โรงเรียนแห่งหนึ่งในบัคกิงแฮมเชียร์ อังกฤษ
ตัดสินใจยกเลิกการเชื่อมต่อไร้สายบางส่วน
หลังจากครูคนหนึ่งมีอาการปวดศีรษะและคลื่นไส้
สมาคมวิชาชีพครูในอังกฤษทำจดหมายร้องเรียนไปยังอลัน จอห์นสัน
รัฐมนตรีศึกษาธิการ
เรียกร้องให้มีการตรวจสอบผลกระทบจากเทคโนโลยีไร้สายที่ติดตั้งในห้องเรียนทั่วประเทศ
ข้อกังวลดังกล่าวได้รับการขานรับโดยเซอร์วิลเลียม สจ๊วร์ต
ประธานสำนักงานปกป้องสุขภาพ และอดีตที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ของรัฐบาล
ที่ปัจจุบันเป็นประธานโครงการตรวจสอบอันตรายจากโทรศัพท์มือถือ
ทั้งนี้ เทคโนโลยีไร้สาย หรือไว-ไฟ
ใช้อุปกรณ์ถ่ายทอดสัญญาณขนาดเล็กเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์แลปท็อปกับอินเทอร์เน็ตโดยไม่ต้องใช้สายเคเบิล
นอกจากติดตั้งอยู่ในโรงเรียนมัธยมกว่า 80%
และกว่าครึ่งของโรงเรียนประถมในอังกฤษแล้ว
ระบบไว-ไฟยังติดตั้งอยู่ทั่วไปตามร้านกาแฟ โรงแรม และเลานจ์ในสนามบิน
และกลายเป็นอุปกรณ์สำคัญในครัวเรือนนับล้าน ซึ่งทำให้เกิด
'หมอกควันอิเล็กทรอนิกส์' ปกคลุมไปทั่ว
และอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของผู้ใช้โดยเฉพาะเด็ก
นักเคลื่อนไหวอ้างว่า
ระบบสัญญาณไมโครเวฟที่ปล่อยออกมาจากอุปกรณ์ส่งสัญญาณแบบไร้สายเทียบได้กับที่ปล่อยจาก
เสาอากาศโทรศัพท์มือถือ
และว่า
มีการศึกษาวิจัยถึงผลข้างเคียงของเทคโนโลยีนี้น้อยมาก
ปัญหาจากไว-ไฟที่พบในขณะนี้ครอบคลุมถึงอาการปวดศีรษะ
และการขาดสมาธิ นักวิจัยบางคนยังกลัวว่า ไว-ไฟอาจเป็นสาเหตุของมะเร็ง
การแก่ก่อนวัย โดยเฉพาะสำหรับเด็กที่สมองและร่างกายยังอยู่ในกระบวนการพัฒนา
อลาสแดร์ ฟิลิปส์ จากกลุ่มเพาเวอร์วอตช์
เชื่อว่ารังสีจากเครือข่ายไร้สายเป็นสาเหตุส่วนหนึ่งของการระบาดของโรคสมาธิสั้นในเด็กในปัจจุบัน
และว่าการนั่งในห้องเรียนที่ติดตั้งระบบไว-ไฟไม่ต่างอะไรกับการนั่งอยู่ภายในรัศมี
330 ฟุตจากเสาอากาศของโทรศัพท์มือถือ