เอกชนไทยพัฒนาจีวรกันยุงอาบสมุนไพรที่ส่งกลิ่นยุงเกลียด
ทดสอบแล้วกันได้กว่า 90%
หวังลดจำนวนพระภิกษุเข้าโรงพยาบาลด้วยโรคไข้เลือดออกและมาลาเรีย
ตั้งเป้าต่อยอดเป็นชุดเครื่องแบบทหาร รปภ. ปฏิบัติหน้าที่เสี่ยงยุงกัด
นายวิศัลย์วนะศักดิ์ศรีสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท คัฟเวอร์ แนนท์ จำกัด
เปิดเผยว่า แนวคิดผลิตจีวรกันยุง เกิดขึ้นหลังจากลูกค้านั่งวิปัสสนาสนใจ
อยากให้ผลิตเป็นเสื้อขาวกันยุงสำหรับประกอบกิจกรรมทำสมาธิ วิปัสสนา
จีวรกันยุงใช้กระบวนการผลิตเดียวกับเสื้อนาโนกันยุงโดยนำน้ำมันจากสมุนไพรที่ส่งกลิ่นเป็นอริกันยุง
อาทิ ตะไคร้ ใบมะกรูด มาบดให้เป็นอณูขนาดเล็ก แล้วเคลือบลงบนเนื้อผ้า
ก่อนนำไปทดสอบประสิทธิภาพโดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
การทดสอบแบ่งเป็น3 ขั้นตอน ได้แก่ การทดสอบในกล่องขนาด 1x1 เมตร ที่มียุงอยู่
โดยนำผ้ากันยุงมาเย็บเป็นถุงมือสวมแล้วยื่นเข้าไปเปรียบเทียบกับที่ไม่ได้ใส่ถุงมือ
พบว่า กันยุงได้ประมาณ 90%
ขั้นตอนต่อมาเป็นการทดสอบสวมเสื้อผ้าที่เคลือบสมุนไพรกันยุง โดยนำอาสาสมัคร
ที่มีกรุ๊ปเลือดต่างกัน สีผิวต่างกันมานั่งในห้องซึ่งมียุงอยู่ พบว่า กันยุงได้กว่า 97%
สำหรับการทดลองสุดท้ายเย็บเป็นเสื้อแขนยาวและกางเกงขายาวทดลองด้วยการนอนในป่า 1 คืน
พบว่า คนที่สวมเสื้อผ้าปกติจะโดนยุงกัดเฉลี่ยต่อคนเกือบ 200 ตัว เทียบกับคนที่สวมเสื้อกันยุงแล้ว
ยุงกัดเพียงไม่กี่สิบตัว
หรือคิดเป็นเปอร์เซ็นต์การป้องกันได้ประมาณ 90%
การนำจีวรมาเคลือบแคปซูลป้องกันยุงดังกล่าวทางบริษัทเลือกใช้ผ้าโทเรที่มีราคาขายอยู่ในระดับปานกลาง
โดยเทคนิคพิเศษนี้จะช่วยเพิ่มมูลค่าจากเดิม 1,000 บาทต้นๆ เป็น 1,800 บาทต่อชุดผ้าไตร 1 ชุด
โครงการต่อไปที่บริษัทคาดว่าจะต่อยอดหลังจากนี้ จะเป็นการเคลือบสมุนไพรกันยุงในชุดเครื่องแบบทหาร ชุดยาม
ซึ่งเป็นกลุ่มที่ทำงานเสี่ยงต่อการโดนยุงกัดในอนาคต นายวิศัลย์ กล่าว
จีวรดังกล่าวหลังทดสอบด้วยการนำไปซักหลายๆครั้ง
พบว่าฤทธิ์ของไมโครแคปซูลจะเริ่มเสื่อมประสิทธิภาพที่การซักประมาณ 30-50 ครั้ง
อนาคตบริษัทจะต่อยอดให้สามารถเติมอณูสมุนไพรกันยุงได้อีกหลังหมดอายุการใช้งาน
โครงการวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์จีวรกันยุงได้รับการสนับสนุนจากสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ
สังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม และโครงการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมไทย (ไอแทป)
โดยจัดผู้เชี่ยวชาญมาเป็นที่ปรึกษา และสนับสนุนทุนส่วนหนึ่งด้วย
ที่มา-