วันที่
1-3 พฤษภาคม สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์กรมหาชน)
หรือ ซิป้า- SIPA จะจัดอบรมการสร้างหุ่นยนต์ในโครงการ SIPA Camp-My Robot
โดยเน้นให้ความรู้ ความเข้าใจ เพื่อสามารถ "สร้าง" หุ่นยนต์ด้วยตนเอง
มิใช่เพียงแค่ "ประกอบ" หุ่นยนต์ เพื่อความสนุกสนาน บันเทิง
ตามแบบสำเร็จรูปที่นำเข้าจากต่างประเทศ
วิมลลักษณ์ สิงหนาท
ดอกเตอร์สาวจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ
ผู้มีความสามารถเคยทำงานกับบริษัทยักษ์ใหญ่ในฝรั่งเศส
และมหาวิทยาลัยในรัสเซีย จะมาเป็นผู้ถ่ายทอดกิจกรรมนี้
"ดิฉันเรียนจนจบปริญญาเอกออกซ์ฟอร์ด
อังกฤษ ในคณะฟิสิกส์ เรียนแต่สาขาฟิสิกส์
เน้นหนักไปทางด้านนิวเคลียร์และอนุภาค และด้าน Quantum cryptography
สนใจเรื่องหุ่นยนต์ตั้งแต่ชั้นประถม
และเริ่มต้นใช้คอมพิวเตอร์ตั้งแต่ตอนนั้น
ความสนใจเริ่มจากการประดิษฐ์ชิ้นงานด้านอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ก่อน
ท่ามกลางความอกสั่นขวัญแขวนของพ่อแม่ ที่เห็นลูกเล่นอยู่กับไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า เพราะกลัวจะถูกไฟดูด
"จริงๆ
คำว่าหุ่นยนต์ไม่ได้มีอยู่ในหัวเลย
พอพูดถึงหุ่นยนต์ก็นึกถึงหนังการ์ตูนญี่ปุ่น หุ่นสองขาเดินได้ แปลงร่างได้
บังคับให้ทำอะไรต่อมิอะไรได้
พอโตขึ้นถึงรู้ว่าคำว่าหุ่นยนต์ไม่ได้หมายถึงแค่ตัวหุ่นสองขาเดินได้
ระบบอัตโนมัติทั้งหลายรอบตัวเรา
จัดอยู่ในคำนิยามของคำว่าหุ่นยนต์ได้เหมือนกัน จากตอนเด็กๆ
เราชอบที่จะประดิษฐ์อยู่แล้ว เป็นความรู้ทางกลศาสตร์ง่ายๆ
บวกเข้ากับความรู้ทางอิเล็กทรอนิกส์ ก็จะได้ของเล่นเจ๋งๆ ไว้อวดคนอื่น
"พออายุ
12-13 ปี ความสามารถทางคอมพิวเตอร์มากขึ้น ใส่สมองให้ของเล่นได้
ทำให้ของเล่นที่เราสร้างไว้ฉลาดขึ้น ยิ่งเรียนสาขาฟิสิกส์ มีทั้งกลศาสตร์
อิเล็กทรอนิกส์ บวกกับทักษะการเขียนโปรแกรมที่มี
และที่เราได้ใช้ในการเขียน simulation ต่างๆ ทั้งศึกษาเกี่ยวกับด้าน
Artificial intelligence, neuron network
เมื่อนำทั้งหมดรวมกันแล้วก็ไม่ได้แตกต่างไปจากสาขา Robotics เท่าใดนัก
"มีความคิดที่จะเผยแพร่ความรู้
ไม่ใช่เฉพาะด้านหุ่นยนต์ ต้องบอกว่าความฝันที่อยากให้เป็นจริงที่สุดคือ
การเห็นเด็กไทยหันมาสนใจวิทยาศาสตร์-เทคโนโลยี คณิตศาสตร์
วิศวกรรมศาสตร์มากขึ้น สามารถพัฒนาจินตนาการของตนเองให้กลายเป็นจริงขึ้นมา
จึงลงทุนควักกระเป๋าตั้งศูนย์ฝึกอบรม
แรกเริ่มเดิมทีก็ตั้งใจทำให้เป็นโรงเรียนสำหรับสอนหุ่นยนต์โดยเฉพาะ ชื่อ
Thinkwell Robotics and Computer Center เปิดที่เชียงใหม่
เราต้องการให้นักเรียน Think for themselves คือ คิดด้วยตนเอง
สร้างสิ่งที่ฝันให้เป็นจริง ไม่จำกัดความรู้ไว้ในกรอบ
"การสอนในนักเรียนเข้าใจ
มีเด็กเล็ก 7-8 ขวบ เรียนแล้วทำได้ เราทำสำเร็จก็มีความสุข ทำเพราะใจรัก
อยากทำ เพราะการสอนของเรานั้นต้องการให้เด็กๆ ทำเป็นตั้งแต่เริ่มต้น
ไม่เน้นให้ซื้อชุดสำเร็จมาใช้งาน อย่างน้อยต้องรู้จักอุปกรณ์แต่ละชิ้น
ลงอุปกรณ์เองได้ บัดกรีเอง ทำอะไรเอง
ซึ่งคนส่วนใหญ่มองว่ายุ่งยากและอันตราย
ความจริงต้องเริ่มให้เด็กได้เรียนรู้อย่างถูกวิธีเสียแต่ตอนนี้
"การเรียนรู้เกี่ยวกับหุ่นยนต์นี้
เป็นการเชื่อมโยงศาสตร์ต่างๆ อาทิ กลศาสตร์ อิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์
เข้าด้วยกัน ผสมกับความคิดและจินตนาการที่ดี ทำให้เด็กที่เคยทำได้ GOOD
เปลี่ยนเป็น GREAT หุ่นยนต์เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์
การเรียนรู้ต้องอาศัยการพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่อง
จะช่วยให้ผู้ศึกษาได้เรียนรู้และพัฒนาความรู้ในด้านวิทยาศาสตร์
ทักษะด้านเทคโนโลยี และความสนใจ
ทั้งช่วยเสริมสร้างให้เกิดความมั่นใจในตัวเอง
ความเป็นผู้นำที่สำคัญเป็นทักษะชีวิตที่ยั่งยืน
แน่นอนว่าบุคคลเหล่านี้จะเป็นตัวแปรสำคัญ
เป็นกำลังคนที่จำเป็นในการพัฒนาสังคมและประเทศชาติต่อไป
"ได้ร่วมมือกับทางซิป้า
ถือว่าเป็นการสนับสนุนจากภาครัฐ
เมื่อผู้ใหญ่เห็นความสำคัญของการสร้างทักษะแบบยั่งยืน
และมองว่าสามารถพัฒนาเยาวชนให้มีความรู้ด้านนี้โดยจุดประกายให้สังคม เป็น
Big Impact
จะทำให้ทุกคนหันมาให้ความสนใจและเริ่มศึกษาหาความรู้อย่างจริงจัง
"SIPA
หรือ สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ
ชื่อแสดงเจตนาอันแน่ชัดที่จะส่งเสริมด้านอุตสาหกรรมซอฟท์แวร์ของชาติ
หากมองถึงเรื่องหุ่นยนต์ อีกนัยคือ Embedded Technology
ซึ่งจะมีการเขียนโปรแกรมเพื่อควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ
ถ้าเริ่มส่งเสริมตั้งแต่เด็ก กระตุ้นให้เด็กมีความสนใจ
จากหุ่นยนต์ในรูปแบบของ Mobile Robot ตัวเล็กๆ ที่เราจะอบรม
สักวันต้องมีการพัฒนาไปจนถึงการเขียนซอฟต์แวร์เพื่อควบคุมอุปกรณ์ใน
ระดับโรงงานอุตสาหกรรม
หรือใช้ในส่วนงานอื่นๆ ของประเทศ ทุกส่วนของการดำเนินชีวิตก็เป็นได้
การนำหุ่นยนต์ตัวเล็กๆ เป็นจุดเริ่มต้นนี้เพื่อเป็นการจุดประกายความคิด
และดึงดูดความสนใจจากเด็กๆ
"ผู้ร่วมอบรมจะนำประโยชน์ไปใช้ได้แน่นอน
ส่วนของเด็ก เรากำลังสร้าง Model Super Hero
ให้เด็กเห็นว่าการเรียนด้านวิทยาศาสตร์-เทคโนโลยี
คณิตศาสตร์นำมาใช้ประโยชน์ได้จริง และมีสาขาอาชีพมากกว่าที่ตัวเด็กเคยคิด
หากทำได้วันหนึ่งข้างหน้า เราจะไม่ขาดบุคลากรสาขานี้แน่นอน
เด็กจะมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น กล้าพูดกล้าแสดงออก มีความเป็นผู้นำ
สำคัญกล้าจะคิด ทำ และลองในสิ่งที่ถูกต้อง
"สำหรับผู้ใหญ่ในวัยเกินเกษียณ
การศึกษาเกี่ยวกับเทคโนโลยีเป็นการเปิดวิสัยทัศน์ และ tuning
ความคิดของผู้ใหญ่และเด็กให้ตรงกันมากขึ้น
เมื่อผู้ใหญ่เข้าใจถึงความจำเป็นของวิทยาศาสตร์-เทคโนโลยีแล้ว
การดูแลเด็กจะเป็นไปอย่างเข้าอกเข้าใจมากขึ้น
จากเดิมเห็นหลานนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ก็ต้องรีบไล่ให้เข้านอน
คิดแต่ว่าเด็กกำลังตกเป็นเหยื่อของเทคโนโลยี หากลองไปนั่งดู
และพูดคุยอาจพบว่า เด็กกำลังพัฒนาชิ้นงานบนคอมพิวเตอร์ที่นั่งเล่นเกม
อาจเป็นแนวทางในการเขียนเกมเพื่อเล่นเอง
หากเข้าใจจะสามารถให้คำแนะนำเด็กได้อย่างถูกต้อง ถูกวิธี
ทั้งช่วยตัดสินใจได้อย่างถูกต้องและแม่นยำเพราะมีข้อมูลและความรู้เบื้องต้นแล้ว"
ที่มา-