ภาพจำลองแถบฝุ่นที่หมุนวนอยู่รอบดาวฤกษ์ HD 113766 ซึ่งนักดาราศาสตร์เชื่อว่ากำลังจะรวมตัวกันเกิดเป็นดาวเคราะห์คล้ายโลกดวงใหม่
สเปซด็อทคอม/เอเอฟพี – วงการดาราศาสตร์ตื่นเต้นอีกครั้งเมื่อสามารถจับภาพกลุ่มก๊าซและฝุ่นละอองในอวกาศ
ที่กำลังก่อตัวเป็นดาวเคราะห์ดวงใหม่อยู่ในระบบสุริยะที่มีร่องรอยเอื้อต่อสิ่งมีชีวิต
เชื่ออาจเป็นโลกใบใหม่ขนาดเท่าดาวอังคาร
กล้องโทรทรรศน์อวกาศสปิตเซอร์ (Spitzer Space Telescope) ของ
องค์การบริหารการบินอวกาศสหรัฐฯ (นาซา) สามารถจับภาพ
ฝุ่นและละอองก๊าซที่อยู่รวมกันเป็นแถบขนาดใหญ่ และกำลังหมุนวนรอบดาวฤกษ์อายุน้อย เอชดี 113766 (HD 113766) ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าดวงอาทิตย์ของเราเพียงเล็กน้อย
อยู่ห่างออกไป 424 ปีแสง นักวิทย์คาด ดาวเคราะห์ดวงใหม่กำลังจะถือกำเนิดขึ้นแล้ว และน่าจะเป็นที่สิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ได้
แถบก๊าซและฝุ่นละอองที่พบ อยู่ใจกลางของบริเวณที่เอื้อต่อสิ่งมีชีวิต (habitable zone) ในระบบสุริยะนั้น ซึ่ง
มีอุณหภูมิที่สามารถทำให้น้ำอยู่ในสถานะของเหลวได้
และนักดาราศาสตร์ก็ตั้งข้อสังเกตว่า
มันกำลังก่อตัวรวมกันเป็นดาวเคราะห์ดวงใหม่ และจากการคาดคะเน
แถบฝุ่นนั้นน่าจะมีองค์ประกอบมากพอจน
สามารถก่อตัวขึ้นเป็นดาวเคราะห์
ที่มีขนาดใกล้เคียงกับดาวอังคารได้เลยทีเดียว
"ช่วงเวลาของระบบสุริยะเหมาะสมมากทีเดียวที่โลกใบใหม่จะถูกสร้างขึ้น"
คาเรย์ ลิสซี (Carey Lisse) จากห้องปฏิบัติการฟิสิกส์ประยุกต์
มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอพกินส์ (
Johns Hopkins University Applied Physics Laboratory) เมืองบัลติมอร์ รัฐแมรีแลนด์ สหรัฐฯ สมาชิกในทีมที่ศึกษากำเนิดของโลกใหม่กล่าว ซึ่งจากการค้นคว้า พวกเขาประมาณการกันว่า
ดาวฤกษ์เอชดี 113766 น่าจะมีอายุราว 10 ล้านปี ซึ่งเป็นช่วงอายุของดาวฤกษ์ที่เหมาะสมต่อการก่อตัวของดาวเคราะห์หิน ทั้งนี้รายละเอียดต่างๆ ทีมวิจัยได้รายงานไว้ในวารสารแอสโทรฟิสิคัล (
Astrophysical Journal)
ลิสซี อธิบายว่า ถ้าหากดาวฤกษ์ที่พบนั้นมีอายุน้อยเกินไป
ดาวเคราะห์ที่เกิดขึ้นใหม่จะเต็มไปด้วยก๊าซ
และอาจกลายเป็นดาวเคราะห์ก๊าซขนาดใหญ่อย่างดาวพฤหัสบดี
แต่หากดาวฤกษ์อายุมากเกินไปแล้ว
กล้องสปิตเตอร์ก็คงจะจับภาพดาวเคราะห์หินที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นได้ไปแล้ว
นอกจากนี้
ระบบสุริยะนั้นยังเต็มไปด้วยฝุ่นผงและองค์ประกอบที่อาจมารวมตัวกัน
แลัวกลายเป็นดาวเคราะห์ที่คล้ายโลกได้ด้วย
จากการคำนวณด้วยกล้องสปิตเตอร์ ลิสซี ขยายความว่า องค์ประกอบที่อยู่รอบๆ
ดาวฤกษ์เอชดี 113766
มีกระบวนการเปลี่ยนแปลงที่ดูเหมือนมาไกลกว่าระยะที่ปุยเมฆคล้ายหิมะอัดแน่นเข้าหากัน
และกำเนิดเป็นระบบสุริยะและดาวหางในระยะเริ่มต้น
ขณะเดียวกัน มันยังดูไม่เหมือนกับว่า องค์ประกอบต่างๆ
กำลังอัดแน่นเข้าหากัน
เหมือนอย่างที่พบอยู่ในกลุ่มดาวเคราะห์อายุมากและพวกอุกกาบาตทั้งหลาย
"องค์ประกอบผสมที่พบในแถบนั้นชวนให้นึกถึงสิ่งที่เหมือนกับลาวา
ที่ไหลออกมาจากใต้พื้นพิภพมากที่สุด
มันทำให้ผมคิดถึงสิ่งที่พวยพุ่งออกมาจากภูเขาไฟมัวนาเคีย (Mauna Kea)
บนเกาะฮาวาย ทันทีที่ผมเห็นส่วนประกอบของฝุ่นละอองในระบบสุริยะนั้น
ซึ่งมันเต็มไปด้วยหินและเหล็กซัลไฟด์ (iron sulfides) อีกมากมาย" ลิสซี
กล่าว ซึ่งสิ่งที่เขาพบนั้นดูเหมือนกับสภาพเมื่อ 100 ล้านปี
ก่อนที่ดาวเคราะห์ดวงนี้จะถือกำเนิดขึ้น และหากเป็นเช่นเดียวกับโลกของเรา
ต้องใช้เวลาอีกกว่า 1,000 ล้านปี กว่าที่ชีวิตแรกจะอุบัติขึ้น
และกว่าที่พัฒนาไปเป็นสิ่งมีชีวิตซับซ้อนก็ต้องอาศัยเวลาอีกนานหลายพันล้านปี
อย่างไรก็ดี ณ ขณะนี้นักดาราศาสตร์ค้นพบดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะ
(exoplanet) แล้วกว่า 250 ดวง และเกือบทั้งหมดก็มีระยะห่างจากดาวฤกษ์เท่าๆ
กับที่โลกห่างจากดวงอาทิตย์
แต่ส่วนมากมักเป็นดาวเคราะห์ก๊าซขนาดใหญ่อย่างดาวพฤหัสบดี
และเมื่อไม่นานมานี้ก็มีเรื่องฮือฮา
เมื่อทีมนักดาราศาสตร์ที่หอสังเกตการณ์ยุโรปตอนใต้ (European Southern
Observatory) ในประเทศชิลี ค้นพบดาวเคราะห์คล้ายโลกที่อยู่ห่างออกไปราว
20.5 ปีแสง มีร่องรอยเอื้อต่อสิ่งมีชีวิต
ทั้งอุณหภูมิและระยะห่างจากดวงอาทิตย์ทำให้น้ำอยู่ในสถานของเหลวได้ และอาจมีถึง 2 ดวงด้วยกัน คือ กลีส 581ซี (Gliese 581c) และ กลีส 581ดี (Gliese 581d) เป็นดาวบริวารของดาวฤกษ์กลีส 581 (Gliese 581) ที่อยู่ในกลุ่มดาวคันชั่ง
ที่มา-