การศึกษาพบว่าอายุการใช้งานแบตเตอรี่ของคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กที่ถูกอัปเกรดสำหรับใช้งานกับ
ระบบปฏิบัติการวิสต้านั้นจะสั้นกว่าโน้ตบุ๊กรุ่นปกติที่ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์เอ็กซ์พี โดยผู้ใช้อาจต้องเลือกตัดฟีเจอร์กราฟิกแฟลชหวือหวาในวินโดวส์วิสต้าออกบ้าง เพื่อไม่ให้แบตเตอรี่โน้ตบุ๊กหมดเร็วเกินไป
       
       สาเหตุสำคัญของการผลาญพลังงานแบตเตอรี่แบบมโหฬารของโน้ตบุ๊กวินโดวส์วิสต้า (Vista) คือส่วนประกอบไฮเอนด์คุณภาพสูงที่จำเป็นต้องมีคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก
เพื่อให้สามารถรองรับการทำงานวิสต้าได้อย่างราบรื่น ทั้งหน่วยประมวลผล การ์ดแสดงผลกราฟิก และหน่วยความจำสำรอง โดยพลังงานไฟในแบตเตอรี่จะต้องถูกหมุนไปเลี้ยงส่วนประกอบเหล่านี้มากขึ้นกว่าโน้ตบุ๊กที่ใช้ระบบปฏบิติการอื่นทั่วไป
       
       "วิสต้านั้นต้องการทรัพยากรคอมพิวเตอร์ในการรันแอปพลิเคชันมากกว่าเอ็กซ์พี (Windows XP) ดังนั้นคุณจึงต้องการพลังงานแบตเตอรี่ที่มากขึ้น ไม่เช่นนั้นคุณก็ต้องพบกับอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่สั้นลง" ฟิล เฮสเตอร์ (Phil Hester) ประธานฝ่ายเทคโนโลยีของเอเอ็มดีอธิบาย
       
       ไมโครซอฟท์นั้นออกแบบระบบปฏิบัติการวินโดวส์รุ่นใหม่ วินโดวส์วิสต้า ให้มีเอฟเฟคในการแสดงผลมากมาย เช่นหน้าต่างวินโดวส์แบบฝ้าหรือที่เรียกว่า "Aero" ที่จะทำให้ผู้ใช้สามารถมองเห็นหน้าต่างที่เปิดซ้อนอยู่ด้านหลังได้ ซึ่งถือเป็นการปรับปรุงการแสดงผลอินเตอร์เฟสบนเดสก์ท็อปให้ดีขึ้นและปรับให้เหมาะกับ
การนำไปใช้เป็นศูนย์กลางความบันเทิงในบ้านให้มากขึ้น
       
       "ยิ่งในกรณีที่วิสต้าแสดงผลในโหมด Aero แบบเต็มรูปแบบ โดยไม่เปิดฟังก์ชันการจัดการพลังงานที่มีมากับวิสต้า เมื่อนั้นระบบก็จะยิ่งต้องการพลังงานมากขึ้นไปอีก ซึ่งแน่นอนว่าจะมีผลต่ออายุการใช้แบตเตอรี่ทันที" ไอรา วิลเลี่ยม (Ira Williams) ประชาสัมพันธ์ของเดลล์ (Dell) ให้ความเห็น "ในทางกลับกัน หากมีการใช้งานวิสต้าแบบไม่มีอินเทอร์เฟส 3 มิติเลย อายุการใช้งานแบตเตอรี่โน้ตบุ๊กวิสต้าก็แทบจะไม่ต่างจากโน้ตบุ๊กเอ็กซ์พี"
       
       อย่างไรก็ตาม แม้วิสต้าจะมีตัวเลือกให้ผู้ใช้ปิดการแสดงผลกราฟิกไว้ในส่วนฟังก์ชันการจัดการพลังงาน เช่นการลดความสว่าง ระดับเสียง ปิดการเชื่อมโยงเครือข่ายไร้สาย ฯลฯ แต่ประชาสัมพันธ์ของไมโครซอฟท์อ้างข้อมูลการศึกษาของไมโครซอฟท์ที่ยืนยันว่า กราฟิกบนวิสต้านั้นมีผลกับอายุการใช้งานแบตเตอรี่น้อยกว่าฮาร์ดแวร์อื่นๆในเครื่องโน้ตบุ๊ก
       
       "แม้จะเป็นความจริงที่ว่า กราฟิก Aero และส่วนประกอบอื่นๆของวิสต้าจะใช้ทรัพยากรมากกว่าวินโดวส์เอ็กซ์พี แต่ผลกระทบต่ออายุการใช้งานแบตเตอรี่เชื่อว่ามีน้อยมาก" คริสติน ฟาร์เมอร์ (Kristin Farmer) ประชาสัมพันธ์ของไมโครซอฟท์กล่าว "ไมโครซอฟท์มีการทำงานร่วมกับผู้ผลิตส่วนประกอบคอมพิวเตอร์มากมาย เพื่อสร้างความมั่นใจว่าไดร์ฟเวอร์ฮาร์ดแวร์ของพวกเขาสามารถทำงานกับวิสต้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดพลังงาน นั่นคือประเด็นปัญหาอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับไมโครซอฟท์รายเดียว แต่เกี่ยวข้องกับผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ด้วย ซึ่งบริษัทพันธมิตรของเราล้วนยอมรับและพยายามแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้"
       
       สำหรับคำแนะนำแก่ผู้บริโภค ริชาร์ด ชิม (Richard Shim) นักวิเคราะห์ของไอดีซีแนะนำให้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กวิสต้าลดการใช้งานโปรเซสเซอร์และฮาร์ดแวร์ลง
ด้วยการเลือกโหมดพักการใช้งานซึ่งมีในวิสต้า ปิดเสียง ปิดไว-ไฟ หลีกเลี่ยงการใช้งานโปรแกรมเกิน 10 ตัวในเวลาเดียวกัน รวมถึงการปรับลดความสว่างของหน้าจอลง ซึ่งเป็นส่วนที่กินพลังงานมากที่สุด
       
       "เหล่านี้สามารถช่วยให้เราประหยัดพลังงานเล็กๆน้อยๆได้ แต่ก็ยังไม่มากพอที่จะเปลี่ยนความจริงที่ว่า วิสต้าไม่ใช่โอเอสประหยัดพลังงานหรือ battery-friendly" ชิมกล่าวทิ้งท้าย
       
       วิสต้าเวอร์ชันสำหรับองค์กรธุรกิจนั้นเปิดตัวเปิดตัวไปแล้วเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ส่วนเวอร์ชันสำหรับผู้บริโภคทั่วไปนั้นมีกำหนดการวางจำหน่ายภายในเดือนนี้ (มกราคม 2007)
       
       ที่มา-
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages//2007-01-03-2.html
เมื่อ 4 กรกฎาคม 2567 22:08
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv