นพ.ณรงค์
สหเมธาพัฒน์ รักษาการผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข
ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าว เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ว่าในวันที่
31 สิงหาคม จะประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ที่รัฐสภา
ในประเด็นหัวใจของร่างฯคือ มาตรา 31
ว่าด้วยเรื่องการห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสื่อวิทยุ โทรทัศน์
ทุกรูปแบบตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงมาตรา 32
ห้ามนำตราสินค้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปติดในสินค้าอื่นๆ อาทิ ร่ม หมวก
แก้วน้ำ คาดว่าการพิจารณาจะเสร็จสิ้นภายในเดือนกันยายนนี้
และจะเสนอเข้าสภาเพื่อบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไปนายสงกรานต์ ภาคโชคดี เครือข่ายองค์กรงดเหล้า กล่าวว่า ขณะนี้มีสัญญาณบางอย่างว่า กลุ่มนายทุนผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กำลังจะชนะพลังประชาชน มาตรการห้ามโฆษณาเหล้าทุกสื่อทุกรูปแบบ จะถูกล้มเลิก เพราะ สนช.บางกลุ่มใน กมธ. กระทำตนเป็นตัวแทนกลุ่มธุรกิจ ในวันที่ 31 สิงหาคม ตั้งแต่เวลา 13.30 น. ขอเชิญชวนประชาชน 13 ล้านเสียง ที่ลงนามสนับสนุนร่างฯ ไปแสดงพลังที่หน้ารัฐสภา ไปถาม กมธ.ที่เป็นตัวแทนประชาชนคิดจะทำอะไรเพื่อปกป้องเยาวชนไทยหรือไม่ หรือจะยืนข้างบริษัทเหล้าจนนาทีสุดท้าย
อนึ่ง กมธ.ที่มาจาก สนช. อาทิ นายประพันธ์ คูณมี นางสุรางค์ เปรมปรีดิ์ นางประภา เหตระกูล นายสำราญ รอดเพชร ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ และนายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ เป็นต้น
แหล่งข่าวจากเอเย่นต์สุราขาวของบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด เปิดเผยว่า ภายใน 2-3 วันนี้ บริษัทจะแจ้งราคาสินค้าที่ปรับเพิ่มให้เอเย่นต์ทั่วประเทศทราบ ระหว่างนี้เอเย่นต์ต้องจำหน่ายสินค้าในราคาเดิมที่มีอยู่ในสต๊อคไปก่อน ส่วนร้านค้าปลีก ส่วนใหญ่ปรับเพิ่มราคาขายปลีกสุราขาว 28, 35 และ 40 ดีกรี เฉลี่ยขวดละ 9 บาทไปแล้ว หลังจากนี้ต้องจับตาวิธีการขายสินค้าว่าจะปรับเปลี่ยนการพ่วงสินค้าเบียร์ช้าง เบียร์อาชา พ่วงกับเหล้าขาว เพื่อชดเชยราคาสินค้าที่ปรับเพิ่มขึ้นหรือไม่ นอกจากนี้ เบียร์ราคาถูกอย่างอาชาน่าจะขายดีขึ้น เพราะจำหน่ายราคา 5 ขวด 100 บาท
นายภานุวัธน์ วงศ์ศรีพิสันต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพอร์นอต ริคาร์ด (ประเทศไทย) จำกัด เห็นด้วยกับการปรับภาษีแบบค่อยขยับเพดานเพิ่มขึ้นเพื่อให้อุตสาหกรรมปรับตัวได้ แต่หากปรับเพิ่มภาษีครั้งเดียวเต็มเพดานจะกระทบกับอุตสาหกรรม การที่ภาษีเหล้าขาวเพิ่มขึ้นเชื่อว่าจะส่งผลกระทบกับตลาดเหล้าในครึ่งปีหลัง เพราะเหล้าขาวเป็นตลาดใหญ่ มีมูลค่าตลาดรวมสูงถึง 50,000-60,000 ล้านบาท
นายชัยโรจน์ ตรีภพ สรรพสามิตพื้นที่บุรีรัมย์ กล่าวว่า ปี 2542 จังหวัดมีผู้ผลิตสุรากลั่นและสุราแช่พื้นบ้านขอจดทะเบียนกว่า 200 ราย ปัจจุบันเหลือสุรากลั่น 20 ราย สุราแช่พื้นบ้าน 11 ราย เนื่องจากไม่สามารถแข่งขันกับรายใหญ่ได้
ที่มา-