นิวยอร์ก 19 ต.ค.- ผลการศึกษาในสหรัฐพบว่า ผู้ใหญ่ชาวอเมริกันร้อยละ 8 มีอาการเสพติดอินเทอร์เน็ต เช่น รู้สึกว่าต้องท่องอินเทอร์เน็ต เช็กอีเมล หรือเข้าห้องแชตเป็นประจำ

มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดสอบถามชาวอเมริกันวัยผู้ใหญ่ 2,513 คน ทางโทรศัพท์ ผู้ตอบราวร้อยละ 8 เผยว่าต้องซ่อนพฤติกรรมติดอินเทอร์เน็ตไม่ให้แฟนรู้ เกือบร้อยละ 14 รู้สึกว่าการไม่ได้เข้าอินเทอร์เน็ตหลายวันเป็นสิ่งที่ทำได้ยากมาก เกือบร้อยละ 6 รู้สึกว่าการเร่ร่อนอยู่ในโลกไซเบอร์ส่งผลเสียต่อความสัมพันธ์กับคนอื่น และเกือบร้อยละ 8 ยอมรับว่าท่องอินเทอร์เน็ตเพื่อหนีปัญหาในโลกแห่งความเป็นจริง

ผลสำรวจพบว่า ผู้ตกเป็นทาสอินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่เป็นชายโสดผิวขาว อายุ 30 กว่าปี จบการศึกษาระดับวิทยาลัย ใช้เวลาท่องอินเทอร์เน็ตโดยไม่จำเป็นไม่ต่ำกว่าสัปดาห์ละ 30 ชั่วโมง อาการเสพติดอินเทอร์เน็ตคล้ายกับอาการเสพติดอย่างอื่น เช่น สุรา และต้องปิดบังไม่ให้ผู้อื่นรู้ นักวิจัยชี้ว่า ต้องเริ่มยอมรับกันแล้วว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาทางการแพทย์ เช่นเดียวกับปัญหาทางเศรษฐกิจ เพราะมีพนักงานจำนวนมากท่องอินเทอร์เน็ตอย่างไร้สาระในเวลาทำงาน

ก่อนหน้านี้ศูนย์อินเทอร์เน็ตศึกษาเคยสำรวจคนใช้อินเทอร์เน็ต 18,000 คนเมื่อปี 2542 พบว่า ร้อยละ 5.7 มีอาการว่าต้องใช้อินเทอร์เน็ต หลังจากนั้นเป็นต้นมาอินเทอร์เน็ตแพร่หลายมากขึ้น สามารถเชื่อมต่อได้เร็วขึ้นและมีเนื้อหาหลากหลายมากขึ้น สิ่งที่ตามมาคือ เกิดคลินิกรักษาผู้ติดอินเทอร์เน็ตผุดขึ้นทั่วโลก และเมื่อปีที่แล้วจีนเพิ่งเปิดคลินิกแบบนี้เป็นแห่งแรกที่กรุงปักกิ่ง.
 
 
 
ที่มา-

บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages//2006-10-19-4.html
เมื่อ 24 กรกฎาคม 2567 15:01
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv