แผงโซลาร์เซลล์นี้จะติดตั้งไว้บนยอดตึก ทั้ง 4 ของกูเกิลเพล็กซ์ในย่านซิลิคอน วัลเล่ย์ รวมทั้งจะติดตั้งไว้ที่ลานจอดรถด้วย ซึ่งจะทำให้สามารถผลิตพลังงานได้ราว 1.6 เมกะวัตต์

น่าสนใจว่า นี่ถือเป็นแผงโซลาร์เซลล์ขนาดใหญ่สุดที่ติดตั้งในออฟฟิศของบริษัทในสหรัฐ ทีเดียว และอาจจะเป็นการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ในบริษัทครั้งใหญ่ที่สุดในโลกก็ว่าได้

อย่างไรก็ตาม ไฟฟ้าที่ผลิตได้จากการติด แผงวงจรครั้งนี้เทียบเท่าปริมาณไฟฟ้าที่ใช้ในแคลิฟอร์เนียราว 1,000 ครัวเรือน แต่จะสามารถตอบสนองได้เพียง 1 ใน 3 ของความต้องการ ใช้ไฟฟ้าในสำนักงานใหญ่ในช่วงเวลาพีกที่สุดเท่านั้น

แถลงการณ์ของกูเกิลระบุว่า เราเชื่อว่า การปรับปรุงงานด้านสิ่งแวดล้อมของเรา จะไม่ได้เป็นเพียงแค่ความรับผิดชอบของบริษัท ที่พึงมีเท่านั้น แต่จะเป็นแผนธุรกิจที่ดีในอนาคตด้วย

โครงการนี้ยังจะช่วยเซฟเงินค่าใช้จ่าย และรักษาสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน

"เราเชื่อว่า โครงการที่เราทำนี้จะเป็น การลงทุนเรื่องพลังงานหมุนเวียนที่สามารถ ทำกำไรให้บริษัทได้ หากชุมชนธุรกิจรายอื่นๆ หันมาลงทุนและโฟกัสไปที่การใช้พลังงาน อย่างมีประสิทธิภาพ และพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียนกันมากขึ้น เราก็จะมีอนาคต ที่สดใสร่วมกัน" แถลงการณ์ระบุ

ไม่เพียงแต่กูเกิลเท่านั้น แต่ยักษ์ซอฟต์แวร์อย่างไมโครซอฟท์ก็เตรียมจะติดตั้งโซลาร์เซลล์เช่นเดียวกัน โดยจะติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ระบบ 2288 ในสำนักงานใหญ่ของไมโครซอฟท์ ซึ่งจะผลิตไฟฟ้าได้ราว 480 กิโลวัตต์ในช่วงพีกที่สุด

ทั้งนี้ ระบบที่ทั้งกูเกิลและไมโครซอฟท์ใช้นั้น จะมาจากบริษัทเดียวกับที่ผลิตไฟฟ้าได้มากถึง 12 เมกะวัตต์ให้กับบริษัทอาร์นสไตน์ในเยอรมนี

มีการตั้งข้อสังเกตว่า การที่กูเกิลลุกขึ้นมาจู่โจมในเรื่องพลังงานจากแสงอาทิตย์อาจจะนำไปสู่ การขยายไปยังการลงทุนในพลังงานหมุนเวียนแบบอื่นๆ ในอนาคต

เพราะหน่วยงานการกุศลของกูเกิลที่มีชื่อว่า google.org ก็มีเป้าหมายที่จะสนับสนุนด้านการเงินเกี่ยวกับนวัตกรรมพลังงาน ขณะที่ผู้ก่อตั้งทั้งสองของกูเกิล ทั้ง "ลาร์รี่ เพจ" และ "เซอร์เก้ บริน" ก็ขยับเข้าไปลงทุนในบริษัทเทสลามอเตอร์ส (Tesla Motors) ซึ่งนับเป็นรายแรกๆ ของซิลิคอน วัลเลย์ที่เข้าไปลงทุนในบริษัทผลิตรถยนต์ที่ผลิตรถสปอร์ตที่ใช้ไฟฟ้า

ที่มา-ประชาชาติธุรกิจ