เวลานี้ มาตรการเด็ดขาดสำหรับจัดการเว็บลามกอนาจาร เมื่อตกเป็นข่าว คำตอบสุดท้าย คือ บล็อก !!!

 

บล็อก (Block) มีความหมายว่า ปิดกั้น ไม่เปิดให้เข้าเว็บไซต์ที่ถูกตีตราว่าไม่เหมาะสม ลามก อนาจาร เป็นต้น

 

แคมฟร็อก เป็นเว็บ ไซต์ล่าสุด ที่ได้เยือนคำตอบสุดท้าย จากกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) โดยสั่งให้ บมจ.กสท ผู้ประกอบการอินเทอร์เน็ตเกตเวย์ หรือ อินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศ ปิดกั้นเว็บไซต์ดังกล่าว ส่งผลให้ผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตของผู้ประกอบการอินเทอร์เน็ต (ไอเอสพี) ทั้ง 13 ราย ที่ได้รับสัมปทานจาก กสท หมดสิทธิเข้าแคมฟร็อก

 

แม้รู้อยู่เต็มอก ว่า การปิดกั้นเว็บไซต์เป็นวิธีแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ทั้งยังทำให้ผู้ที่ใช้งานในเชิงสร้างสรรค์เดือดร้อน แต่ นายสิทธิชัย โภไคยอุดม รมว.ไอซีที กล่าวว่า การปิดกั้นเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับวันนี้ ก่อนขอโทษผู้พิการทางหูที่ใช้ประโยชน์เพื่อการติดต่อสื่อสารกับเพื่อน ๆ และญาติพี่น้อง ผ่านโปรแกรมดังกล่าว

 

ส่วนผู้ประกอบการอินเทอร์เน็ต 53 รายที่ขอใบอนุญาตประกอบการจากคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) กระทรวงไอซีทีเรียกประชุมขอความร่วมมือให้ปิดกั้นเว็บไซต์แคมฟร็อกด้วย

 

นางมณีรัตน์ ผลิพัฒน์ รองปลัดกระทรวงไอซีที เปิดเผยภายหลังหารือกับผู้ประกอบ การอินเทอร์เน็ต ว่า ไอเอสพีทุกรายพร้อมร่วมมือปิดเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมและสร้างความเสียหายให้กับวัฒนธรรม โดยผู้แทนจาก กทช. กล่าวว่า กทช. จะมีรางวัลสำหรับไอเอสพีที่กลั่นกรองการนำ  เสนอเว็บไซต์ และปิดกั้นเว็บไซต์ที่ได้ชื่อว่าไม่เหมาะสม โดยอาจมีการลดค่าใบอนุญาตในปีต่อไปจนถึงให้ใบอนุญาตฟรี !

 

“การปิดกั้นเว็บไซต์เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ แต่เราไม่มีทางเลือก แม้จะรู้ว่าปิดกั้นไปแล้วก็สามารถเปลี่ยนชื่อเว็บไซต์ (โดเมนเนม) เพื่อเปิดให้บริการขึ้นใหม่ได้โดยง่าย ซึ่งการปิดกั้นเว็บไซต์ก็ไม่ช่วยให้เว็บไซต์ลามกอนาจารหมดไป แต่ที่ต้องปิดกั้นเพราะไม่ต้องการให้สังคมส่อไปในทางรุนแรง” นางมณีรัตน์ กล่าว

 

ใช่! การปิดกั้นเว็บไซต์ไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด เพราะแต่ละวันโลกใบนี้มีเว็บไซต์ผุดขึ้นนับหมื่นนับแสนเว็บไซต์ และการบล็อก ก็สามารถปิดกั้นการเข้าใช้งานได้เพียงชั่วครู่ชั่วยามเท่านั้น

 

ทั้งส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการอินเทอร์เน็ต เนื่องจากเสี่ยงต่อการถูกผู้ใช้บริการ   ฟ้อง !!!

 

เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย บริษัทผู้ประกอบการอินเทอร์เน็ตแห่งหนึ่ง เปิดเผยว่า บริษัทได้ดำเนินการปิดกั้นเว็บไซต์ลามกเว็บไซต์หนึ่งตามคำสั่งของ กสท ซึ่งบริษัทต้องทำตามสัญญาโดยไม่มีข้อโต้แย้ง โดยผลที่ตามมา คือ บริษัทถูกผู้ใช้บริการฟ้องต่อศาล ว่า ลิดรอนสิทธิเสรีภาพ เนื่องจากผู้ใช้ต้องการเข้าใช้งานเพื่อทำวิจัย และขณะนี้เรื่องก็ยังอยู่ที่ศาล

 

“ในต่างประเทศมีเว็บไซต์สำหรับขายของที่เกี่ยวกับเรื่องเพศ (เซ็กซ์ชอป) เปิดขายบนเว็บไซต์อย่างแพร่หลาย และไม่มีปัญหาอย่างประเทศไทย เช่น อเมริกา และอังกฤษ การเข้าเว็บไซต์ประเภทนี้ จะต้องกรอกหมายเลขบัตรประจำตัว (ไอดี การ์ด) ทำให้ตรวจสอบตัวตนของผู้เข้าใช้งานได้ ซึ่งถือเป็นมาตรฐานการใช้งานว่าต้องอายุ 18 ปีขึ้นไป ซึ่งมาตรการดังกล่าวได้แจ้งให้คณะอนุกรรมการของไอซีทีทราบหลายครั้งแล้ว   ทุกท่านรับฟังดี แต่ไม่มีการพิจารณาเพื่อดำเนินการใด ๆ” เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายคนเดิมกล่าว

 

เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายคนเดิม กล่าวต่อว่า เราไม่เคยได้รับคำชี้แจงว่าทำไมถึงไม่ใช้หมายเลขบัตรประชาชนในการเข้าเว็บไซต์ที่ล่อแหลม เมื่อสอบถามก็ได้รับเพียงคำชี้แจงว่า การเข้าเว็บไซต์ลามกผิดต่อศีลธรรมของประเทศ โดยส่วนตัวคิดว่าการเข้าใช้งานในเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่มี เป็นสิทธิพื้นฐานของประชาชนคนไทย ตามที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ

 

มาตรการ บล็อก!! ส่งผลให้ผู้ประกอบการอินเทอร์เน็ตหันหัวเรือเข้าหา กทช. เพื่อขอใบอนุญาตประกอบการตามหน้าที่รับผิดชอบของ กทช. ซึ่ง กทช. มีฐานะเป็นผู้กำกับดูแล และหาก กทช. ต้องการสั่งบล็อกเว็บไซต์ใด ๆ ผู้ประกอบการสามารถยื่นร้องต่อศาล เพื่อให้ชี้ขาดได้ว่าสมควรบล็อกหรือไม่ ต่างจากสัญญาสัมปทานที่ทำกับ กสท ที่ต้องดำเนินการบล็อกตามคำสั่งเท่านั้น

 

“การอยู่ภายใต้ กทช. มีวิธีการดำเนินงานที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน สามารถดำเนินงานได้อย่างสบายใจ โต้แย้งได้ แต่อยู่ภายใต้ กสท เราไม่สามารถโต้แย้งได้ เพราะติดสัญญา” เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายคนเดิมกล่าว

 

อีกไม่นาน เมื่อผู้ประกอบการอินเทอร์เน็ต หมดสัญญากับ กสท ก็จะขอใบอนุญาตประกอบกิจการจาก กทช. กันหมด โดย กสท. ก็จะมีบทบาทเทียบเท่า ผู้ประกอบการอินเทอร์เน็ตรายอื่น ๆ

 

เมื่อวันนั้นมาถึง บล็อก ! คำตอบสุดท้าย ก็อาจเปลี่ยนไปสู่คำตอบที่เป็นการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ และไม่เป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของ

คนไทย

 

หมดเวลาสั่ง บล็อก เมื่อเกิดข่าว

 

หวังไว้แบบนั้น.

 

 

 

ที่มา-