พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ ในฐานะประธานคณะกรรมการบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือบอร์ดการบินไทยเผยหลังการประชุมบอร์ดการบินไทย ว่า ที่ประชุม มีมติกำหนดวันประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี 2549 เป็นวันที่ 27 ธ.ค. และอนุมัติจ่ายเงินปันผลให้กับผู้หุ้นในปี 2549 ที่ 1.65 บาท/หุ้น จากปีที่ผ่านมาจ่ายเงินปันผลที่ 1.50 บาท/หุ้น ส่วนผลการดำเนินงานในรอบปีงบประมาณ ปี 49 การบินไทยมีรายได้ 178,607 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 16,119 ล้านบาท หรือ 9.9% และมีกำไรสุทธิ 8,992 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 2,215 ล้านบาท

 “สำหรับการจ่ายเงินรางวัลประจำปี (โบนัส) สำหรับบอร์ดการบินไทยในปีนี้   จะยังคงคำนวณการจ่ายเงินรางวัลประจำปีที่ 0.5% ของเงินปันผล ตามที่ประชุมผู้ถือหุ้นเคยอนุมัติไว้ ไม่มีการเปลี่ยน แปลงการคำนวณเงินรางวัลประจำปีใหม่   ตามที่เป็นข่าวว่าจะเปลี่ยนแปลง มาคำนวณให้เงินรางวัลประจำปีเป็นเปอร์เซ็นต์ของกำไร”

ร.ท.อภินันทน์ สุมนะเศรณี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่  การบินไทย  กล่าวว่า  การจ่ายเงินรางวัลประจำปีของบอร์ดการบินไทยปีนี้ จะจ่ายที่ 0.5% ของเงินปันผล ซึ่งเฉลี่ยจะจ่ายรางวัลประจำปี ให้บอร์ดการบินไทยครั้งนี้รวมประมาณ 14 ล้านบาท หรือเฉลี่ยประมาณ 700,000-800,000 บาทต่อคน

 “ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. เป็นต้นไป การบินไทยจะมีการปรับขึ้นอัตราค่าโดยสาร ในเส้นทางบินในประเทศเพิ่มขึ้น 10% ตามที่คณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) ได้มีมติอนุมัติให้การบินไทยสามารถปรับขึ้นค่าโดยสารก่อนหน้านี้ไว้ ซึ่งการปรับอัตราค่าโดยสารจะทำให้การบินไทยมีผลประกอบการเพิ่มขึ้น และส่งผลให้เส้นทางบินบางเส้นทางบินที่ขาดทุนสามารถคุ้มทุนได้ เช่น เส้นทางบินเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน ส่วนการปรับอัตราค่าโดยสารในเส้นทางบินต่างประเทศ จะยังไม่มีการปรับอัตราค่าโดยสาร เนื่องจากการปรับค่าโดยสารได้จะต้องพิจารณาจากตลาดทั่วไปด้วย”

พล.ร.อ.ธีระ ห้าวเจริญ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ในวันที่ 24 พ.ย. พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะประธานคณะกรรมการบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. จะเรียกประชุมคณะกรรมการ ทอท. (บอร์ด ทอท.) เพื่อหารือเกี่ยวกับการจ่ายชดเชยค่าเสียหายให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบเรื่องเสียงที่สนามบินสุวรรณภูมิ เนื่องจากเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่อยู่บริเวณรอบสนามบินทั้งหมด

“เบื้องต้น ทอท.จะต้องชดเชยค่าเสียหายให้กับชาวบ้าน 70 หลังคาเรือน วงเงินประมาณ 390 ล้านบาท ส่วนครอบครัวที่ได้รับความเสียหายเพิ่มเติมอีก 222 ครัวเรือน ต้องมีการประเมินตัวเลขกันอีกครั้ง ซึ่งในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 21 พ.ย. ที่ผ่านมา สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ได้แจ้งต่อที่ประชุม ครม.ว่า ต้องมีการจ่ายเงินค่าชดเชยให้กับชาวบ้านประมาณ 7,000 ล้านบาท โดยในการประชุมดังกล่าวยังไม่ได้มีการอนุมัติงบประมาณจ่ายค่าชดเชยให้กับผู้เสียหายในชุมชน เพราะต้องประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสรุปตัวเลขที่ชัดเจนก่อนเสนอ ครม.พิจารณาอีกครั้ง”

พล.ร.อ.ธีระกล่าวว่า ตัวเลขดังกล่าวที่หารือกันในที่ประชุม ครม.เป็นเพียงประเมินผลความเสียหายเรื่องผลกระทบด้านเสียงของชุมชนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงสนามบินสุวรรณภูมิเท่านั้น ยังไม่ได้เสนอขออนุมัติวงเงินจาก ครม. เพราะต้องมีการแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาดูแลในเรื่องนี้ เพื่อสรุปรายละเอียดก่อนเสนอ ครม.อีกรอบ ส่วนการใช้มาตรการแก้ปัญหาฉุกเฉิน โดยใช้กฎหมายสิ่งแวดล้อมแห่งมาตรา 9 หรือไม่ เป็นเรื่องของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะพิจารณา

“สำหรับวงเงินที่นำมาจ่ายชดเชยให้กับชาวบ้าน   จะเป็นเงินของ  ทอท.   ซึ่ง  ทอท.เป็น บริษัทอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย   และมีกำไรจากการบริหารงานต่อเนื่อง   จึงเชื่อว่าไม่มีปัญหา แต่ถ้าไม่เพียงพอก็สามารถขอเงินจากสำนักงบประมาณ หรือขอกู้เงินจากกระทรวงการคลังและให้ ทอท.ผ่อนชำระปีต่อปี ส่วนเรื่องความปลอดภัยในสนามบินสุวรรณภูมิได้กำชับผู้บริหาร   ทอท.ให้ เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย เพราะไม่เช่นนั้นจะกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ ซึ่ง ทอท. ได้แจ้งว่าได้จัดสรรงบลงทุน 1,000 ล้านบาท ติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด   และปรับแสงสว่างภายในอาคารผู้โดยสารแล้ว”

ผู้สื่อข่าวรายงานการเคลื่อนไหวของราคาหุ้น บมจ.ท่าอากาศยานไทย (เอโอที) เมื่อวันที่ 22 พ.ย.ว่า ทันทีที่ตลาดหลักทรัพย์ฯปิดทำการ หุ้นเอโอทีได้ถูกนักลงทุนเทขายออกมาอย่างหนัก และต่อเนื่องตลอดทั้งวัน กดให้ราคาหุ้นปรับตัวลงรุนแรง โดยลงไปต่ำสุดที่ 68 บาท ก่อนมาปิดตลาดที่ 69 บาท ลดลงจากวันก่อน 2.50 บาท.

ที่มาจากหนังสือพิมพ์