บรรดาผู้ผลิตข้าวโพดคั่วหรือป๊อบคอร์นสำหรับไมโครเวฟในสหรัฐอเมริกา เตรียมหยุดใช้สารไดอะซิติลในป๊อบคอร์น หลังพบว่ามีชายอย่างน้อย 1 คนที่กินข้าวโพดคั่วไมโครเวฟทุกวันจนล้มป่วยเป็นโรคปอดและอันตรายถึงชีวิต เหมือนกับที่คนงานในโรงงานข้าวโพดคั่วเป็นมาก่อน โดยนายไมเคิล เฮิร์นดอน โฆษกของสำนักงานอาหารและยา (เอฟดีเอ) ของสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า ทางเอฟดีเอกำลังประเมินข้อมูลที่ได้รับมาว่าสูดดมสารไดอะซิติล
จะส่งผลอะไรกับโรคปอดหรือไม่

ด้านนางสเตฟานี ไชล์ด โฆษกหญิงของบริษัท คอนอักรา ฟู้ดส์ อิงค์ ผู้ผลิตป๊อบคอร์นไมโครเวฟยี่ห้อออร์วิลล์ รีเดนเบเคอร์ และ แอคต์ ทู เปิดเผยเมื่อวันที่ 5 กันยายนว่า ทางบริษัทจะหยุดการใส่สารไดอะซิติลในป๊อบคอร์นรสเนยในเร็วๆ นี้ เพื่อความปลอดภัยของพนักงานบริษัท และได้ตัดสินใจจัดหาสถานที่ทำงานที่ปลอดภัยกับพนักงานแล้ว แต่สิ่งที่น่ากังวลกว่านั้นคือเรื่องความปลอดภัยของผู้บริโภค

เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา บริษัท วีฟเวอร์ ป๊อบคอร์น โค อิงค์ ผู้ผลิตป๊อบคอร์นไมโครเวฟ ยี่ห้อ ป๊อบ วีฟเวอร์ ได้สั่งยกเลิกการผสมสารไดอะซิติลลงไปในป๊อบคอร์นไมโครเวฟของบริษัทแล้ว หลังจากมีผู้บริโภคเป็นกังวลต่อเรื่องส่วนผสมของป๊อบคอร์น

สำหรับกรณีพบชายที่ป่วยเป็นโรคปอดหลังกินป๊อบคอร์นไมโครเวฟเป็นประจำนั้น แพทย์หญิงเซซีล โรส แห่งศูนย์วิจัยการแพทย์ยิว ในเมืองเดนเวอร์ รัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า ผู้ป่วยล้มป่วยลงหลังจากกินป๊อบคอร์นไมโครเวฟวันละหลายๆ ถุงเป็นเวลาติดต่อกันหลายปี ก่อนจะเกิดอาการระบบหายใจติดขัด ซึ่งเหมือนกับอาการของคนงานที่สูดดมสารไดอะซิติลเข้าไประหว่างการทำงาน

ทั้งนี้ สารไดอะซิติลจะไปทำให้รสชาติของเนยมีเพิ่มมากขึ้น และเป็นที่รู้กันมานานว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับโรคปอดที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยๆ แต่จะพบในคนงานของโรงงานป๊อบคอร์นสำหรับไมโครเวฟ โดยเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (ซีดีซี) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า คนงานของโรงงานหลายแห่งที่ผลิตอาหารที่มีกลิ่น เช่น โรงงานป๊อบคอร์น เสี่ยงที่จะติดโรคที่รักษาให้หายได้ยาก ซึ่งจะทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่นไอ หายใจติดขัด และแย่ลงเรื่อยๆ (รอยเตอร์/เอพี)

บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages//2007-09-07-2.html
เมื่อ 26 กรกฎาคม 2567 11:21
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv