นาซา/เอพี – “แอตแลนติส” ยังคงกลับบ้านไม่ได้
หลังพบวัตถุประหลาดไม่แน่ใจว่าใช่พลาสติกจากรอยต่อฉนวนกันความร้อนหรือไม่
ถ้าใช่อาจต้องยืดเวลาเข้าสู่โลกออกไป
หวั่นอาจทำอันตรายให้แก่ยานและนักบินทั้ง 6 นาย
องค์การบริหารการบินอวกาศสหรัฐฯ (นาซา) เลื่อนกำหนดการลงจอดของยานแอตแลนติสซึ่งเดิมมีกำหนดถึงพื้นโลกในช่วงเย็นวันนี้
(20 ก.ย.) ออกไปมากกว่า 24 ชั่วโมงหลังตรวจพบวัตถุประหลาดที่บริเวณตัวยาน โดยนาซาต้องการเวลาเพื่อตรวจสอบว่าชิ้นส่วนแปลกประหลาดนี้ว่ามาจากส่วนไหนของยาน
อย่างไรก็ดี
ทางนาซาเชื่อว่าจะยังคงไม่สามารถระบุได้ว่าวัตถุดังกล่าวเป็นอะไร
ระหว่างพลาสติกที่แทรกอยู่ระหว่างรอยต่อแผ่นฉนวนกันความร้อน
หรือเป็นชิ้นส่วนอื่นๆ และถ้าเป็นรอยต่อฉนวนแผ่นกันความร้อนหลุดออกมาจริง
การกลับโลกก็จะไม่ปลอดภัยอย่างแน่นอน
“
ปัญหาคือสิ่งนั้นมันคืออะไร
เป็นแค่วัตถุธรรมดาหรือสิ่งอันตรายจนต้องเสียเวลาตรวจสอบ” เวย์น ฮาล
(Wayne Hale) ผู้จัดการโครงการยานอวกาศของนาซากล่าว
และไม่ว่าจะทำอย่างไรก็แล้วแต่ ทางนาซาต้องการความมั่นใจว่าจะไม่มีอันตราย
ขณะที่แอตแลนติสผ่านเข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลก
อย่างที่ยานโคลัมเบียประสบเมื่อ 3 ปีก่อน
ฮาลเผยอีกว่า
ระหว่างภารกิจนักบินประจำยานแอตแลนติสรายงานลงมาที่ภาคพื้นดินบ่อยครั้งว่า
มีวัตถุที่เหมือนกลุ่มเมฆเล็กๆ เกาะตามยานอยู่ตลอดเวลา
แต่ก็ไม่มีใครใส่ใจว่าจะเป็นสิ่งที่สร้างอันตรายแต่อย่างใด
ทำให้ขณะนี้ทีมงานต้องตรวจสอบมากกว่าที่เคยทำมาก่อน
แอตแลนติสสามารถรออยู่ในอวกาศได้ถึงแค่วันเสาร์นี้ (23 ก.ย.)
เพื่อให้เวลาวิศวกรภาคพื้นดินตรวจสอบวัตถุปริศนา
และจะกลับโลกได้อย่างปลอดภัยหรือไม่
แต่ถ้าตรวจพบว่าจะเกิดอันตรายขณะกลับโลกจริง
ก็คงจะไม่ให้นักบินออกไปนอกอวกาศหรือสเปซวอล์กเพื่อซ่อมด้านนอกเด็ดขาด
แต่จะส่งนักบินประจำยานทั้ง 6
กลับไปที่สถานีอวกาศจากนั้นจะใช้ยานอวกาศดิสคัฟเวอรีไปรับแทน
การตรวจพบวัตถุแปลกปลอมที่ยากจะคาดเดาว่าคืออะไรนั้น เกิดขึ้นในโค้งสุดท้ายก่อนที่แอตแลนติสจะมุ่งหน้ากลับเข้าสู่โลกเย็นวันนี้
โดยกล้องวิดิโอที่คาร์โกด้านหลังของยานจับภาพวัตถุที่ไม่สามารถระบุได้แม้กระทั่งขนาด
ทางภาคพื้นดินเชื่อว่าน่าจะออกมากจากคาร์โกหลังจากยกห่อพัสุดุขนาดใหญ่ออกมา
แต่ไม่มีใครทันสังเกต
วัตถุดังกล่าวลอยตามยานมาในวงโคจรเดียวกัน และค่อยๆ ห่างออกไปจนกระทั่งกลายเป็นจุดดำๆ ตกสู่โลกตามที่กล้องวิดิโอของนาซาจับได้
หลังจากนาซาเลื่อนกำหนดกลับสู่โลกของแอตแลนติสออกไปไม่กี่นาที เนื่องจากสภาพอากาศที่ภาคพื้นดินไม่เอื้ออำนวย
นักบินอวกาศแดน เบอร์แบงก์ (Dan Burbank)
ใช้กล้องดิจิตอลความละเอียดสูงบันทึกภาพวัตถุเล็กๆ ลอยห่างจากยาน
ซึ่งเจมส์ ฮาร์ตสฟีลด์ (James Hartsfield) โฆษกของนาซาเผยว่า
เป็นวัตถุคนละชิ้นกับที่ตกไปก่อนหน้านี้
อีกไม่กี่ชั่วโมงถัดมา ผู้จัดการโครงการยานระบุว่า
วัตถุที่พบชิ้นใหม่เป็นเศษถุงพลาสติกที่หลุดออกมาจากคาร์โก
ส่วนวัตถุชิ้นแรกที่พบนั้น ทีมวิศวกรยานเผยว่า
อาจจะเกิดขึ้นระหว่างการจุดระเบิดเครื่องยนต์เพื่อเตรียมการกลับสู่โลก
ตัวเซ็นเซอร์ที่บริเวณปีกด้านขวาของยานจับแรงกระแทกได้ขณะเดียวกันกับที่กล้อง
ของนาซาพบจุดวัตถุชิ้นแรก
แต่ต่อมาพบว่ามีตัวเซ็นเซอร์อีกหลายตัวที่ส่งสัญญาณขึ้นมาพร้อมๆ กัน
จากนั้นทีมงานได้ใช้กล้องอีกครึ่งโหลตรวจตราไปรอบๆ ยาน
โดยเฉพาะพื้นผิวยานที่มีเกราะกันความร้อน และระบบเครื่องยนต์ต่างๆ
นาซาระแวดระวังเป็นพิเศษในการตรวจสอบความผิดพลาดของยาน
โดยเฉพาะเรื่องฉนวนกันความร้อน
ที่กลายเป็นเหตุให้ยานโคลัมเบียระเบิดขณะกลับเข้าสู่โลกเมื่อ 3 ปีก่อน
ซึ่งการบินครั้งนี้ของแอตแลนติสก็มีตรวจสอบซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ที่มา-