"คุณหญิงไขศรี" แนะคนไทยรู้รักสามัคคี ยึดมั่นธรรมะ 7 ข้อของ "หลวงพ่อปัญญา" ดำเนินชีวิต วธ.จัด "ส่งท้ายปีเก่าวิถีไทย ต้อนรับปีใหม่วิถีพุทธ" ดึง 25 วัดดังใน กทม. พร้อมวัดใน 75 จังหวัดเปิดประตูโบสถ์จัดพิธีทางศาสนาในคืนวันที่ 31 ธ.ค.2550 ตั้งแต่ 4 ทุ่มจนถึงเที่ยงคืนรับศักราชใหม่ในวันที่ 1 ม.ค.51 ชวนพุทธศาสนิกชนสวดมนต์-นั่งสมาธิ

เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ รมว.วัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า ช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าและต้อนรับปีใหม่นี้ อยู่ในช่วงที่บ้านเมืองเรากำลังต้องการความรักสามัคคี อยากให้ทุกคนที่คิดจะทำอะไรให้ใช้ธรรมะเป็นตัวตั้งสติในการดำเนินชีวิตก่อน ขอนำศีลพรปีใหม่จาก พระพรหมมังคลาจารย์ หรือหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ ให้ไว้ 7 ประการ 1.มีความรักเคารพธรรมยิ่งกว่าชีวิต 2.มีความรักเพื่อนมนุษย์ไม่จำกัด 3.อย่าทำตนให้เป็นพิษเป็นภัยแก่ใครๆ 4.อย่ามัวเมาในวัตถุจนลืมคุณค่าทางจิตใจ 5.หมั่นตรวจสอบตนเองบ่อยๆ
6.หมั่นแก้ไขตนเองให้ดีขึ้นทุกวินาที และ 7.สามัคคีดีกว่าความแตกแยก

 ทั้งนี้ เทศกาลส่งท้ายปีเก่าของคืนวันที่ 31 ธันวาคม และต้อนรับปีใหม่เช้าวันที่ 1 มกราคม 2551 คนไทยได้รับเอาปฏิทินสากลมาใช้เมื่อ 66 ปีที่แล้ว ซึ่งประเทศไทยได้มีการเปลี่ยนแปลงปฏิทินมาแล้ว 4 ครั้ง โดยสมัยโบราณถือเอาวันแรม 1 ค่ำ เดือนอ้าย หรือเดือนธันวาคม เป็นวันขึ้นปีใหม่ ที่ถือว่าช่วงฤดูฝนผ่านพ้นอันมืดครึ้มไปสู่ความสว่าง ต่อมาเป็นวันขึ้นปีใหม่ 1 ค่ำ เดือน 5 ตกตรุษสงกรานต์ เป็นการเปลี่ยนจารีตไปตามคติพราหมณ์ นับวันตามจันทรคติ โดยใช้ปีนักษัตรและการเปลี่ยนจุลศักราชเป็นเกณฑ์

  ครั้นถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้ปรับเปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่มาเป็น 1 เมษายน พ.ศ.2432 โดยสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทววงศ์วโรปการ เป็นผู้เสนอให้ใช้ราศีกำหนดชื่อเดือนแต่นับวันทางสุริยคติ ในครั้งหลังสุดรัฐบาลได้ประกาศใช้ปฏิทินเกรเกอเรียนในวันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2484 ที่นิยมใช้กันทั่วโลกมาถึงปัจจุบัน

 รมว.วัฒนธรรม กล่าวอีกว่า ปัจจุบันเมืองไทยได้หันไปใช้ปฏิทินสุริยคติ แต่ก็ยังใช้ปฏิทินจันทรคตินับดวงจันทร์โคจรรอบโลกใน 12 เดือน ดังเห็นได้ปฏิทินของไทยมีการบอกข้างขึ้น ข้างแรมในแต่ละเดือน ใช้ในพิธีกรรมทางศาสนาและประเพณี ตนอยากให้เยาวชนหนุ่มสาวมองเห็นความสำคัญของปฏิทินจันทรคติด้วย และอยากให้ปฏิบัติตามประเพณีวิถีไทยที่สืบทอดกันมาในวันที่ 1 มกราคม ตอนเช้าทำบุญตักบาตรอุทิศส่วนกุศลให้แก่ญาติผู้ล่วงลับ ตอนสายทำทานปล่อยนกปล่อยปลา ไหว้พระพุทธองค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ตอนเย็นเข้าอุโบสถเจริญจิตภาวนา ไหว้พระสวดมนต์ ฟังพระธรรมเทศนา รับศีลรับพร และเจริญพระพุทธมนต์เพื่อสวัสดิมงคลชีวิตแก่ตนเองและครอบครัว รวมไปถึงประเทศชาติให้พบแต่ความสงบสุข

    นายสด แดงเอียด อธิบดีกรมการศาสนา (ศน.) กล่าวว่า ศน.ได้จัดโครงการส่งท้ายปีเก่าวิถีไทย ต้อนรับปีใหม่วิถีพุทธ พ.ศ.2551 จัดพิธีทางศาสนาในคืนวันจันทร์ 31 ธันวาคม 2550 ตั้งแต่เวลา 22.00 น. ล่วงเข้าวันใหม่ 00.00 น. วันอังคารที่ 1 มกราคม 2551 มีวัดในเขตกรุงเทพฯ เข้าร่วมโครงการ 25 วัด และในส่วนของ ศน. จัดขึ้นที่พระอุโบสถวัดราชาธิวาสวิหาร โดยมี พระเทพวิสุทธิกวี กล่าวสัมโมทนียคถา พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถานำแผ่เมตตา เจริญจิตภาวนา

 ทั้งนี้ ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนมาร่วมกิจกรรมสวดมนต์ นั่งสมาธิ รับพระพุทธมนต์ และลั่นฆ้องชัยต้อนรับปีใหม่ ในส่วนภูมิภาคได้จัดทำเหมือนกับที่กรุงเทพฯ โดยประสานผู้ว่าราชการจังหวัด 75 จังหวัด วัดที่เข้าร่วมโครงการ มีสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเป็นผู้ดำเนินการ พร้อมองค์กรที่เกี่ยวข้องทางพระพุทธศาสนา เครือข่ายส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม เป็นต้น

 “จากการประเมินผลโครงการส่งท้ายปีเก่าวิถีไทย ต้อนรับปีใหม่วิถีพุทธ ปี 2549 พบว่า ได้รับการตอบรับจากพุทธศาสนิกชน โดยเฉพาะด้านครอบครัว พ่อแม่ลูกหลาน ปู่ย่า ตายาย ร่วมเข้าวัดปฏิบัติธรรม สวดมนต์ไหว้พระในค่ำคืนของวันส่งท้ายปีเก่าเป็นจำนวนมาก เพราะเป็นกิจกรรมที่ส่งสริมคุณธรรมจริยธรรมให้ครอบครัว และเป็นที่พึ่งทางจิตใจของพุทธศาสนิกชนทุกกลุ่มเป้าหมาย ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายของปัญหาสังคม จึงเป็นโอกาสที่จะเริ่มต้นวันขึ้นปีใหม่ในปี2551" นายสด กล่าว

   สำหรับวัดในเขต กทม. ที่เข้าร่วมโครงการส่งท้ายปีเก่าวิถีไทยฯ ได้แก่ 1.วัดสระเกศ 2.วัดเทพศิรินทราวาส 3.วัดชนะสงคราม 4.วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม 5.วัดสุทัศนเทพวราราม 6.วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ 7.วัดพิชยญาติการาม 8.วัดไตรมิตรวิทยาราม 9.วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก 10.วัดราชาธิวาสวิหาร 11.วัดนรนาถสุนทริการาม 12.วัดเทพธิดาราม 13.วัดมหรรณพาราม 14.วัดปากน้ำ 15.วัดปทุมคงคา 16.วัดชัยชนะสงคราม 17.วัดหนัง 18.วัดเทพลีลา 19.วัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต 20.วัดพระศรีมหาธาตุ 21.วัดราชสิงขร 22.วัดดาวดึงษาราม 23.วัดมหาพฤฒาราม 24.วัดยานนาวา 25.วัดธรรมมงคล

 พระเทพวิสุทธิกวี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชาธิวาสวิหาร กล่าวว่า วัดให้การสนับสนุนกิจกรรมทางพุทธศาสนา เป็นสิ่งที่ดีในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ พุทธศาสนิกชนได้เจริญจิตภาวนา อยากให้เกิดขึ้นทุกวัน และอยากเห็นหน่วยงานรัฐรณรงค์ให้สถานที่ทำงาน
ได้มีการสวดมนต์ไหว้พระก่อนทำงาน เพื่อความเป็นสวัสดิมงคลชีวิต
 
 
 
 
 
 
ที่มา-
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages//2007-12-27-3.html
เมื่อ 28 กรกฎาคม 2567 00:33
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv