เริ่มแน่ปีนี้นำคะแนนความดีร่วมคัดเลือกน.ร.เข้ามหาวิทยาลัย ที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย (ทปอ.) มีมติให้นำมาใช้ทันที แต่ปีแรกจะใช้ประกอบการสอบสัมภาษณ์ ให้น.ร.นำหลักฐานหรือประกาศนียบัตรทำความดีมาแสดงจะได้สิทธิพิเศษเหนือคนอื่น

ส่วนปีหน้าเป็นต้นไปประสานศธ.ทำเกณฑ์คะแนนสะสมความดี มาเป็นสัดส่วนในการสอบด้วย ส่วนการสอบแอดมิชชั่นยังใช้เกณฑ์เดิมคือโอเน็ต-เอเน็ต คะแนนสะสมตลอดหลักสูตรหรือ (จีพีเอเอ็กซ์) ส่วนปี 2553 จะเปลี่ยนเป็นใช้คะแนนโอเน็ต 30% จีพีเอเอ็กซ์ 20% ที่เหลือเป็นคะแนนความถนัด

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 15 ธ.ค. ที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง รศ.ดร.วันชัย ศิริชนะ อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ในฐานะประธาน กล่าวว่า ที่ประชุมทปอ. คัดเลือกประธานทปอ.คนใหม่ คือ รศ.ดร.มณฑล สงวนเสริมศรี อธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร (มน.) โดยจะเป็นประธานทปอ.ในปี2551 ที่สำคัญทปอ.ยังพิจารณากรณีนโยบายการนำคะแนนสะสมความดีของนักเรียน
ตั้งแต่ระดับประถมศึกษาจนถึงมัธยมศึกษา มาเป็นส่วนหนึ่งในการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา

ที่ประชุมทปอ.มีมติให้นำคะแนนความดีมาใช้ประกอบตัดสินรอบสัมภาษณ์ ในการคัดเลือกนักเรียนในระบบแอดมิชชั่นในปีการศึกษา 2551 โดยจะเปิดโอกาสให้นักเรียนนำเสนอผลงาน หลักฐาน หรือประกาศนียบัตรจากการร่วมทำกิจกรรมความดีต่างๆ

 อย่างไรก็ตาม การนำคะแนนความดีมาเป็นส่วนหนึ่งในการประกอบคัดเลือกนักศึกษาเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้เป็นรูปธรรม อย่างไรก็ตามตั้งแต่ปีการศึกษา 2552 เป็นต้นไป หากกระทรวงศึกษา (ศธ.) จัดทำเกณฑ์คะแนนสะสมความดีของนักเรียนเสร็จเรียบร้อย ทางทปอ.จะนำมาใช้ในการตัดสินคัดเลือกในระบบแอดมิชชั่น โดยจะนำคะแนนความดีมาใช้ในสัดส่วนคัดเลือกระบบแอดมิชชั่นที่เข้มข้นมากขึ้นต่อไป

"แม้ปีการศึกษา 2551 นี้ไม่ใช้คะแนนความดีอย่างเป็นทางการ แต่เด็กที่มีคะแนนความดีติดตัวมาก็ได้เปรียบเด็กที่ไม่มีมาอย่างแน่นอน เพราะในการคัดเลือกรอบสัมภาษณ์เข้ามหาวิทยาลัย ถ้านักเรียนคนไหนมีผลงานความดีมาเสนอในรอบคัดเลือก ก็จะได้รับการพิจารณามากกว่าคนที่ไม่มีคะแนนความดีติดตัวมา จึงอยากขอให้รู้ว่าคะแนนความดีมีค่า มีราคา" ประธานทปอ.กล่าว และว่า

สำหรับสัดส่วนระบบแอดมิชชั่น ปีการศึกษา 2551-2552 ยังคงใช้แบบเดิม คือใช้คะแนนการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) การทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นสูง (เอเน็ต) และคะแนนเฉลี่ยสะสมตลอดหลักสูตร (จีพีเอเอ็กซ์) ส่วนสัดส่วนแอดมิชชั่นปี 2553 จะใช้คะแนนโอเน็ต ร้อยละ 30 คะแนนจีพีเอเอ็กซ์ ร้อยละ 20 และคะแนนความถนัด ร้อยละ 50 โดยแบ่งเป็น ความถนัดทั่วไป (GAT) และความถนัดทางวิชาชีพ (PAT)

รศ.ดร.วันชัย กล่าวอีกว่า ส่วนการสอบโอเน็ตนั้น ทปอ.ยืนยันรูปแบบเดิม คือนักเรียนสามารถสอบโอเน็ตได้ครั้งเดียวในปีที่จบการศึกษาเท่านั้น แต่สำหรับผู้ที่มีเหตุสุดวิสัย หรือมีความจำเป็น เช่น เจ็บป่วย ไม่สามารถมาสอบในวันที่กำหนดได้ ทปอ.อนุโลมให้นักเรียนที่จบในปีการศึกษานั้นๆ สามารถสอบโอเน็ตภายหลังอีกครั้ง

โดยทปอ.จะทำหนังสือขอความร่วมมือไปยังสถาบันการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) เป็นผู้จัดสอบให้ ส่วนนักเรียนที่จบในปีการศึกษาไปแล้วแต่ต้องการเปลี่ยนสาขาวิชา หรือเด็กซิล ให้เข้าสู่การคัดเลือกในระบบรับตรง โดยทปอ.ประสานไปยังมหาวิทยาลัยต่างๆ เปิดโอกาสรับให้มากขึ้น และบางคณะยังให้โอกาสสามารถสอบเทียบได้โดยไม่ต้องนำคะแนนโอเน็ตมาใช้



ที่มาจากหนังสือพิมพ์

บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages//2007-12-16-1.html
เมื่อ 6 กรกฎาคม 2567 00:15
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv