ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานสาธารณสุข รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ออกกฎหมายห้ามสูบบุหรี่ ไป๊ป์ ซิการ์ ในรถยนต์และยานพาหนะ ที่มีเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี อยู่ภายในรถยนต์ด้วย มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2551 โดยให้เหตุผลว่า เด็กๆ ไม่ได้รับความคุ้มครองสุขภาพในขณะที่ผู้ปกครองหรือผู้ใหญ่สูบบุหรี่ในรถ เด็กจะได้รับอันตรายจากควันบุหรี่มือสอง หากมีคนสูบบุหรี่ในรถจะมีระดับมลพิษที่เป็นอันตรายสูงเป็น 10 เท่าของระดับมาตรฐานที่สำนักงานสิ่งแวดล้อมสหรัฐอเมริกากำหนดไว้ นอกจากนี้ การห้ามสูบบุหรี่ในรถยนต์ยังช่วยลดปริมาณของก้นบุหรี่ที่ถูกทิ้งตามถนนจนเกิดอัคคีภัย

ศ.นพ.ประกิตกล่าวว่า น่าเป็นห่วงเด็กไทยที่ประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายแบบนี้ ทั้งๆ ที่มีข้อมูลยืนยันชัดเจนว่าเด็กๆ ส่วนใหญ่ยังคงได้รับอันตรายจากการได้รับควันบุหรี่อย่างต่อเนื่อง สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ การสำรวจนักเรียนชั้นประถมปีที่ 2-4 ในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 1,067 คน พบว่า พ่อสูบบุหรี่ในรถยนต์ร้อยละ 37.1 ขณะที่ลูกนั่งอยู่ด้วย พ่อสูบบุหรี่ขณะนั่งดูทีวีอยู่กับลูกร้อยละ 25.3 แสดงให้เห็นว่า มีเด็กอีกเป็นจำนวนมากยังคงได้รับอันตรายจากควันบุหรี่มือสอง เป็นโรคติดเชื้อทางระบบหายใจระคายเคืองและอักเสบ ทำให้เด็กเป็นไข้ ไอ เป็นโรคหอบหืด เพราะสารพิษจากควันบุหรี่ไปทำลายปอด โรคหูชั้นกลางอักเสบ เพราะควันบุหรี่ไปทำอันตรายทำให้เกิดน้ำในหูชั้นกลางจนเด็กมีปัญหาการได้ยิน ผู้ปกครองเป็นห่วงบุตรหลาน ควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ในรถยนต์และที่ที่มีเด็กอยู่