คนที่จบหมอได้ต้อง "อัจฉริยะ" เท่านั้น!!

ความคิดนี้อาจจะเป็นความเชื่อชนิดฝังหัวของใครหลายคน ไม่ขอตอบว่าเป็นความคิดที่ถูกหรือผิด แต่เท่าที่มองตามหลักความจริง คนเรียนหนังสือเก่งส่วนใหญ่ "ขยัน (มาก)" และนอกจากความขยันที่มีเป็นพื้นฐานแล้ว คนเก่งบางคนก็อาจมี "เคล็ดลับ" ที่ช่วยทำให้ตนเองเรียนเก่งยิ่งขึ้น

อย่าง "ทันตแพทย์หญิงกุลธิดา รักษ์ศีลขันธ์" บัณฑิตเกียรตินิยมอันดับ 1 คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ตลอด 6 ปีของการเรียนแพทย์ เธอได้รับรางวัลผลการเรียนสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของนักศึกษาทันตแพทย์ทุกปี และในเทอมสุดท้ายเธอเรียนจบด้วยเกรดเฉลี่ยสะสม 3.97 และเมื่อไม่นานมานี้เธอเป็น 1เดียวจากการคัดเลือกนักศึกษาทันตแพทย์ทั่วประเทศ
ได้รับรางวัลบัณฑิตทันตแพทย์ดีเด่นประจำปี 2550 ของมูลนิธิสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก

โอ้โห "อัจฉริยะ" จริงๆ

แต่...

หยุด...ช่วยกรุณาหยุดความคิดนี้ เพราะทันตแพทย์กุลธิดา หรือ หมอชมพู่ บอกว่า เธอไม่ใช่อัจฉริยะ การเรียนเก่งของเธอเกิดจากความพากเพียรโดยมีเคล็ดลับอยู่ที่ "นั่งสมาธิ"




"เมื่อก่อนเรียนหนังสือไม่เก่ง ไม่ค่อยสนใจเรียน คิดจะเล่นอย่างเดียว แต่พอคุณพ่อจับนั่งสมาธิ ก็เริ่มเรียนหนังสือดีขึ้น" หมอชมพู่ ในวัย 24 ปี บอกด้วยน้ำเสียงสดใส และเล่าต่อว่า เริ่มนั่งสมาธิตอนเรียนอยู่ ป.4 คุณพ่อสอนนั่งเพราะห่วงเรื่องเรียน ที่ตั้งแต่ ป.1-ป.3 เรียนแย่มาก ได้เกรด 2 กว่าๆ เท่านั้น

"ครั้งแรกที่คุณพ่อสอนให้นั่ง ไม่อยากนั่งเลย แต่คุณพ่อหลอกล่อว่าถ้านั่งเสร็จจะให้ไปดูการ์ตูนก็เลยยอม ช่วงแรกที่นั่ง เมื่อยมาก ยุกยิกๆ ตลอด แต่พอนั่งไปเรื่อยๆ พร้อมๆ กับฟังเทปสอนนั่งสมาธิของเด็กที่คุณพ่อเปิดให้ฟัง เทปบอกให้นึกถึงสิ่งที่ชอบ ชมพู่ก็ทำตามด้วยการนึกภาพไอติมบ้าง ภาพซาลาเปาบ้าง พอนึกไปเรื่อยๆ รู้สึกสนุก จึงลองเปลี่ยนสีไอติมเป็นสีโน้นสีนี้ เปลี่ยนไส้ซาลาเปาเป็นไส้โน้นไส้นี้ จากที่อยู่กับที่ไม่ได้ ก็เริ่มนิ่งและรู้สึกมีความสุข แล้วก็นั่งต่อไปเรื่อยๆ จนลืมดูการ์ตูนไปเลย"




เมื่อรู้สึกว่าการนั่งสมาธิเป็นเรื่อง "สนุก" และมี "ความสุข" ตั้งแต่นั้นมาเด็กหญิงชมพู่ก็นั่งสมาธิทุกวัน วันละ 15-30 นาที โดยที่ไม่ต้องมีคุณพ่อมานั่งกำกับ จากไม่ตั้งใจเรียนหนังสือ การนั่งสมาธิทำให้เธอรู้จักกับคำว่า "เรียนเป็นเรียน เล่นเป็นเล่น" จากนั้นมาตั้งแต่ ป.4 ถึงนักศึกษาทันตแพทย์ปีที่ 6 ผลการเรียนจะอยู่ระหว่าง 3.90-4.00 ทุกเทอม

"การนั่งสมาธิช่วยในเรื่องการเรียนได้จริงๆ การนั่งสมาธิเหมือนเป็นการจัดหมวดหมู่ความคิดให้ไม่สับสน ทำให้สมองปลอดโปร่งจำอะไรได้ง่าย ตอนเรียนทันตแพทย์เรียนหนักมาก แต่พอกลับบ้านมานั่งสมาธิจะรู้สึกสดชื่นขึ้นเหมือนเพิ่งอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ มีกำลังที่จะอ่านหนังสือทบทวนบทเรียนต่อ" ทันตแพทย์สาวเล่า

สำหรับกิจวัตรประจำวันในการนั่งสมาธิควบคู่ไปกับการเรียนหนังสือ ทันตแพทย์คนเก่งเล่าว่า เริ่มต้นจากตอนเช้าจะนั่งสมาธิก่อนไปเรียน 5-10 นาที เพื่อเวลาไปฟังอาจารย์สอนสมองจะได้ปลอดโปร่ง เข้าใจง่ายและจดจำได้แม่นยำ พอตอนเย็นกลับมาจากเรียนหนังสือ หลังจากอาบน้ำจะนั่งสมาธิประมาณ 10 นาที เพราะร่างกายที่สดชื่นทำให้นั่งสมาธิได้ดี แล้วก็เริ่มอ่านหนังสือตั้งแต่หนึ่งทุ่มจนถึงสี่ทุ่มครึ่ง และก่อนนอนจะนั่งสมาธิต่ออีกครั้ง

"การเรียนเก่งหรือเรียนไม่เก่ง ชมพู่ว่าอยู่ที่ความตั้งใจ ขยัน และอดทน อย่างชมพู่ไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นอัจฉริยะ แต่ที่เรียนดีเพราะตั้งใจเรียน บังคับตัวเองให้อ่านหนังสือ รู้ว่าเวลาไหนควรทำอะไร"

ณ วันนี้ หลังจากเรียนจบได้ 6 เดือน หมอชมพู่เข้ารับราชการตำแหน่งทันตแพทย์ 4 หัวหน้าฝ่ายทันตสาธารณสุข โรงพยาบาลพรเจริญ จ.หนองคาย เป็นทันตแพทย์คนเดียวของโรงพยาบาลที่รักษาคนไข้วันละ 40-50 คน/วัน แม้จะทำงานแล้ว เธอก็ยังนั่งสมาธิทุกวัน เพราะประโยชน์ไม่ได้มีแค่เรื่องเรียนอย่างเดียว แต่มีประโยชน์กับทุกเรื่อง
 
 
 
 
 
ที่มา- 
 
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages//2007-10-23-1.html
เมื่อ 6 กรกฎาคม 2567 05:12
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv