เตือนพฤติกรรมคนยุคใหม่ซึ่งนิยมฟังเพลงผ่านเครื่องเล่นเพลงทันสมัยด้วยเสียงดัง และใช้เวลานาน เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาด้านโสตประสาท โดยจะทำให้ระบบการได้ยินบกพร่องมากขึ้น ทีมวิจัยเตือนกลุ่มอายุ 23 - 25 ปีเป็นกลุ่มเสี่ยงมากที่สุดผลการศึกษาพบว่า การฟังเพลงด้วยความดัง 80 เปอร์เซ็นต์ของความสามารถของตัวเครื่องนานเป็นเวลา 90 นาทีต่อวัน ติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ จะส่งผลกระทบต่อระบบโสตประสาทอย่างแน่นอน
"ในกรณีที่การฟังเพลงนั้น มีการหยุดพัก หรือฟังบ้างไม่ฟังบ้าง ก็จะไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพหูเร็วนัก แต่ผลการศึกษาชิ้นนี้กำลังพูดถึงคนที่ฟังเพลงดัง ๆ ติดต่อกันนานหลายเดือน หรืออาจเป็นปี จะเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงอย่างมาก" ไบรอัน ฟลิกเกอร์ ผู้ทำวิจัยเปิดเผย โดยปัจจุบันเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโสตประสาทอยู่ที่โรงพยาบาลเด็ก เมืองบอสตัน
ผลการศึกษายังระบุอีกด้วยว่า ผู้ที่ฟังเพลงด้วยระดับเสียงประมาณ 10 - 50 เปอร์เซ็นต์ของระดับเสียงสูงสุดที่เครื่องจะเล่นได้นั้นถือว่าอยู่ในระดับที่ปลอดภัยเพียงพอ ในขณะที่การฟังเพลงด้วยเสียงดัง 100 เปอร์เซ็นต์นานเกิน 5 นาที อาจเสี่ยงต่อการสูญเสียโสตประสาทการฟังเลยทีเดียว
ในประเด็นเรื่องสไตล์เพลงที่ฟังนั้น ไม่ว่าจะเป็นแนวเพลงร็อค อาร์แอนด์บี เพลงลูกทุ่ง หรือเพลงป๊อปนั้นพบว่า ไม่มีความแตกกต่าง เช่นเดียวกับประเด็นเรื่องเครื่องเล่นเพลงที่อาจจะต่างรุ่นต่างยี่ห้อกัน ก็ไม่พบความแตกต่างในจุดนี้เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ดี ฟลิกเกอร์กล่าวว่า กลุ่มเป้าหมายที่อาจสูญเสียโสตประสาทด้านการฟังกลุ่มนี้อาจต้องใช้เวลานานนับ 10 ปี กว่าจะรู้สึกตัว หรืออาการของโรคจะแสดงผลออกมา
"ผมรู้สึกเป็นกังวลเกี่ยวกับกลุ่มวัยรุ่น วันทำงานที่มีอายุอยู่ระหว่าง 23 - 25 ปี เนื่องจากเขาจะต้องใช้ชีวิตอยู่อีกนาน แต่กลับมีประสาทหูบกพร่อง"
สำหรับประเด็นเรื่องชนิดของหูฟังที่ใช้นั้น ผลการสำรวจระบุว่า ไม่พบความแตกต่างระหว่างการใช้หูฟังแบบครอบศีรษะ กับหูฟังแบบใส่เข้าไปในหู แต่ขึ้นอยู่กับความดังของเสียงมากกว่า
ทีมงานได้ใช้เครื่องเล่นเพลงดิจิตอลไอพ็อดเป็นตัวทดสอบ โดยพบว่า หากฟังเพลงจากเครื่องเล่นดังกล่าวด้วยความดังสูงสุดนาน 5 นาทีจะเกิดอันตรายได้ ซึ่งมาตรฐานดังกล่าวสามารถปรับใช้ได้กับเครื่องเล่นเพลงดิจิตอลยี่ห้ออื่น ๆ เช่น ครีเอทีฟ, แซนดิสก์ได้ด้วย เนื่องจากมีระดับเสียงที่ใกล้เคียงกัน
นอกจากนั้น พฤติกรรมการการฟังเพลงในสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบจะปลอดภัยกว่าการฟังเพลงในสถานที่พลุกพล่านด้วย เพราะว่าไม่จำเป็นต้องเปิดเสียงให้ดังมากจนเป็นอันตราย
ที่มา-