คณะผู้พิพากษาศาลสูงสุดสหรัฐ ตัดสินคดีภาวะโลกร้อนให้"อีพีเอ"ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ แพ้คดี ที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ และทำให้โลกร้อน

คณะผู้พิพากษาของศาลสูงสหรัฐตัดสินในคดีเกี่ยวกับภาวะโลกร้อนเป็นคดีแรกเมื่อวันจันทร์ โดยมีมติด้วยคะแนนเสียง 5-4 เสียงว่า สำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อม หรือ อีพีเอ ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ มีอำนาจกำหนดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของรถยนต์ และรถบรรทุกรุ่นใหม่ได้ ภายใต้กฎหมายว่าด้วยอากาศบริสุทธิ์ที่บังคับใช้มานาน 17 ปี หลังจากอีพีเอ เคยอ้างว่าไม่มีสิทธิออกกฎควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพราะก๊าซเรือนกระจกไม่ใช่มลพิษทางอากาศ

แต่ศาลชี้ขาดว่า ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซเรือนกระจกอื่นๆจากรถยนต์ที่เป็นสาเหตุของโลกร้อน อยู่ในข่ายเป็นมลพิษทางอากาศตามกฎหมายอากาศบริสุทธิ์ ทำให้หน่วยงานของรัฐสามารถดำเนินการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกนอกจากนี้ผู้พิพากษายังระบุว่า สาเหตุที่อีพีเอใช้เป็นข้ออ้างไม่ดำเนินการควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจก มีน้ำหนักไม่เพียงพอ

ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช พยายามคัดค้านการออกกฎควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยอ้างว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และหันไปเรียกร้องให้ลดก๊าซปล่อยเรือนกระจกตามความสมัครใจแทน แต่หลังทราบคำวินิจฉัยของศาลโฆษกทำเนียบขาว แถลงยอมรับคำตัดสิน โดยบอกว่าจะกลับไปดูและวิเคราะห์ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

ด้านกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ที่ได้ยื่นฟ้องเรื่องนี้ต่อศาล หวังว่า คำตัดสินกระตุ้นให้สภาคองเกรสเร่งผลักดันให้มีการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกท ั่ทั้งประเทศด้วยข้อบังคับเดียวกัน

ที่มาจาก