดเลือกให้อาตมาเข้ารับพระราชทานรางวัลลูกกตัญญู จากพระเจ้าวรวงศ์เธอ
พระองค์เจ้าโสมสวลีพระวรราชาทินัดดามาตุ ในวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม ที่จะถึงนี้
ที่สวนอัมพร กรุงเทพฯ
โยมแม่ จึงได้เตรียมเสื่อไหมสีดำ
และผ้าถุงฝืนใหม่เพื่อจะเดินทางไปเข้าเฝ้าฯรับรางวัลพระราชทานร่วมกับอาตมาที่กรุงเทพฯ
ด้วย เพราะต้องการเห็นอาตมารับพระราชทานรางวัลโดยตาของตัวเอง
ส่วนเพื่อนบ้านใกล้เคียงที่ทราบข่าวพากันมาร่วมแสดงความยินดี
และคอยเป็นเพื่อนช่วยเหลือดูแลเฝ้าไข้โยมแม่ด้วย
แต่เมื่อเวลา
04.30 น. วันนี้ ( 28 ก.ค.) อาตมาได้เตรียมที่จะออกบิณฑบาต
ซึ่งปฏิบัติเป็นประจำทุกวันมาโดยตลอด ได้เดินเข้าไปดูอาการของโยมแม่
แต่ว่าอาตมาแทบช็อกเมื่อพบว่าโยมแม่ได้สิ้นลมหายใจไปแล้วอย่างสงบ
โดยที่ไม่มีวี่แววหรือว่ามีอาการบ่งบอกล่วงหน้าแต่อย่างใด พระอภิรักษ์
กล่าว
พระยอดกตัญญู กล่าวต่อว่า อาตมาจะตั้งบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมศพ 3 วัน แล้วจะเก็บศพโยมแม่ไว้ที่บ้าน
และหลังจากกลับมาจากรับพระราชทานรางวัลลูกกตัญญูในวันที่ 12 ส.ค.แล้ว
จะนำเอารางวัลพระราชทานมาวางไว้ข้างโลงศพโยมแม่ให้ได้รับรู้
และจะขอพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษแก่โยมแม่ด้วย
โดยทางผู้อำนวยการโรงพยาบาลไพรบึง ร่วมกับทางอำเภอไพรบึง จะช่วยดำเนินการประสานงาน
ในเรื่องการเสนอขอพระราชทานเพลิงศพให้
โยมแม่พ้นทุกข์ไปแล้ว
หลังจากจัดงานศพของโยมแม่เสร็จเรียบร้อย
อาตมาก็จะกลับไปปฏิบัติกิจของสงฆ์อย่างเต็มที่เช่นเดิมเพื่อจะได้ร่วมพัฒนาพระพุทธศาสนาสืบต่อไป ซึ่งอาตมาต้องกราบขอบพระคุณท่านพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว
ที่ได้ให้ความเมตตาบริจาคเงิน จำนวน 500,000 บาท
ให้อาตมาสร้างกุฏิอยู่ที่วัดบ้านสังกันเพื่อที่จะได้นำโยมแม่ไปอยู่ด้วยที่วัดบ้านสังกันด้วยและการก่อสร้างใกล้เสร็จแล้ว
แต่โยมแม่ต้องมาจากไปเสียก่อน พระอภิรักษ์
กล่าว
ทางด้าน นพ.สุขเกษม เรืองนุช
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลไพรบึง กล่าวว่า นางตู๊จ
มีอาการเจ็บปวดบริเวณใต้ลิ้นปี่เนื่องจากป่วยเป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบมีแผลในกระเพาะอาหาร
ซึ่งแทพย์ได้ให้การรักษาพยาบาลอย่างเต็มที่แต่ นางตู๊จ
ต้องการกลับมานอนรักษาที่บ้าน จึงได้ให้รถโรงพยาบาลมาส่ง
และตนได้คอยมาติดตามดูอาการป่วยอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา
แต่เนื่องจากว่าผู้ป่วยร่างกายอ่อนแอมาก ประกอบดับอายุมากแล้ว จึงได้เสียชีวิต
ดังกล่าว
![](https://images.dmc.tv/www/images/news_picture/logo/manager.gif)