รศ.นพ.เกียรติ
รักษ์รุ่งธรรม คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.)
ร่วมกับนักวิทยาศาสตร์จากประเทศเนเธอร์แลนด์
กำลังศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาวัคซีนและอิมมูนบำบัดด้านโรคเอดส์และโรคภูมิแพ้
เพื่อผลิตวัคซีนเอดส์และวัคซีนโรคภูมิแพ้ชนิดไรฝุ่นในประเทศไทย
งบประมาณทั้งสิ้น 20 ล้านบาท แบ่งเป็น 1.การพัฒนาวัคซีนเอดส์ในประเทศไทย
เนื่องจากสายพันธุ์เอดส์ในประเทศไทยเป็นสายพันธุ์ผสมชนิด AE
ซึ่งแตกต่างจากสายพันธุ์เอดส์ฝั่งตะวันตกที่ส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์ชนิด B
และขณะนี้อยู่ระหว่างทดลองประสิทธิภาพในหนูทดลอง
รศ.นพ.เกียรติกล่าวว่า
วัคซีนเอดส์ชนิด AE เป็นการพัฒนาในรูปแบบของดีเอ็นเอวัคซีน
โดยการศึกษาภูมิต้านทานของคนไทยว่าสามารถตอบโต้ชิ้นส่วนใดของเชื้อเอดส์บ้าง
จากนั้นคัดเลือกนำชิ้นส่วนที่เหมาะสมมาพัฒนาเป็นวัคซีนเอดส์
ขณะนี้อยู่ระหว่างทดลองในหนู
พบว่าสามารถกระตุ้นภูมิต้านทานได้ในระดับหนึ่ง
แต่ต้องพัฒนาประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้นต่อไป อย่างไรก็ตาม ตั้งเป้าว่าภายใน
2 ปีข้างหน้า หากไม่สำเร็จอาจต้องทำการวิจัยด้วยวิธีอื่นๆ ต่อไป
แต่หากผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจจะทดลองต่อในลิง
รวมถึงทดสอบความปลอดภัยในสัตว์ทดลองอย่างจริงจัง
จากนั้นจึงทดลองในอาสาสมัครต่อไป
2.วิจัยและพัฒนาวัคซีนโรคภูมิแพ้ชนิดไรฝุ่น
เนื่องจากเป็นโรคที่พบมากในประเทศไทย
โดยผู้ใหญ่พบเป็นโรคภูมิแพ้จมูกร้อยละ 20 และเป็นโรคหอบหืดร้อยละ 5-10
ขณะที่เด็กพบเป็นโรคภูมิแพ้จมูกถึงร้อยละ 30-40 ส่วนโรคหอบหืดพบร้อยละ
5-10
"งานวิจัยที่ผ่านมาระบุว่า
หากนำวัคซีนภูมิแพ้ชนิดที่ผู้ป่วยมีอาการแพ้ฉีดให้กับผู้ป่วยจะช่วยให้อาการดีขึ้น
และอาจไม่จำเป็นต้องใช้ยาแก้ภูมิแพ้อีกเลย
สำหรับการพัฒนาวัคซีนดังกล่าวใช้หลักการคล้ายกับการพัฒนาวัคซีนเอดส์
โดยศึกษาภูมิต้านทานของคนไทยว่าตอบโต้กับชิ้นส่วนใดของไรฝุ่นได้ดี
จากนั้นจึงนำชิ้นส่วนไรฝุ่นดังกล่าวมาพัฒนาเป็นวัคซีนต่อไป
ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาทดลองและคาดว่าภายใน 6 เดือน
จะสามารถนำวัคซีนดังกล่าวมาทดลองในหนูทดลอง" รศ.นพ.เกียรติกล่าว
ที่มา-