เดลิเมล์ – ปีที่แล้ว แคโรลีน อันเดอร์วูด ยังแข็งแรงกระฉับกระเฉงสมวัยเบญจเพส
แต่วันนี้ เธออาจต้องนั่งรถเข็นตลอดชีวิต หลังจากมีอาการที่น้อยคนนักจะเป็นกัน และทำให้เจ้าตัวกลายเป็นอัมพาตถาวร
ปัญหาเริ่มต้นจากคืนหนึ่ง
หลังจากผู้จัดการบาร์สาวกลับจากออกไปเที่ยวกับเพื่อน
แคโรลีนเข้านอนตามปกติ แต่ต้องตื่นมากลางดึกเพราะเจ็บหน้าอกอย่างแรง
เมื่อนำส่งโรงพยาบาล
แพทย์พบว่าความดันโลหิตของแคโรลีนต่ำถึงระดับที่อันตราย
และพยายามช่วยเหลือให้ความดันโลหิตของเธอกลับสู่ระดับปกติ
แต่ผลการทดสอบระบุว่า หลอดเลือดในไขสันหลังของแคโรลีนโป่งพอง
ทำให้เส้นประสาทสำคัญหลายส่วนเสียหาย และตัดขาดสัญญาณจากสมอง
ซึ่งทำให้เธอกลายเป็นอัมพาต
แคโรลีนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลนานหลายเดือน และผู้เชี่ยวชาญบอกให้เธอทำใจว่า อาจต้องใช้เวลาที่เหลือของชีวิตบนรถเข็น
“เป็นคุณจะทำใจได้อย่างไร ถ้าคืนหนึ่งคุณเข้านอนโดยไม่ได้คิดอะไรเพียงเพื่อจะตื่นขึ้นมารับรู้ว่าคุณจะเดินไม่ได้อีก?”
อย่างไรก็ตาม แคโรลีนยังมีความหวัง โดยเชื่อว่าการใช้สเตมเซลล์บำบัดอาจฟื้นประสาทที่เสียหายและทำให้เธอกลับมาเดินได้อีกครั้ง
“ฉันนอนรักษาตัวอยู่ 6 เดือน และเป็น 6 เดือนที่ทรมานมาก
แต่ฉันตัดสินใจแล้ว ไม่ต้องคิดอะไรมากมาย
เพราะสเต็มเซลล์เป็นความหวังเดียวของฉัน”
ปัจจุบัน การบำบัดด้วยวิธีนี้ ซึ่งต้องใช้เงินราว 30,000 ปอนด์
(2,100,000 บาท) มีเฉพาะในจีนหรืออเมริกาใต้ ขั้นตอนคือการฉีดสเต็มเซลล์
หรือเซลล์ต้นกำเนิด จากสายสะดือของทารก
เนื่องจากเซลล์พิเศษเหล่านี้สามารถแปรสภาพเป็นเซลล์และเนื้อเยื่อต่างๆ ได้
แพทย์หวังว่า สเต็มเซลล์จะฟื้นประสาทที่ถูกทำลายของแคโรลีน โดยขณะนี้ เธอสามารถใช้ร่างกายส่วนบนได้เหมือนเดิม
“เส้นประสาทชนิดสัมผัสจากปมประสาทของฉันยังดีอยู่
ฉันจึงรับรู้ความรู้สึกที่ขาได้
แต่สัญญาณควบคุมการเคลื่อนไหวจากสมองไม่สามารถส่งผ่านไปยังไขสันหลัง
ซึ่งเกิดจากการที่หลอดเลือดของฉันอ่อนแอมาตั้งแต่เกิดโดยที่ฉันไม่รู้ตัวมาก่อน”
ทั้งนี้ ภาวะเส้นเลือดแดงในไขสันหลังโป่งพองเป็นอาการที่พบได้ยาก โดยเฉพาะในหมู่หนุ่มสาว
กรณีของแคโรลีนนั้น มีการจัดงานระดมทุนเพื่อหาเงินสำหรับการบำบัดด้วยสเต็มเซลล์
แคโรลีนจากดูกินฟิลด์ แมนเชสเตอร์ ที่มีพี่น้อง 4 คน
อาศัยอยู่กับพ่อแม่ แอนน์ พนักงานดูแลคนป่วยวัย 58 ปี และริก พัศดีวัย 53
ปี
“เธอค้นคว้าเรื่องการบำบัดด้วยสเต็มเซลล์
และพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญหลายคน
ส่วนของเราเพียงแต่ระดมเงินบริจาคมาช่วยเธอเท่านั้น” แอนน์เล่า
ขณะนี้ มีการนำเซลล์ต้นแบบมาใช้ในการบำบัดโรคต่างๆ
โดยเฉพาะการปลูกถ่ายไขสันหลังสำหรับผู้ป่วยลูคีเมียบางประเภท
และผู้เชี่ยวชาญกำลังเร่งวิจัยเพื่อค้นหาว่า
สามารถใช้วิธีบำบัดนี้กับอาการอื่นใดอีกหรือไม่
ที่มา-
![](https://images.dmc.tv/www/images/news_picture/logo/manager.gif)