เอเจนซี ในอนาคตควันพิษจากท้องถนนอาจหายไปหรือถูกทำให้เบาบางลงด้วยเทคโนโลยีกรีนบ็อกซ์ ขณะที่บริษัทยักษ์ใหญ่และสถาบันที่พรั่งพร้อมด้วยมันสมองระดับหัวกะทิทั่วโลก ใช้เงินเป็นพันล้านเพื่อหาทางแก้ปัญหาการแพร่กระจายก๊าซคาร์บอน ก๊วนตกปลาในเวลส์ที่ประกอบด้วยเพื่อนสนิท 3 คนและทุนรอนก้อนย่อมๆ กลับประกาศว่าค้นพบจอกศักดิ์สิทธิ์สำหรับสิ่งแวดล้อมแล้ว
       
        คนกลุ่มนี้พัฒนากล่องที่สามารถติดตั้งใต้รถยนต์บริเวณท่อไอเสีย เพื่อกักเก็บก๊าซเรือนกระจก ตัวการของภาวะโลกร้อน ซึ่งรวมถึงก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และไนตรัสออกไซด์ และทำให้ท่อไอเสียปล่อยออกมาเพียงไอน้ำเท่านั้น
       
        ที่สำคัญ ก๊าซที่ถูกกักเก็บยังสามารถถูกนำไปเข้ากระบวนการสร้างเชื้อเพลิงชีวภาพ
โดยใช้สาหร่ายตัดต่อพันธุกรรม (GMOs)
       
        เทคโนโลยี "กรีนบ็อกซ์" นี้พัฒนาโดยนักเคมีอินทรีย์ ดีเร็ก ปาล์มเมอร์ กับสองวิศวกร เอียน ฮูสตัน และจอห์น โจนส์ และสามารถนำไปใช้กับรถยนต์ รถบัส รถบรรทุก หรือกระทั่งอาคารและอุตสาหกรรมหนัก ซึ่งรวมถึงโรงไฟฟ้า
       
        “เราสามารถพัฒนาวิธีการกักเก็บก๊าซส่วนใหญ่ที่แพร่กระจายออกมาจาก
ยานยนต์ที่สกปรกที่สุดเท่าที่เราพบ” ปาล์มเมอร์ ที่ให้คำปรึกษาให้กับองค์กรต่างๆ อาทิ องค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) และแกล็กโซสมิทไคลน์ บอก
       
        ทั้งสามที่พบกุญแจสำคัญโดยบังเอิญหลังจากทดลองใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์กระตุ้น
การเจริญเติบโตของสาหร่ายสำหรับฟาร์มเลี้ยงปลา ร่วมกันตั้งบริษัทชื่อว่า “Maes Anturio Limited” ในภาษาเวลส์ ซึ่งแปลเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า “ฟิลด์ แอดเวนเจอร์”
       
        ด้วยการสนับสนุนจากสมาชิกสภาท้องถิ่น ขณะนี้ก๊วนตกปลาเพื่อนสนิทกำลังหาทุนพิเศษจากภาครัฐและเอกชน โดยทั้งสามบอกว่า การแพร่กระจายจากแหล่งเดียวที่พวกเขาไม่มั่นใจว่ากรีนบ็อกซ์จะจัดการได้คือ จากเครื่องบิน
       
        แม้กรีนบ็อกซ์ที่นำออกแสดงในขณะนี้ยังมีขนาดใหญ่ แต่ทั้งสามเชื่อว่า จะสามารถย่อขนาดให้เล็กลงเพื่อติดตั้งแทนท่อไอเสียรถยนต์ในอนาคต
       
        ประเด็นสำคัญของเทคโนโลยีนี้คือ การกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ในสภาพที่ปลอดภัย ขณะที่เทคโนโลยีอื่นซับซ้อนหรือไม่ก็ใช้พลังงานสิ้นเปลือง เช่น ใช้ท่อส่งก๊าซยาวเป็นไมล์ เป็นต้น
       
        “คาร์บอนไดออกไซด์จะถูกกักเก็บในรูปก๊าซเฉื่อย และถูกส่งออกสู่สภาพแวดล้อมภายใต้การควบคุมโดยที่ใช้พลังงานเพียงเล็กน้อยเท่านั้น” ฮูสตันอวดอ้างสรรพคุณ ขณะสาธิตกรีนบ็อกซ์กับเครื่องปั่นไฟที่ใช้น้ำมันดีเซล
ภายในศูนย์ทดสอบการแพร่กระจายก๊าซของกระทรวงคมนาคมอังกฤษ
       
        ทั้งนี้ หากเทคโนโลยีนี้ได้รับการต้อนรับ จะมีการติดตั้งกรีนบ็อกซ์หลังจากผู้ใช้เติมน้ำมันรถ และเริ่มต้นปฏิกิริยาชีวภาพเพื่อทำให้กรีนบ็อกซ์ว่างเปล่า กล่าวคือ ก๊าซที่ถูกกักเก็บจากการปล่อยไอเสียจะผ่านปฏิกิริยาเคมีเพื่อนำไปเลี้ยงสาหร่าย จากนั้นสาหร่ายจะถูกย่อยสลายกลายเป็นเชื้อเพลิงชีวภาพที่มีประสิทธิภาพ
เกือบเทียบเท่าน้ำมันดีเซลปกติ และไบโอดีเซลที่ได้จะถูกส่งกลับเข้าสู่เครื่องยนต์ดีเซล และเมื่อกรีนบ็อกซ์ว่างเปล่า กระบวนการนี้ก็จะเริ่มต้นอีกครั้ง
       
        ภายในกระบวนการที่ว่ายังทำให้เกิดก๊าซมีเทนและปุ๋ย โดยกรีนบ็อกซ์จะคัดแยกทั้ง 2 ส่วนออกจากกัน
       
        ในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา มีการทดสอบไปแล้วกว่า 130 ครั้งในศูนย์ทดสอบขององค์กรต่างๆ ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่า กรีนบ็อกซ์มีอัตราการกักเก็บก๊าซพิษถึง 85-95% ทั้งสามนำเสนอเทคโนโลยีนี้ต่อเดวิด แฮนเซน สมาชิกพรรคแรงงานจากเดลีน,นอร์ธเวลส์ ซึ่งให้การสนับสนุนกรีนบ็อกซ์นับแต่นั้นเป็นต้นมา
       
        “จากข้อมูล กรีนบ็อกซ์สามารถลดการแพร่กระจายก๊าซเรือนกระจกได้จริง ผมเลยวิ่งเต้นเข้าออกหน่วยงานสำคัญๆ ของรัฐบาลอังกฤษ เพื่อให้มั่นใจว่าอังกฤษจะเป็นเจ้าของและผู้ผลิตนวัตกรรมนี้”
       
        ทีมผู้สร้างกรีนบ็อกซ์ยังติดต่อกับค่ายรถ อาทิ โตโยต้า มอเตอร์ของญี่ปุ่น และเจนเนอรัล มอเตอร์สของสหรัฐฯ รวมถึงได้รับข้อเสนอดีๆ จากบริษัทเอเชียอีกหลายแห่ง
       
        ทั้งสามประเมินว่าจะต้องสร้างโรงงาน 10 แห่งทั่วสหราชอาณาจักร เพื่อจัดการกับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยออกมาจากรถยนต์เกือบ 30 ล้านคันในเมืองผู้ดี
       
        ทีมนักประดิษฐ์ยังเผยว่า ตลอด 2 ปีมานี้ใช้เงินไป 348,500 ดอลลาร์ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยี 3 ส่วนที่ประกอบกันเป็นกรีนบ็อกซ์ และหวังว่าจะสามารถระดมทุนมาใช้ในการทดสอบด้านความปลอดภัยต่อไป
       
        สิ่งที่ไม่น่าแปลกใจจนนิดเดียวคือ ทั้งสามไม่ยอมแพร่งพรายว่ามีอะไรอยู่ใน “กล่องเขียว” แม้แต่กับภรรยา ทุกครั้งภายหลังการสาธิต พวกเขาจะนำชิ้นส่วนไปแยกเก็บไว้ตามสถานที่ต่างๆ ทั่วนอร์ธเวลส์ และแบ่งแยกเทคโนโลยีนี้ออกเป็น 3 ส่วน โดยผู้ที่ประดิษฐ์แต่ละส่วนจะเป็นผู้ดูแลความลับของนวัตกรรมของตัวเอง
       
        “เราสามคนถือกุญแจกันคนละดอก และเราจะเปิดล็อกได้ก็ต่อเมื่อเราทั้ง 3 คนเอากุญแจทั้งหมดมาช่วยกันไขเท่านั้น”
 
 
 
 
 
 
 
ที่มา-
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages//2007-07-27-2.html
เมื่อ 5 กรกฎาคม 2567 14:21
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv