“ทูน หิรัญทรัพย์” พระเอกรุ่นใหญ่
เปิดใจแถลงข่าวกรณีต้อกินตาบอดมองไม่เห็นกว่า 90%
เจ้าตัวยันรู้ตอนแรกเสียใจรับไม่ได้ แต่พยายามมองคนอื่นที่แย่กว่า
ย้ำยังใช้ชีวิตปกติรักษาตามอาการไม่ให้บอดสนิท
ซึ้งน้ำใจคนบันเทิงรู้ข่าวโทรศัพท์ถามอาการเพียบ
ด้านหมอบอกคนบันเทิงอัตราเสี่ยงเป็นโรคนี้สูงเพราะเจอแสงเยอะ
เปิดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับพระเอกรุ่นใหญ่ “ทูน
หิรัญทรัพย์” หรือ “โรเบิร์ต เซสมีเดซ”
หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับการสูญเสียการมองเห็นจากการเป็นโรคต้อหินชนิดเปิด
จึงทำให้พระเอกรุ่นใหญ่ชื่อดังสูญเสียการมองเห็นกว่า 90% ในดวงตาข้างขวา
และตาข้างซ้ายกำลังโดนโรคต้อหินลามเข้าไปอีกกว่า 10%
บ่ายวันนี้ (12 ) จึงได้มีการเปิดใจกับสื่อมวลชนอีกครั้ง ที่บริษัท
“property technology” ของตนเอง ย่านทาวน์อินทาวน์
โดยเผยถึงอาการล่าสุดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
แม้ว่าหมอจะบอกว่าไม่มีโอกาสรักษาหาย แค่สามารถบรรเทาอาการไม่ให้
ลุกลามจนถึงขั้นบอดสนิท ด้านเจ้าตัวบอกเคยท้อจนรับไม่ได้
แต่ก็พยายามมองคนที่แย่กว่า
“อาการตอนนี้ของผม
อยากให้ทุกคนนึกถึงภาพของลูกโป่งเปรียบเสมือนดวงตาของเรา
และมันก็เริ่มพองขึ้นเรื่อยๆ
ทำให้ตอนนี้มันบดบังเนื้อเยื่อบางส่วนของตาเราให้มันหายออกไป
ตอนนี้อาการผมเขาเรียกว่าเป็นโรคต้อหินเปิด
คือตอนนี้ส่วนของเนื้อเยื่อที่ตา มันหายไปแล้ว 90 %
และตอนนี้มันก็มืดไปเกือบหมดแล้ว คือเราให้เพียงบางส่วนเองเท่านั้น
ผมเป็นโรคต้อหินเปิดที่ตาขวา”
“ตอนนี้มันเลยในขั้นที่อยากจะผ่าตัดไปแล้ว มันกินไปกว่า 90 %
แล้วไง ตอนนี้ก็ใช้ได้เพียงกินยาและหยอดรักษาเท่านั้น
ยอมรับนะว่า
ตอนแรกๆก็ทำใจไม่ได้เหมือนกัน
แต่ก็มานั่งคิดว่าอาการที่เกิดขึ้นนี้
มันก็เป็นเพราะความผิดของตัวเราเองด้วย คือทุกครั้งเวลาเราไม่สบาย
เราไปหาหมอ หมอก็จะบอกทุกครั้งว่าให้เรากินยาและทานยาให้หมดตามที่หมอสั่ง
แต่เราจะเป็นโรคแบบว่าพอหายแล้วก็เลิกกิน
ตรงนี้อยากเตือนทุกคนเลยว่านิสัยแบบนี้ไม่ดีเลย”
“หมอบอกว่าโอกาสที่จะรักษาให้พี่ทุเลาน่ะพอได้
จะถ้าเดินจะให้หายขาดเลยคงไม่มีอีกแล้ว แต่กับโรคที่ผมเป็นนี้
ผมก็ไม่ได้รู้สึกท้ออะไรนะ
เพราะผมเชื่อว่าในโลกนี้ยังมีคนที่แย่กว่าเราอีกเยอะ
และพี่ก็ได้กำลังใจดีทั้งเพื่อนและพี่น้องในวงการและคนรอบข้าง
คนในวงการก็ดีนะรู้ข่าวก็รีบโทรมาให้กำลังใจกันเยอะแยะเลย
ก็ขอขอบคุณด้วยที่เขายังไม่ลืมเรา เช่นพี่ต้อย เศรษฐา, ป๋อง พิมพ์แข, เต๋า
สมชาย ,ตู่ นันทิดา ,อ้อย กาญจนา ต่าย เพ็ญพักตร์, พิสมัย วิไลศักดิ์ ก็มา
ขอบคุณมากๆ”
พระเอกรุ่นใหญ่เผยต่อว่าตนมีแม่และยายที่เป็นโรคนี้มาก่อนหน้านี้แล้ว
อาจจะเกิดจากกรรมพันธุ์
ด้านหมอบอกดารานักแสดงก็มีส่วนกับการเป็นโรคนี้เพราะโดนทั้งแสงไฟ
และแฟลชอีกทั้งคนที่นั่งหน้าคอมพิวเตอร์ตลอดยิ่งน่าเป็นห่วง
“โรคพี่เนี่ยเรียกว่าต้อหินเปิด หมอบอกว่ามันเกิดจากสาเหตุหลัก 3
กรณีนะ ก็คือ ซึ่งเลือดไปเลี้ยงตาไม่เพียงพอ
มันเกิดจากระบบเส้นประสาทตรงด้านหลังคอน่ะครับ
สองเกิดจากความเครียดที่เราเป็นโดยไม่รู้ตัว
สามอาจจะเป็นสาเหตุจากกรรมพันธุ์
คือตรงนี้ผมก็ได้ตรวจสอบไปแล้วว่าทางคุณยายและแม่ผมก็เคยเป็นโรคนี้มาเหมือนกัน”
“จริงๆแล้วหมอบอกว่างานด้านแสดงก็มีส่วนเหมือนกันกับโรคนี้
เพราะว่าเวลาที่เราแสดงเนี่ยเราต้องเจอทั้งแสงไฟ แสงแฟลชตลอดเวลา
อีกอย่างหนึ่งก็คือเรื่องเกี่ยวกับแสงจากคอมพิวเตอร์
ก็ทำให้เป็นโรคนี้ได้เหมือนกัน”
ก่อนจะฝากบอกแฟนละครให้ดูแลสุขภาพบอกเงินทองของนอกกาย ต้องตรวจสุขภาพ เตือนสุขภาพถ้าเสียไปแล้วก็ไม่สามารถเอากลับคืนมาได้
“
อยากบอกทุกคนว่าเงินทองของนอกกายหาเมื่อไหร่ก็หาได้
แต่สุขภาพน่ะถ้าเสียแล้ว
บางอย่างก็ไม่สามารถรักษาให้กลับมาหายเหมือนเดิมได้
ก็อยากให้ไปตรวจสุขภาพบ้างนะปีละครั้ง จะได้รู้ว่าเป็นอะไรบ้าง
ถ้าดื้อดึงนี่อาจจะกระทบไปส่วนอื่นเหมือนผมได้”
“สุดท้ายนี้ก็อยากฝากบอกแฟนๆละคร หนัง
นะครับว่าไม่ต้องเป็นห่วงอะไร ตาผมยังไม่ได้บอด
คือผมอยู่ในช่วงที่รักษาตัว ตอนนี้อาการผมก็ไม่ได้ปวดหรืออักเสบอะไรแล้ว
ก็ทำธุรกิจประจำวันได้เหมือนเดิม ก็แค่ใส่แว่น หยอดยาเท่านั้นเอง”
กับกระแสข่าวตาบอดทำให้ธุรกิจทรุดนั้น
พระเอกรุ่นใหญ่บอกไม่มีผลกระทบแต่อย่างใด เพราะตนยังทำงานได้ตามปกติ
แค่ไม่ได้รับงานในวงการมา 2 ปีแล้ว
“ เรื่องงานตอนนี้ผมก็ไม่ได้รับมาสองปีแล้ว
เรื่องกระทบบริษัทไม่มีนะ ตอนนี้ก็ทำงานแต่ในออฟฟิศ เปิดบริษัทจัดการตลาด
ทำในออฟฟิศอย่างเดียว และผมก็ทำงานเป็นตัวแทนอยู่ในมูลนิธิเมาไม่ขับ
เพื่อช่วยเหลือสังคมเขียนหนังสือพ็อกเก็ตบุ๊คส์