ปราฟดา – ไม่นานมานี้ องค์การเพื่อการวิจัยมะเร็งระหว่างประเทศ
(ไอเออาร์ซี)
เพิ่งประกาศรวมการทำงานกะกลางคืนไว้ในรายชื่องานที่เสี่ยงต่อมะเร็ง
เช่นเดียวกับงานที่ต้องสัมผัสกับรังสีอุลตราไวโอเล็ต คาร์บอนแบล็ก สารย้อม
ฯลฯ ดังนั้น พนักงานจึงมีสิทธิ์ฟ้องร้องเรียกค่าชดเชย
หากได้รับอันตรายหรือล้มป่วยจากการถูกบังคับให้ทำงานกลางคืน
นักวิจัยญี่ปุ่นที่ศึกษาเรื่องอนามัยสิ่งแวดล้อมและอนามัยในที่ทำงาน
เฝ้าสังเกตและติดตามผลกลุ่มตัวอย่าง 14,000 คนเป็นเวลา 10 ปี และพบว่า
ผู้ชายที่ทำงานในชั่วโมงที่ยืดหยุ่นเป็นมะเร็งต่อมอัณฑะมากกว่าผู้ชายที่ทำงานเฉพาะกลางวันเท่านั้น
ขณะเดียวกัน
นักวิจัยเดนมาร์กจากสถาบันระบาดวิทยามะเร็งในโคเปนเฮเกน เดนมาร์ก
ศึกษา
ผู้หญิง 7,000 คน อายุ 30-54 ปี พบว่า ผู้ที่ทำงานกลางคืนอย่างน้อย 6
เดือน มีโอกาสมากขึ้นที่จะเป็นเนื้องอกที่เต้านม
ริชาร์ด สตีเวนส์ ศาสตราจารย์จากศูนย์สุขภาพ
มหาวิทยาลัยคอนเน็กติกัต
เป็นนักวิจัยคนแรกที่สังเกตเห็นความเกี่ยวข้องระหว่างการทำงานกลางคืนกับมะเร็งเต้านมเมื่อปี
1987 จากการทดลองเพื่อค้นหาว่า เหตุใดมะเร็งเต้านมจึงแพร่หลายในช่วงทศวรรษ
1930 เมื่อธุรกิจมากมายเริ่มทำงานตลอด 24
ชั่วโมงเพื่อดึงดูดแรงงานหญิงมาทำงานทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน
สตีเวนส์ พบว่า
พวกที่ทำงานกลางคืนมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่จะเป็นโรคหัวใจ
ขณะที่นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยมิลาน
ศึกษาพนักงานชายที่มีหน้าที่แยกโลหะจากแร่ 22 คนที่ทำงานในกะต่างๆ
ช่วงกลางคืน
จากการสังเกตการทำงานของหัวใจของคนเหล่านี้ พบว่า
อัตราการเต้นของหัวใจ กิจกรรมของระบบประสาท และภูมิหลังด้านฮอร์โมน
ไม่ได้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระหว่างการทำงานตอนกลางคืน
หรือกล่าวอีกอย่างได้ว่า
คนที่ตื่นและทำงานตอนกลางคืน
ขณะที่หัวใจและหลอดเลือดหัวใจทำงานในโหมดหลับ
เท่ากับว่าร่างกายและระบบประสาททำงานเกินกำลังระหว่างช่วงกลางคืน
ราฟาเอลโล เฟอร์แลน หัวหน้าโครงการวิจัยเชื่อว่า
ร่างกายคนเราไม่สามารถยอมรับกิจกรรมตอนกลางคืนได้ ส่งผลให้เกิดโรคหัวใจ
อย่างไรก็ดี นักวิจัยยังไม่รู้กลไกที่แน่นอนในเรื่องนี้
แต่เสนอทฤษฎีไว้หลายอย่าง
ทฤษฎีที่แพร่หลายที่สุดคือ
มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ใช้ชีวิตในตอนกลางวัน
การทำงานกลางคืนและนอนตอนกลางวันจึงสร้างปัญหาต่อวงจรพลังชีวิตประจำวัน
และนำไปสู่โรคภัยไข้เจ็บ
ร่างกายมนุษย์ผลิตเมลาโทนิน หรือฮอร์โมนการนอนหลับในเวลากลางคืน
ฮอร์โมนนี้จะควบคุมจังหวะทางชีวภาพ รวมถึงฮอร์โมนอื่นๆ ทั้งหมด ดังนั้น
หากไม่นอนตอนกลางคืน ระบบดังกล่าวจะทำงานผิดปกติ
ผลลบของการทำงานกลางคืนยังรวมถึงอาการคลื่นเหียน
มีกรดในกระเพาะอาหาร ปวดท้อง ท้องเสีย เบื่ออาหาร
ซึ่งเป็นอาการปกติของคนนอนดึก หรือคนที่ต้องทำงานกลางคืน
เนื่องจากทำให้นาฬิกาชีวภาพแปรปรวน
นอกจากนั้น
การทำงานกลางคืนยังทำให้คนผู้นั้นถูกโดดเดี่ยวจากครอบครัวและเพื่อน
กลายเป็นสถานการณ์แห่งความตึงเครียดและเศร้าหมอง