ผลวิจัยชี้ขยัน
อดทน ซื่อสัตย์ สุดยอดคุณธรรม สร้างสันติ-ความมั่นคงให้ประเทศ
คนเอเชียนิยมเลี้ยงลูกให้กตัญญู-อ่อนน้อม
ส่วนฝรั่งเลี้ยงให้ยอมรับในความแตกต่าง
ส่วนใหญ่ใช้หลักศาสนาเข้าบ่มเพาะคุณธรรม
ว.วชิรเมธีระบุประเทศไทยเป็นเมืองภุชก์มีแต่ผู้โกงผู้กิน
คนไทยเป็นพุทศาสติกชน ส่งผลสังคมไทยทรุด
แนะยึดคุณธรรมเป็นมั่นอย่างน้อยคนละ 1 ข้อแล้วทำแทนพูด
เมื่อวันที่ 15 พ.ย. ที่โรงแรมแอมบาสซาเดอร์
รศ.ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.)
กล่าวในการเป็นประธานเปิดและปาฐกถาพิเศษ เรื่อง
“วิจัยกับการนำคุณธรรมสู่สังคมไทย” มรการประชุมวิชาการ
การวิจัยทางการศึกษาระดับชาติ ครั้งที่ 12 มีคณะครูอาจารย์เข้าร่วมประมาณ
1 พันคน ว่า
งานวิจัยเป็นเสมือนตัวนำพาคุณธรรมจริยธรรมสู่เป้าหมายคือสังคมที่มีคุณธรรม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากวิจัยให้รู้ถึงวิธีการสอนคุณธรรมที่ดีที่สุดจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง
จะช่วยกระจายให้คนไทยมีคุณธรรมเพิ่มมากขึ้น
จากที่ปัจจุบันสิ่งนี้ขาดหายไปจากสังคมไทยอย่างน่าใจหาย
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะโลกมีความซับซ้อน เปลี่ยนแปลงเละเสี่ยงตลอดเวลา
ทำให้คนเกิดความโลภและต้องการอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ภายใต้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด
แต่ถ้ามีคุณธรรมจะทำให้มีการยืนที่มั่นคง อยู่ดี อยู่รอด
อยู่ปลอดภัยใครมาผลักก็ไม่ล้ม
“เชื่อว่าถึงจะหมดวาระของรัฐบาลชุดนี้
งานด้านการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมจะไม่ถูกละเลย
รัฐบาลชุดต่อไปจะต้องมองกระทรวงศึกษาธิการเป็นกระทรวงเกรดเอ
ที่จะต้องส่งคนดี
มีความรู้ ความสามารถ มาเป็นรัฐมนตรี
ไม่ใช่มองเป็นกระทรวงเกรดซี
แล้วส่งคนไม่มีความรู้ความสามารถหรือใครก็ได้มานั่งตำแหน่งรัฐมนตรี”รศ.ดร.วรากรณ์กล่าว
พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี หรือ ว.วชิรเมธี
บรรยายพิเศษ เรื่อง “คุณธรรมกับการพัฒนาสังคมที่ยั่งยืน”ว่า
สังคมไทยวิกฤติในแง่ของคนขาดคุณธรรม
จะต้องเริ่มแก้วิกฤติที่การพัฒนาคนให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์
หากคนเรามีคุณธรรมยึดมั่นอย่างน้อยคนละ 1 ข้อ
ก็สามารถเขยื่อนและเปลี่ยนแปลงสังคมไทยได้
อย่างเช่น กรณีมหาตมคานธี
ที่ยึดถือสัจจะยิ่งกว่าชีวิต ก็สามารถเปลี่ยนแปลงสังคมโลกได้
ขณะที่เมืองไทยเห็นสัจจะเป็นการต่อรองทางสังคมเท่านั้น ทั้งที่
ประเทศไทยเป็นเมืองพุทธ มีวัดที่เป็นแหล่งเพาะคุณธรรมที่สำคัญกว่า 3
หมื่นแห่ง สังคมไทยยังทรุด ยังมีคุณธรรมน้อย
เนื่องจากแท้จริงเมืองไทยเป็นเมืองภุชก์ หมายถึงเมืองที่มีแต่ผู้โกงผู้กิน
และคนไทยส่วนใหญ่เป็นพุทธศาสติกชน ไม่ใช่พุทธศาสนิกชน
นับถือศาสนาพุทธตามพ่อแม่เลือกให้ตอนเกิด
โดยไม่รู้ว่าแท้จริงพุทธศาสนาเป็นอย่างไร
“การแก้วิกฤติที่เกิดขึ้นในสังคมจะแก้ด้วยเครื่องลางของขลังไม่ได้
ต้องใช้ภูมิปัญญาที่มากกว่านี้
และต้องแก้ทั้งระบบ
โดยต้องทำให้เห็นแทนการสอน ใช่พร่ำสอนแต่ไม่ทำเป็นแบบอย่างอย่างเมืองไทย
ต้องทำให้เห็นว่าการเมตตากรุณาต่อกันจะอยู่ร่วมกันอย่างร่มเย็นเป็นสุข
ที่สำคัญต้องแปรรูปคุณธรรมลงไปในวิถีชิวตคนไทยทุกรูปแบบ
ไม่ใช่ให้พระมีเทศน์เท่านั้น พรรคการเมืองต้องร่วมกันสร้างสัมมาธิปไตย
การศึกษาต้องเน้นพัฒนาคนให้เป็นมนุษย์ไม่ใช่ทักษะในการทำมาหากิน
ภาคธูรกิจต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคม และครอบครัว
พ่อแม่ต้องเป็นผู้บังเกิดเกล้า
ไม่ใช่แค่ผู้ให้กำเนิดแล้วส่งให้คนอื่นเลี้ยง”พระมหาวุฒิชัยกล่าว
ในงานเดียวกันมีการคัดเลือกผลงานวิจัยทางการศึกษา
โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรม
มานำเสนอกว่า 70 เรื่อง
จากที่ส่งเข้ามาทั้งสิ้นกว่า 200 เรื่อง ซึ่งหนึ่งในงานวิจัยที่น่าสนใจ
อยู่ในกลุ่มการวิจัยเพื่อพัฒนากระบวนการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม
โดยเป็นรายงานการสังเคราะห์งานการวิจัยคุณลักษณะและกระบวนการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมของประเทศต่างๆ
จัดทำโดย ดร.เจือจันทร์ จงสถิตอยู่และดร.รุ่งเรือง สุขาภิรมย์
ดร.รุ่งเรือง สุขาภิรมย์
ผู้ตรวจราชการประจำเขตตรวจราชการที่ 15และ 17 กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.)
กล่าวว่า
จากการสังเคราะหืรายงานการศึกาคุณลักษณะและกระบวนการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมของประเทศต่างๆ
รวม 10 ประเทศ แยกเป็น ประเทศในเอเชีย 5 ประเทศ ได้แก่ สาธารณรัฐเกาหลี
ไต้หวัน สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ศรีลังกา และอินเดีย ในยุโรป 3 ประเทศ
คือ ฟินแลนด์ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน และสวิตเซอร์แลนด์ ทวีปอเมริกา 1
ประเทศ คือ แคนาดา และประเทศนิวซีแลนด์ แถบแปซิฟิคใต้
พบว่า
คุณธรรมจริยธรรมพื้นฐานสำคัญทั้งประเทศกำลังพัฒนาและพัฒนาแล้ว
เพื่อเป็นฐานในการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ช่วยพัฒนาความมั่นคงของประเทศชาติ
ได้แก่ ความขยัน อดทน ซื่อสัตยื มีวินัย เคร่งในระเบียบ ความรับผิดชอบ
รู้หน้าที่ และประหยัด ซึ่งคุณลักษณะเด่นของคนเอเชีย คือ ความกตัญญู
ความรักชาติ ความอ่อนน้อม
ส่วนคุณลักษณะเด่นของคนยุโรป
อเมริกาเหนือและแปซิปิคใต้ เรื่องการยอมรับในความแตกต่างและความหลากหลาย
ดร.รุ่งเรือง กล่าวอีกว่า
ศาสนาเป็นรากฐานสำคัญของคุณธรรมจริยธรรมของคนในสังคม
อาทิ ในเกาหลี
ไต้หวันและเวียดนาม ศาสนาพุทธนิกายมหายานและคำสอนของขงจื้อ
มีอิทธิพลต่อการปลูกฝังคุณลักษณะและคุณธรรมจริยธรรมเด่น
เรื่องความซื่อสัตยื ความเคารพในอาวุโส
การจัดระเบียบสังคม
ความสัมพันธ์และหน้าที่ระหว่างสมาชิกในครอบครัว องค์กรและสังคมโดยรวม
ขณะที่คำสอนของศาสนาพุทธเถรวาท ส่งผลให้ชาวพุทธสิงหล เป็นคนอ่อนน้อม
ซื่อสัตย์
และศาสนาฮินดูและคัมภีร์พระเวททำให้คนอินเดียเคร่งในศาสนาประเพณีและวัฒนธรรม
เชื่อในโชคชะตา มุ่งทำกรรมดี และศาสนามีผลต่อคุณลักษณะของคนในยุโรป
อเมริกาเหนือ และแปซิฟิค
โดยไม่สามารถระบุชัดว่ามีผลจากศาสนาเด่นด้านใดหรือมากน้อยเพียงใด
ทั้งนี้จากการสังเคราะห์นี้รัฐควรเร่งดำเนินการบูรณาการงานของหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวกับคนให้สอดรับกันในการสร้างเสริมคุณธรรม
ควรสืบทอดหลักคิดและคำสอนศูนย์รวมแห่งศรัทธาของประเทศ
เร่งฟื้นฟูและสร้างความเข้มแข็งของสถาบันครอบครัว
ปรับการเรียนการสอนเน้นการสอนคิดวิเคราะห์ รู้เหตุรู้ผล รู้แยกผิดถูก
สนับสนุนสถาบันศาสนาและพัฒนาศาสนบุคคล รวมถึง องค์กร มูลนิธิ อาสาสมัคร
และควรมีมาตรการกำกับดูแลสื่อมวลชนอย่างเหมาะสม แทนการปล่อยเสรีจนเกินไป