ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เปิดเผยว่า ทัศนคติของผู้ปกครอง
มีส่วนต่อการพัฒนาเด็กและเยาวชน ทั้งนี้พบว่า ผู้ปกครองในเขตกรุงเทพฯ
มีส่วนในการพัฒนาทางด้านความรู้และการศึกษาของนักเรียน
โดยเฉพาะการส่งเสริมการเรียนกวดวิชา
ซึ่งกลายเป็นสิ่งปกติของนักเรียนในกรุงเทพฯไปแล้ว
แต่ในขณะเดียวกันแม้ว่าผู้ปกครองต้องการให้เด็กมีความรู้เพื่อการแข่งขันได้แล้ว
สิ่งสำคัญมากไปกว่านั้น คือ
ผู้ปกครองต้องการให้เด็กเป็นคนดีมากกว่าการเป็นคนเก่ง
และยอมรับในความอ่อนด้อยทาง
การศึกษาของบุตรว่ามาจากปัญหาเกี่ยวกับความตั้งใจของนักเรียนเองมากกว่าปัญหาอื่น
จากการสำรวจความคิดเห็นผู้ปกครองนักเรียนมัธยมต้นในหัวข้อ
“คุณภาพการศึกษาของเด็กในสายตาผู้ปกครอง” โดยสอบ
ถามจากผู้ปกครองในเขตกรุงเทพฯ จำนวน 1,394 คน จากทุกระดับการศึกษา อาชีพ
และอายุ ระหว่างวันที่ 16-17 กันยายน 2550 พบว่า
ความคิดเห็นเกี่ยวกับบทบาทของสถาบันในการพัฒนาคุณภาพของนักเรียน 51.9%
คิดว่าเป็นหน้าที่หลักของครอบครัว 36.9% คิดว่าเป็นหน้าที่ของโรงเรียน
และ11.2% คิดว่าเป็นหน้าที่ของรัฐบาล
และเมื่อสอบถามถึงการเพิ่มคุณวุฒิและเพิ่มเงินเดือนครูแล้วจะทำให้คุณภาพการสอนของครูดีขึ้นหรือไม่
40.4% เห็นว่าดีขึ้น 35.5% เห็นว่าไม่ดีขึ้น และ 24.1%
ไม่แน่ใจสำหรับความคิดเห็นเกี่ยวกับคุณภาพโดยรวมของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาในเขต
กทม. ผู้ปกครองให้คะแนนในแต่ละด้านจากคะแนนเต็ม 10 ดังนี้ ด้านวิชาการให้
7.68 คะแนน ด้านจริยธรรมและความรับผิดชอบต่อตนเองให้ 6.88
คะแนนเท่ากับด้านความเพียรให้ 6.78 คะแนน ด้านการคิดเป็น แก้ปัญหาเป็นให้
6.76 คะแนน ด้านความอดทนให้ 6.62 คะแนน และด้านความรับผิดชอบต่อสังคมให้
6.60 คะแนน
เมื่อถามถึงคุณสมบัติของบุตรหลานที่ต้องการถ้าสามารถเลือกได้นั้น
ผู้ปกครอง 91.5% ขอให้เป็นคนดีแต่อาจไม่ต้องเก่งมาก และ 8.5%
ขอให้เป็นคนเก่งแต่อาจจะไม่ค่อยดีบ้าง
ส่วนการสนับสนุนส่งเสริมให้บุตรหลานกวดวิชานั้น ผู้ปกครอง 68.3% สนับสนุน
โดยมีเหตุผลสำคัญที่สุดคือ
กลัวบุตรหลานสอบเข้าเรียนในสถาบันที่ต้องการไม่ได้ 37.5% ระบุว่า
สนับสนุนเพราะคิดว่าความรู้ที่ได้ในห้อง เรียนไม่เพียงพอ ส่วน 29%
สนับสนุนเพราะกลัวบุตรหลานเรียนไม่ทันเพื่อน และ 15.6%
สนับสนุนเพราะบุตรหลานร้องขอเรียนเพิ่มเติม ส่วนอีก 5%
สนับสนุนเพราะไม่มีเวลาดูแลบุตรหลาน
และอุปสรรคที่อาจจะมาสกัดกั้นการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของบุตรหลานให้ไม่ดีเท่าที่ควรนั้น
ผู้ปกครองนักเรียนในเขตกทม.
22.7% คิดว่าเป็นเพราะความไม่ตั้งใจเรียน 22.0%
คิดว่าเป็นเพราะคบเพื่อนไม่ดี 16.9% คิดว่าเป็นเพราะมีคู่รักก่อนวัยอันควร
15.9% คิดว่าเป็นเพราะการติดเกมออนไลน์
12.1%คิดว่าเป็นเพราะคุณภาพครูไม่ดี 8.2% คิดว่าเป็นเพราะติดการพนัน และ
2.0% คิดว่าเป็นเพราะต้องช่วยครอบครัวทำงาน