ในแวดวงสังคมไทยยังมีคนที่คอยช่วยเหลือคนด้อยโอกาสอยู่ไม่ใช่น้อย ดั่งเช่นเวิร์กกิ้ง วูแมน 2 สาวน้ำใจงาม ม.ล.ปริยดา ดิศกุล ประธานมูลนิธิสร้างเสริมคุณธรรม กับ สู่ขวัญ บูลกุล ภรรยาคาวบอยไฮโซเจ้าของฟาร์มโชคชัย ซึ่งผลัดกันกล่าวถึงการร่วมกิจกรรมการกุศล ในงาน “Re-Create a New Life through Your Eyes” ของเครื่องสำอางเอสเต้ ลอเดอร์ ณ เรือนบ้านน้อย โรงแรมโอเรียนเต็ล เมื่อวันก่อน

ม.ล.ปริยดา ดิศกุล อาศัยตำแหน่ง ผอ.โรงเรียนนานาชาติบางกอกพัฒนา ตั้งมูลนิธิบางกอกพัฒนาจนถึงวันนี้ก็ราว 17 ปีแล้ว โดยทำกิจกรรมเพื่อสังคมด้วยวิธีง่ายๆ เพราะเด็กในโรงเรียนค่อนข้างมีอันจะกินเกือบ 2,000 คน พอถึงช่วงเทศกาลคริสต์มาสก็จะให้เด็กๆห่อของขวัญมาจากบ้าน แล้วนำไปวางไว้ใต้ต้นคริสต์มาส เพื่อมอบให้กับโรงพยาบาลเด็ก และเด็กกำพร้า ถือเป็นการสอนเด็กๆ ให้รู้จักเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ทำให้ทุกๆฝ่ายก็มีความสุข ส่วนมูลนิธิสร้างเสริมคุณธรรมที่ก่อตั้งปี 2537 แรกเริ่มก็เข้าไปช่วยเป็นกรรมการ ก็มีเพื่อนๆที่เป็นผู้พิพากษาบ่นกันเยอะว่า เสียดายอนาคตของเด็กที่หลงผิดนิดเดียว เราจึงคิดว่า แทนที่จะให้เด็กอยู่เฉยระหว่างช่วงกักบริเวณ ก็เข้าไปสอนเรื่องคุณธรรม นิมนต์พระอาจารย์มาสอนธรรมะให้เข้าถึงเด็กๆ กระทั่งรับช่วงเป็นประธานจาก พญ.สดใส เวชชาชีวะ ซึ่งชอบช่วยเหลือเด็กในสลัม เราก็เข้าไปสอนเรื่องสมาธิ เปลี่ยนนิสัยคนในนั้นตั้งแต่วัยเด็ก การแปลงพฤติกรรมต้องค่อยๆเอาน้ำดีใส่น้ำเสีย แล้วเรายังเน้นช่วยเหลือกลุ่มแม่บ้านตามหมู่บ้านต่างๆ ชื่อโครงการผู้หญิงช่วยผู้หญิง เข้าไปดูว่า แต่ละหมู่บ้านมีวัสดุท้องถิ่นอะไร ก็ฝึกสอนให้เป็นอาชีพ ฝึกคุณธรรม เพื่อที่จะดูแลครอบครัวให้มีความสุข ชุมชนก็จะมีความสุขตามมา เราเชื่อว่าพลังของผู้หญิงได้ผล หากชี้แนะส่งเสริมในที่ถูกทาง ก็จะเป็นพื้นฐานนำเชื้อไวรัสที่ดีนี้ส่งต่อลูกๆที่จะเป็นพ่อแม่ดีๆต่อไป

เหตุที่ชอบทำอาจเป็นเพราะพื้นฐานครอบครัวที่พาเข้าวัดตั้งแต่เด็กๆ
ในเมื่อเราเกิดมาสบาย เห็นคนอื่นก็อยากเผื่อแผ่ คนเราจะกินได้เท่าไหร่ ทุกวันนี้จึงไม่ค่อยช็อปปิ้ง เพราะเงินจำนวนนั้นสามารถเลี้ยงคนได้ทั้งหมู่บ้าน โดยชักชวนเพื่อนๆให้ช่วยกันทำบุญ อย่าทำงานมาก มาทำบุญกันเยอะๆดีกว่า เราอยากให้เน้นสุขภาพชีวิต สุขอนามัย มีสัจจะซึ่งกัน ประพฤติศีล 5 เท่านี้ก็จะเป็นมนุษย์ที่ดีค่ะ”
ส่วน นางสู่ขวัญ บูลกุล คุณแม่สวยพริ้ง บอกเล่าต้นเหตุที่มีส่วนร่วม “โครงการบ้านอุ่นรัก” ซึ่งเป็นโครงการช่วยเหลือเด็ก และผู้หญิงที่ด้อยโอกาสทางสังคมและชุมชนกว่า 130 ชีวิตในเขต อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ตั้งแต่ครั้งไปทำข่าวที่นั่นเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว รู้สึกประทับใจเพราะจากที่เคยนึกสภาพว่า ต้องเป็นเด็กที่มีแววตาเหี่ยวแห้ง ไม่มีชีวิต แต่เรากลับเห็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งอายุ 5 ขวบ ร่าเริงมีจินตนาการสูงมาก ทำให้เรามีมุมมองใหม่ๆว่า พวกเขาไม่ต้องการการสงเคราะห์ช่วยเหลือ แต่ต้องการให้สังคมสูบฉีดพลังงานที่มีอยู่ในตัวพวกเขา แล้วปกติก็ชอบช่วยเหลือคนเท่าที่ช่วยได้ อย่าไปคิดเรื่องเงิน แต่หากเห็นใครกลุ้มใจ เราช่วยให้เขาสบายใจ นั่งฟังนิ่งๆ ก็ถือว่าได้ช่วยเหลือแล้ว ทางสามี (โชค บูลกุล) ก็มีโครงการส่วนตัวชื่อ “โชคช่วยด้วยรัก” ทำมา 15 ปีแล้ว เน้นเฉพาะ จ.หนองบัวลำภู ด้วยความบังเอิญที่ดูทีวีแล้วพบว่า หมู่บ้านในจังหวัดนี้ยากจนมาก จึงคิดว่าหากช่วยกระจัดกระจาย ก็จะไม่เกิดผล แต่ถ้าเราโฟกัสไปที่จุดเดียวทั้งเรื่องสุขภาพและการศึกษา เด็กก็จะได้รับอย่างต่อเนื่องทุกปี เขาจึงส่งคนลงไปรีเสิร์ชว่า มีกี่โรงเรียน กี่โรงพยาบาล ขาดแคลนอะไรบ้าง แล้วจะเดินทางไปที่นั่นทุกๆปีช่วงวันเกิด “ขวัญ” ก็ได้เข้าไปช่วยตั้งแต่คบหากัน 5 ปีแล้ว และชวนญาติพี่น้องลงไปช่วยกัน ส่วนลูก (น้องปราบ บูลกุล) ตอนนี้อายุ 2 ขวบ เราก็ตั้งกองทุนเล็กๆ ว่า “ปราบ บูลกุล” จัดสรรเงินออมของเขาที่ได้รับในโอกาสพิเศษ จากญาติผู้ใหญ่ดึงไปช่วยเหลือเด็กอายุรุ่นเดียวกันที่ อ.เมืองหนองบัวลำภู กำลังคิดว่าปีหน้า “น้องปราบ” อายุ 3 ขวบ ก็อาจจะพาเขาให้ไปเห็น ได้สัมผัสชีวิตเด็กคนอื่นว่าเป็นอย่างไร จะได้รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองมีนั้นมีคุณค่าอย่างไรบ้างค่ะ”.
 
 
 
ที่มา- 
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages//2007-12-19-1.html
เมื่อ 27 กรกฎาคม 2567 02:15
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv