"โรคมะเร็ง"
เป็นปัญหาใหญ่ที่ก่อให้เกิดความสูญเสียทางด้านเศรษฐกิจ
และทำลายชีวิตประชากรจำนวนมากขึ้นทุกปี
นักวิจัยจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติจึงได้คิดค้นยุทธศาสตร์ใหม่ในการพิชิตโรคมะเร็ง
โดยเป็นการสู้กับมะเร็งในเชิงรุกแทนการตั้งรับ ด้วยวิธี "การตรวจคัดกรอง
DNAในเม็ดเลือดขาว" ที่รู้ผลภายใน 6 ชั่วโมง ทำให้สืบค้นว่า "ใคร"
คือผู้เสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งในอีก 10 ปีข้างหน้า
"การตรวจคัดกรอง DNAในเม็ดเลือดขาว" เป็นงานวิจัยของ
ดร.ดนัย
ทิวาเวช รองเลขาธิการสภาสมาคมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย
(สสวทท) และผู้ชำนาญการพิเศษด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์
หัวหน้างานชีววิทยามะเร็ง กลุ่มงานวิจัย สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ร่วมกับคณะ โดยเป็นเทคโนโลยีใหม่ในการค้นหาผู้ที่มีความเสี่ยงสูงในการเกิดโรคมะเร็ง โดยการตรวจ DNAในเม็ดเลือดขาว
สำหรับจุดเริ่มต้นของงานวิจัยดังกล่าว
ดร.ดนัย
กล่าวว่า
เนื่องจากปัจจุบันโรคมะเร็งเป็นปัญหาใหญ่ที่ก่อให้เกิดความสูญเสียทางด้านเศรษฐกิจ
และทำลายชีวิตประชากรจำนวนมากมหาศาลทุกปี
โดยในประเทศไทยโรคมะเร็งเป็นสาเหตุการตายอันดับหนึ่ง
และอุบัติการณ์ของโรคยังคงมีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปี โดยจากการศึกษาพบว่า
มะเร็งเป็นโรคที่ซับซ้อนมีปัจจัยหลายอย่างเข้ามาเกี่ยวข้อง
และยังไม่ทราบถึงกลไกของการเกิดโรคที่แน่ชัด โดย 5-10%
เกิดจากพันธุกรรมโดยตรง และอีก 90-95%
อาจเกิดจากผลกระทบร่วมกันของสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ ผู้ป่วยโรคมะเร็งที่พบในประเทศไทยส่วนใหญ่มีอายุ 40
ปีขึ้นไป และมักพบว่าเป็นโรคมะเร็งในระยะเกือบสุดท้ายแล้ว
เมื่อรักษาด้วยการผ่าตัด รังสีรักษาและเคมีบำบัด
ผู้ป่วยมักเสียชีวิตในระยะเวลาไม่นานนัก
แต่ถ้าเริ่มให้การรักษาในขณะที่เป็นมะเร็งระยะเริ่มแรก
แพทย์ก็จะสามารถรักษาให้หายขาดได้
“การตรวจคัดกรอง
DNAในเม็ดเลือดขาว เป็นการสู้กับมะเร้งเชิงรุกแทนการตั้งรับ
และเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่นักวิทยาศาสตร์สามารถสืบค้นได้ว่า
ใครคือผู้มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งในอีก 10 ปีข้างหน้า โดยผู้ที่มีอายุตั้งแต่
30 ปีขึ้นไป
ที่เป็นกลุ่มมีรหัสพันธุกรรมเสี่ยงต่อโรคมะเร็งจะสามารถป้องกันตนเอง
และได้รับการรักษาโรคอย่างทันท่วงที รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ”
สำหรับวิธีการตรวจคัดกรอง
เพื่อค้นหาผู้ที่มีความเสี่ยงสูงในการเกิดโรคมะเร็งที่มีอายุ 30
ปีขึ้นไปนั้น จะทำการเจาะเลือดผู้ที่มีความเสี่ยง เพื่อตรวจ DNA
ในเม็ดเลือดขาว
ซึ่งสามารถทำนายความเสี่ยงของผู้ที่กำลังจะเป็นโรคมะเร็งระยะเริ่มแรกในอนาคต
อาทิ มะเร็งของกระเพาะอาหาร ลำไส้ใหญ่ กระเพาะปัสสาวะ เต้านม ตับ
และโพรงหลังจมูก เป็นต้น โดยจะทราบผลการตรวจได้ภายใน 6 ชั่วโมง
หลังจากนั้นจะให้ความรู้อย่างถูกต้องในด้านโภชนาการ
การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การป้องกันตนเองจากความเสี่ยงต่างๆ
ควบคู่ไปกับการรักษาที่ถูกต้อง แม่นยำ รวดเร็ว ทันเหตุการณ์
ซึ่งนับเป็นกลยุทธสำคัญในการป้องกันและควบคุมโรคมะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต
“
ประเทศไทยเป็นประเทศแรกๆที่นำความรู้ด้านอณูพันธุกรรมมาประยุกต์ใช้ในการทำนายความเสี่ยง