นายสุรอรรถ
ศุภจัตุรัส ผู้จัดการโครงการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) เปิดเผยว่า
จากการศึกษาดูงานทิศทางด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีชีวภาพ และอาหารระดับนานาชาติ
หรือ "Biotechnica 2007 and Anuga 2007"
ที่สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
พบว่าขณะนี้แนวโน้มด้านนวัตกรรมของโลกมุ่งเน้นไปที่อุตสาหกรรมอาหาร
กลุ่มฟังก์ชั่นนัล
ฟูด (Functional Food)
ซึ่งเป็นกลุ่มอาหารที่ให้ประโยชน์นอกเหนือจากคุณค่าทางโภชนาการพื้นฐาน
จำพวกคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน ฯลฯ
โดยจะเป็นอาหารที่มีการเติมสารอาหารบางอย่างเข้าไป อาทิ
สารสกัดจากธรรมชาติต่างๆ
ฟังก์ชั่นนัลฟูดของประเทศแถบยุโรป
ต้องยกให้กลุ่มอาหารเฉพาะกลุ่ม หรือ Design food
ซึ่งเป็นอาหารที่เติมสารอาหารบางชนิดที่มีประโยชน์ต่อคนเฉพาะกลุ่มเท่านั้น
อาทิ กลุ่มผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มผู้ป่วยต่างๆ
อย่างเบาหวาน หรือกลุ่มผู้ทำงาน หรือผู้ที่มีความเครียดสะสม"
นายสุรอรรถกล่าว และว่า
กลุ่มอาหารสำหรับคนวัยทำงานหรือคนที่มีความเครียดสูง
นักวิจัยของเยอรมนีได้มีการวิจัยพบสารบางชนิดจากใบไม้ที่เรียกว่า Stinging
nettles
ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นฮอร์โมนบางชนิดที่สามารถลดความเครียดได้
โดยขณะนี้ตลาดยุโรปนิยมอาหารดังกล่าวมาก
นายสุรอรรถกล่าวอีกว่า
กลุ่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
มีการเติมสารอาหารต่างๆ โดยเฉพาะกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย
รองลงมาเป็นกลุ่มเครื่องดื่มที่เกิดจากการหมักที่ปราศจากแอลกอฮอล์
แต่เป็นการหมักจากจุลินทรีย์บางชนิดที่ก่อประโยชน์ต่อร่างกาย
รวมทั้งกลุ่มเครื่องดื่มที่พัฒนาขึ้นเพื่อทดแทนน้ำนม อาทิ
เครื่องดื่มนมข้าว เครื่องดื่มนมถั่วเหลือง
ในกลุ่มนี้ประเทศไทยจะมีโอกาสสูง เนื่องจากมีข้าวเป็นแหล่งวัตถุดิบสำคัญ
จุดนี้ถือเป็นโอกาสของประเทศไทยในการพัฒนาอุตสาหกรรมดังกล่าว
ให้สามารถแข่งขันกับตลาดโลกได้