อย.คลอดเกณฑ์ผ่อนปรนโฆษณาบริษัทน้ำเมา โปรโมตชื่อบริษัทได้ ไม่ห้ามสาวเชียร์เบียร์แต่ต้องไม่มีโลโก้ที่ชุด ส่วนแบรนด์น้ำดื่มให้แค่สีฟ้าห้ามสีทอง 79 มหาวิทยาลัยยื่น "อุ๋ย"กำหนดเขต 500 เมตร จากรั้วคุมการขายสุรา หมอชนบทล่าชื่อ 1 ล้านหนุนร่าง

ภก.มานิตย์ อรุณากูร รักษาราชการเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ถึงการปฏิบัติตามคำสั่งประกาศคณะกรรมการอาหารและยาในการควบคุมการโฆษณา
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ว่า จากการประชุมของคณะกรรมการเพื่อกำหนดรายละเอียดและขอบเขต
การปฏิบัติห้ามการโฆษณาเพื่อให้เกิดความชัดเจน ภายหลังจากที่มีผู้ประกอบการทั้งบริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผู้ประกอบการร้านอาหาร ผับ บาร์ และร้านสะดวกซื้อจำนวนมากสอบถามถึงแนวทางปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าว สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้

1.ยังคงห้ามการโฆษณาในสื่อทุกประเภทตลอด 24 ชั่วโมง ยกเว้นเพียงการถ่ายทอดสดกีฬาจากต่างประเทศ และสื่อสิ่งพิมพ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศ แต่ไม่มีเจตนาที่จะนำมาเผยแพร่ในประเทศ ทั้งนี้ การโฆษณาทางโทรทัศน์และวิทยุนั้น ถ้าเป็นการโฆษณาเกี่ยวกับวัฒนธรรมและธรรมชาติที่ไม่พูด หรือมีรายละเอียดเกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นสามารถทำได้ โดยให้มีเพียงชื่อบริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สนับสนุนในตอนท้าย ที่ต้องไม่ใช่ชื่อเดียวกับผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปรากฏตอนท้าย และต้องไม่มีตราสัญลักษณ์ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประกอบ ยกเว้นตราสัญลักษณ์ผลิตภัณฑ์ (โลโก้) อื่นๆ ในบริษัท สีต้องต่างกัน โดยโฆษณาลักษณะนี้สามารถทำได้ 24 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม จะต้องดูที่เจตนาของการโฆษณาประกอบ ที่ไม่ได้ส่อถึงการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

2.สำหรับลานเบียร์ยังคงยืนยันไม่ให้ใช้โลโก้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่อนุญาตให้ใช้สีของผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ เช่น ร่มอาจใช้เป็นสีเหลือง หรือสีเขียวของผลิตภัณฑ์แต่ต้องไม่มีโลโก้บนร่ม และไม่มีโลโก้ในภาชนะต่างๆ ให้เห็น รวมถึงเครื่องแต่งกายของสาวเชียร์เบียร์จะต้องไม่มีโลโก้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เช่นกัน เช่นเดียวกับของแจกแถมต่างๆ ก็ห้ามเด็ดขาด แต่ยกเว้นของแจกต่างๆ ที่ใช้โลโก้ผลิตภัณฑ์ที่มีตราคล้ายกัน เช่น ใช้โลโก้น้ำดื่มที่เป็นสีฟ้า หรือโซดาที่เป็นสีแดงนั้นสามารถทำได้ แต่ต้องไม่ใช่สีเดียวกับสัญลักษณ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

3.จุดตั้งวางผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งในห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ และร้านโชห่วยนั้น ในเรื่องนี้ไม่เข้มงวดเหมือนกับบุหรี่ เพราะหากเป็นการตั้งวางเหมือนกับสินค้าทั่วไปนั้นสามารถทำได้ แต่ต้องไม่วางตรงบริเวณที่เป็นจุดสนใจ และพื้นที่ที่เป็นจุดตั้งวางเพื่อโฆษณาสินค้า เช่นหลังจุดชำระเงินในร้านสะดวกซื้อ หากตั้งวางจะถือเป็นเจตนาโฆษณา เพราะเป็นจุดที่เด่นที่สุดในร้าน แต่ถ้าวางในพื้นที่ในส่วนอื่นๆ ของร้านย่อมได้ เหมือนกับในห้างสรรพสินค้าที่ต้องไม่วางตรงบริเวณทางเดิน แต่หากวางบนชั้นวางสินค้าตามปกติสามารถทำได้ หรือจัดเป็นมุมใดมุมหนึ่งเฉพาะ

4.ร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยเฉพาะ ถ้าเป็นกระจกใสจะต้องนำแผ่นฟิล์มมาติดหรือทำเป็นฝ้าเบลอ เพื่อไม่ให้ภายนอกมองเข้าไปเห็น

5.ป้ายโฆษณาขนาดต่างๆ ที่ปรากฏโลโก้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผู้ประกอบการจะต้องปลดป้ายลงก่อนวันที่ 3 ธันวาคม โดย อย.ได้ประสานไปยังกรุงเทพมหานคร (กทม.) เพื่อดำเนินการแล้วและได้รับความร่วมมือด้วยดี อย่างไรก็ตาม กรณีที่มีบางบริษัทไม่ให้ความร่วมมือและยืนยันที่จะยอมเสียค่าปรับแทนการนำป้ายลงนั้น หากยังฝ่าฝืนจะส่งเรื่องต่อให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ดำเนินคดีอาญา เชื่อว่าคณะกรรมการ สคบ.ไม่ปล่อยไว้ และคงฟ้องให้ศาลสั่งจำคุกแน่นอน

ภก.มานิตย์กล่าวอีกว่า ในวันที่ 27 ตุลาคม จะไปชี้แจงกับผู้ประกอบการที่กรมประชาสัมพันธ์ด้วย สำหรับการดำเนินการจับกุมนั้น อย.จะประสานกับ กทม. สคบ.ออกตรวจจับในต่างจังหวัด จะประสานกับสาธารณสุขจังหวัด และ สคบ.จังหวัดดำเนินการ

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากเป็นการโฆษณาที่ใช้ชื่อบริษัทสนับสนุนสามารถโฆษณาได้ตลอด 24 ชั่วโมงหรือไม่ ภก.มานิตย์กล่าวว่า สามารถทำได้ แต่ต้องไม่มีเจตนาสื่อถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เมื่อถามว่า หากใช้ป้ายโฆษณาเป็นโลโก้น้ำดื่มที่มีลักษณะเหมือนกัน เพียงแต่สีแตกต่างกัน สามารถทำได้หรือไม่ ภก.มานิตย์กล่าวว่า ต้องดูเจตนาของการโฆษณา หากเป็นการโฆษณาน้ำดื่มจริงสามารถทำได้ แต่ต้องไม่สื่อถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การใช้โลโก้เดียวกันกับผลิตภัณฑ์ชนิดอื่นนั้นทำได้แต่ต้องไม่ใช่สีเดียวกันมาขึ้นทะเบียน ส่วนกรณีป้ายโฆษณาที่มีนักแสดงทำท่าเทเครื่องดื่ม ถือว่าเป็นการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะลักษณะการรินเป็นการเทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สคบ.ได้สั่งปรับไปแล้ว

ด้าน นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท กล่าวว่า ชมรมแพทย์ชนบทจะประชุมในวันที่ 27 ตุลาคม เพื่อเตรียมรวบรวมรายชื่อบุคลากรทางการแพทย์และประชาชนสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คาดว่าน่าจะได้อย่างน้อย 1 ล้านคน หากไม่ออกกฎหมายนี้ในช่วงนี้ คงยากที่จะออกมาในช่วงรัฐบาลจากการเลือกตั้ง เพราะเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของภาคธุรกิจ

นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ กล่าวว่า เห็นด้วยการผ่อนปรนการโฆษณาที่เปิดช่องให้บริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สามารถ
ประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์องค์กรทางสื่อได้ เพราะหากห้ามโฆษณา 100% จะกลายเป็นการกดดันให้เกิดการส่งเสริมการขายแบบใต้ดินที่ไม่สามารถควบคุมได้
นายสมชัย สุทธิกุลพานิช รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้ทำตลาดเบียร์ช้าง สุราแสงโสม แม่โขง เปิดเผยว่า หาก อย.จะให้ผู้ประกอบการทำโฆษณาส่งเสริมภาพลักษณ์องค์กร ควรจะระบุประกาศว่าจุดไหนทำได้หรือไม่ได้ แต่โฆษณาส่งเสริมภาพลักษณ์องค์กรของบริษัทที่ผ่านมาจะแจกผ้าห่มและส่งเด็กไทย
ไปสโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน ประเทศอังกฤษ ซึ่งจะเอ่ยถึงแบรนด์คำว่า "ช้าง" และชื่อของบริษัทด้วย จุดนี้ไม่แน่ใจว่าจะทำได้หรือไม่ ห่วงว่าดุลพินิจที่ใช้กับแต่ละบริษัทจะมีความแตกต่างกัน
เวลา 15.30 น. ที่กระทรวงการคลัง นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) พร้อมรองอธิการบดีสถาบันอุดมศึกษาอื่นๆ 17 สถาบัน เข้ายื่นหนังสือกับ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อขอให้แก้ไขกฎกระทรวงให้เขต 500 เมตร จากสถานศึกษาเป็นเขตควบคุมการขายสุรา อาทิ
1.ในเขต 500 เมตร มิให้กรมสรรพสามิตออกใบอนุญาตขายสุราแก่ผู้ขออนุญาตรายใหม่ 2.ในการต่อใบอนุญาตรายเก่า ซึ่งดำเนินการกันปีต่อปีในเดือนธันวาคมนั้น จะต้องไม่ถูกคัดค้านเป็นลายลักษณ์อักษรจากอธิการบดี หรือผู้อำนวยการสถานศึกษา
3.ถ้าร้านใด หรือผู้ใดขายสุราโดยละเมิดกฎหมาย สถานศึกษาสามารถร้องขอให้กรมสรรพสามิตเพิกถอนใบอนุญาตขายสุราได้ก่อนใบอนุญาตหมดอายุ

นายปริญญากล่าวว่า ม.ร.ว.ปรีดิยาธรรับปากว่าจะรับข้อเสนอไปพิจารณา และปรึกษากับกระทรวงที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยอาจมีมาตรการระยะสั้นบางอย่าง เพื่อแก้ปัญหาก่อนที่กรมสรรพสามิตจะต่อใบอนุญาตให้ร้านต่างๆ ในเดือนธันวาคม เพราะถ้ารอใส่เข้าไปใน พ.ร.บ.เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฉบับใหม่คงไม่ทัน


ที่มาจากหนังสือพิมพ์


บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages//2006-10-27-1.html
เมื่อ 4 กรกฎาคม 2567 16:15
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv