พื้นที่ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นบริเวณก้นทะเลสาบของชิลี

ซานติอาโก- คณะนักธรณีวิทยา เร่งหาสาเหตุน้ำในทะเลสาบขนาด 12.5 ไร่ แห้งหายอย่างไร้ร่องรอยในเวลาเพียงไม่กี่เดือน สันนิษฐานเบื้องต้นเกิดจากแผ่นดินไหว สูบน้ำลงใต้ดินหมด

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : สำนักข่าวดีพีเอ รายงานว่า คณะนักธรณีวิทยาในชิลี กำลังเร่งค้นหาสาเหตุที่ทำให้ทะเลสาบใหญ่ขนาด 12.5 ไร่ ที่เขตแมกกัลลันส์ ห่างจากกรุงซานติอาโก ไปทางใต้ราว 2,000 กิโลเมตร ซึ่งเคยปกคลุมด้วยธารน้ำแข็งกลายเป็นแอ่งว่างเปล่าปราศจากน้ำไปอย่างฉับพลัน

เจ้าหน้าที่ดูแลอุทยานเผยว่า ระหว่างไปสำรวจทะเลสาบแห่งนี้เมื่อเดือนมีนาคม
ยังเห็นทะเลสาบมีน้ำตามปกติ แต่เมื่อไปสำรวจเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
ทุกคนต่างแปลกใจไปตามๆกัน เมื่อเห็นทะเลสาบกลายสภาพเป็นแอ่งขรุขระขนาดใหญ่
น้ำเหือดแห้งไปหมด มีเพียงก้อนน้ำแข็งจำนวนมากนอนก้นอยู่ จากเดิมที่ลอยอยู่บนผิวน้ำ

ผู้เชี่ยวชาญบางกลุ่มตั้งทฤษฎีว่าอาจเกิดจากแผ่นดินไหวใหญ่บริเวณทะเลสาบแห่งนี้ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ที่เกิดแผ่นดินไหวบ่อย โดยเมื่อเดือนเมษายน เพิ่งเกิดแผ่นดินไหว
ที่เขตไอยเซน ที่อยู่ใกล้เคียง ทำให้พื้นทะเลสาบเกิดรอยแยกขนาดใหญ่สูบน้ำลงใต้ดินจนหมด เนื่องจากเห็นรอยแยกขนาดใหญ่

อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญด้านธารน้ำแข็งให้ความเห็นว่า การที่น้ำในทะเลสาบเหือดแห้งไปน่าจะเป็นเพราะพื้นที่บริเวณนั้น
กำลังอยู่ในกระบวนการปรับเปลี่ยนทางภูมิทัศน์
เพราะทะเลสาบแห่งนี้เพิ่งเกิดใหม่ มีอายุไม่ถึง 30 ปี
 
 
 
 
 
 
ที่มา- 

 
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages//2007-06-22-1.html
เมื่อ 5 กรกฎาคม 2567 12:14
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv